บทที่ 1 นาทีชีวิต
http://pantip.com/topic/34238667
บทที่ 2 พิธีฝังศพบนเกาะแอนติปาโรส
http://pantip.com/topic/34249978
บทที่ 3 คำเตือนของสารวัตรลาซารอส
http://pantip.com/topic/34266841
บทที่ 4 เสียงก้องแห่งมโนสำนึก
http://pantip.com/topic/34282151
บทที่ 5 ครั้งหนึ่ง....ที่ซานโตรินี
http://pantip.com/topic/34298356
บทที่ 6 ความหลัง .... ความหวัง
http://pantip.com/topic/34311968
บทที่ 7 เบื้องหลังของนิคกี้
http://pantip.com/topic/34316778/comment4
บทที่ 8 เจ้าแคสซี่แห่งเกาะนักซอส
http://pantip.com/topic/34317405
บทที่ 9 พินัยกรรมของคิโรส
http://pantip.com/topic/34361185
10
อดีตรัก
โดย ฮาร์โมนิก้า
นิโคลาโยส วาลลาซนั่งเรือเร็วของคิโรสซึ่งขับกลับมาส่งเขาที่เกาะปาโรสอย่างอารมณ์เสีย
เขาหงุดหงิดอย่างมากกับพินัยกรรมของคิโรสที่ยกสิทธิ์ในหุ้นส่วนเกือบทั้งหมดของกลุ่มบริษัทในเครือคิริยาคอส
ให้กับนายคริส ไอ้หลานนอกไส้ของตระกูลอนาโตลาคิสคนนั้น
ไม่รู้ตาเฒ่านั่นคิดอะไร ทั้งที่อนาสเตเซียกับเขามีจูเลี่ยนเป็นทายาทให้อยู่แล้ว กลับอุตริไปยกบริษัทให้คนนอก
นายคริสนั่น เขาก็แสนจะไม่ชอบหน้า มันคงนึกว่าเขาไม่รู้ โธ่เอ๋ย! ผู้ชายด้วยกันดูกันออกหรอก ไอ้หมอนี่ชอบทำตา
ละห้อยทุกครั้งที่มองดูอนาสเตเซีย สงสัยนักว่าหมอนี่มีรสนิยมชอบผู้หญิงที่จืดชืดราวกับซากศพหรืออย่างไร
นิโคลาโยสหงุดหงิดมากเสียจนไม่สนใจมองทิวทัศน์รอบข้าง และไม่สนใจที่จะเอ่ยแสดงความยินดีกับอาคิลตามมรรยาท
หรือกระทั่งพูดคุยกับเขาขณะที่นั่งเรือกลับมาที่ปาโรส
เมื่ออาคิลนำเรือเร็วแบบสปอร์ตมาจอดเทียบท่าเรือเล็กที่บ้านของเขาและอนาสเตเซีย นิโคลาโยสก็รีบลุกจากที่นั่งด้านหลัง
ซึ่งเขาไม่ยอมไปนั่งคู่ด้านหน้ากับอาคิล แล้วก้าวขึ้นจากเรืออย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจจะเอ่ยคำอำลากับอาคิลที่นั่งอยู่
หลังพวงมาลัยเรือ
เขาลงและโบกมือให้อาคิลกลับหันหัวเรือออกไปเลย เพื่อกลับไปที่เกาะแอนติปาโรส
ชายหนุ่มนึกโกรธทุกคนในที่นั้นไปหมด เขาอยากโวยวายใส่สเตฟานอส นักกฎหมายที่จัดการเรื่องพินัยกรรม แต่ก็ยังพยายาม
เก็บอาการไว้ เพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไร สเตฟานอสเป็นเพียงนักกฏหมายที่ทำตามความประสงค์ของลูกค้าและไม่มีอำนาจ
ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรที่คิโรสทำไป
เมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็สู้เก็บอาการเอาไว้ดีกว่าจะปล่อยให้มีพิรุธให้ใครต่อใครจ้องจับผิด
แต่ลาซารอสนี่สิ ยั่วโมโหเขาพอตัวทีเดียว
นิโคลาโยสนึกถึงคำสนทนาระหว่างเขากับสารวัตรลาซารอสที่สำนักงานกฎหมายนั่น ดราโก้ถามเขาขึ้นมาหลังการอ่านพินัยกรรม
เสร็จสิ้น ว่าเขารู้สึกยังไงที่พ่อตายกหุ้นส่วนในธุรกิจของตระกูลเกือบทั้งหมดให้กฤชไป
เขาจำได้ว่าเขามองหน้าสารวัตรนิ่งๆ พยายามวางสีหน้าให้เป็นปกติมากที่สุด
“สารวัตรถามผมในฐานะอะไรล่ะ” เขาย้อน “ในฐานะสามีของอนาสเตเซีย ผมย่อมรู้สึกเฉยๆ เพราะผมไม่ได้แต่งงานกับเธอเพื่อหวัง
ในทรัพย์สิน ไม่เช่นนั้นผมคงไม่ยอมเซ็นสัญญาก่อนแต่งนั่นหรอก”
“ผมรู้ว่าคุณยอมเซ็นชื่อในสัญญาข้อตกลงก่อนแต่งงานไป แต่นั่นมันก่อนที่คุณกับมาดามวาลลาซจะมีทายาทด้วยกัน คุณจะบอกว่า
คุณรู้สึกว่ามันยุติธรรมดีแล้วที่คุณคิริยาคอสยกธุรกิจของตระกูลให้กับคนในตระกูลอนาโตลาคิส ไปอย่างนั้นหรือ” สารวัตรกล่าว
นิโคลาโยสหลุบตาลง ยักไหล่นิดหนึ่ง
“ถ้านั่นเป็นความประสงค์ของคนที่เป็นตาของลูกผม แล้วผมจะไปทำอะไรได้ ในเมื่อมันไม่ใช่สิทธิ์ของผมที่จะไปโต้แย้งอะไร
และสารวัตรคงไม่คิดว่าผมจะไปโวยวายกับคนที่ตายไปแล้วหรอกนะ”
ก่อนดราโก้จะพูดอะไรต่อ สเตฟานอสก็เดินมาเรียกอนาสเตเซียซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ นิโคลาโยส
“มาดามวาลลาซ ผมต้องขอเชิญคุณกับคิริโยสอนาโตลาคิสที่ห้องทำงานส่วนตัวของผมหน่อย”
“มีอะไรหรือคะ” อนาสเตเซียเอ่ยถามเบาๆ
สเตฟานอสนิ่งไปเพียงนิดหนึ่งก่อนจะพูด
“เกี่ยวกับพินัยกรรมที่ประกาศไป มีเอกสารกับข้อสัญญาต่างๆ ที่คุณกับคิริโยสอนาโตลาคิสต้องไปอ่านให้ละเอียด และเซ็นชื่อ
รับทราบ คงต้องใช้เวลานานหน่อย”
เขาพูดจบก็มองหน้านิโคลาโยส
“ไม่ทราบคุณวาลลาซจะสะดวกนั่งคอยอยู่ที่ห้องรับรองไหม ผมจะสั่งให้เขาเอากาแฟมาเพิ่ม”
นิโคลาโยสทำสีหน้าส่อแววหงุดหงิดนิดหนึ่ง ให้เขานั่งคอยอยู่แล้วรอให้ตำรวจสองนายนี่คอยจับผิดและซักถามโน่นนี่เขาเห็นจะ
ไม่มีทางหรอก
“ขอโทษนะคุณทนาย” เขาพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มนิดๆ ที่จุดประกายเสน่ห์เน้นความหล่อคมเข้มอย่างน่ามอง “ผมมีนัดที่โรงแรม
ต้องไปให้ทันบ่ายนี้ คุณต้องการเวลาจากภรรยาผมนานขนาดไหนล่ะ”
สเตฟานอสนิ่งไป ขณะที่อนาสเตเซียอึดอัด ตอนนี้เองที่สารวัตรลาซารอสเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการ
“ไม่เป็นไรนี่ครับ คุณโรคาซขับเรือเร็วมาพร้อมกับคุณอนาโตลาคิสไม่ใช่หรือ คุณก็นั่งเรือเร็วกลับไปพร้อมกับคุณโรคาซก่อน
ก็ได้นี่ครับ หรือถ้าสะดวกเครื่องบินน้ำมากกว่าคุณก็ไปนั่งคอยกับผมก็ได้ ผมยินดีเลี้ยงกาแฟ”
ดราโก้ ลาซารอสตบท้ายด้วยคำถาม เขามองสีหน้าพิพักพิพ่วนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของนิโคลาโยส อย่างขบขันก่อนจะพูดต่อ
“ถ้าคุณวาลลาซไม่มีเวลาดื่มกาแฟกับผม ก็คงต้องใช้เรือเร็วกลับ คุณอนาโตลาคิสก็ต้องกลับเครื่องบินน้ำพร้อมมาดามวาลลาซแทน”
นิโคลาโยสกวาดสายตาคมกริบของตนไปยังกฤชกับอนาสเตเซีย และย้อนกลับไปที่สเตฟานอส เขารู้สึกหงุดหงิดไม่รู้มีอะไร
หมกเม็ดไว้อีกหรือเปล่าที่สเตฟานอสไม่ต้องการให้เขารู้
เมื่อเห็นทุกคนรุมเสนอแนะขนาดนั้น อีกทั้งตัวเขาเองก็ต้องการไปให้พ้นจากนายตำรวจจอมแส่สองนายนั่นโดยเร็ว ให้ไปนั่ง
ดื่มกาแฟกับเจ้าลาซารอสนั่นเห็นจะไม่มีทาง ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ายอมรับอย่างไว้เชิง
“ดีเหมือนกัน” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้างั้นผมลาเลยแล้วกันครับ สารวัตรและทุกๆ คน”
นิโคลาโยสพูดจบก็ลุกขึ้น ด้วยความรู้สึกอยากเอาชนะเล็กๆ น้อยๆ บางอย่าง เขาหันไปรวบตัวอนาสเตเซียเข้าไว้ในอ้อมกอด
ก่อนจะก้มลงจุมพิตเธออย่างดูดดื่มโดยเจตนาต่อหน้าคนอื่นในห้องอยู่หลายวินาที
“อย่านานนะที่รัก”
เขากระซิบเบาๆ ที่ริมหูหลังจากถอนริมฝีปากออกแล้ว เสียงแหบพร่านั้นเต็มไปด้วยความหมาย และมีเจตนาให้คนข้างๆ ได้ยิน
สีหน้าตกตะลึงของกฤชสร้างความสะใจให้กับนิโคลาโยสเป็นอย่างมาก เขาเจตนาจูบอนาสเตเซียอย่างดูดดื่มเพียงเพื่อเย้ยกฤชเล่น
เป็นการแก้เผ็ดให้หายหมั่นไส้
นิโคลาโยสปล่อยมือจากร่างของภรรยาที่ตัวแข็งไปด้วยความโกรธ ชายหนุ่มคว้าหมวกที่วางไว้มาสวม รอยยิ้มที่มุมปากบ่งบอก
ความสะใจอย่างเหลือแสน เขาเอามือแตะหมวกก้มศีรษะนิดหนึ่งเป็นการอำลา ก่อนจะก้าวนำอาคิลออกจากห้องไป
หนุ่มใหญ่รูปหล่ออย่างเขาสามารถสะกดกลั้นความโกรธไว้ได้เพียงเท่านั้น เมื่อพ้นอาคารหลังนั้นออกมา เขาก็ไม่อาจเก็บซ่อนความ
ไม่พอใจไว้ได้อีกต่อไป นิโคลาโยสนิ่งเงียบตลอดทางที่เดินผ่านตรอกคนเดินเล็กๆ เพื่อลงไปยังถนนใหญ่ด้านล่างสู่ท่าเรือซึ่งอาคิล
จอดเรือเร็วไว้ เขาไม่สนใจที่จะผ่อนฝีเท้าให้ช้าลงเพื่อคอยอาคิลแต่เดินนำลิ่วไปไกล
ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนโดนหยามน้ำหน้าอย่างแรง การที่คิโรสยกหุ้นส่วนในบริษัทของเขาเกือบทั้งหมดให้กฤช มันเป็นการแสดงออก
ให้เห็นอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าคิโรสอยากได้กฤชเป็นลูกเขยขนาดไหน
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ยิ่งชังน้ำหน้าไอ้คนไทยคนนั้นมากขึ้น
ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้ธุรกิจที่ควรจะต้องตกเป็นของจูเลี่ยน ไปเป็นของคนอื่นอย่างไม่ชอบธรรมเช่นนี้ เขาเฝ้าฝันมานานแล้วว่า
ชื่อของนิโคลาโยส วาลลาซจะต้องกลายเป็นชื่อที่มีความสำคัญ เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ที่เพียงแค่เอ่ยนามใครต่อใครก็รู้จักและยำเกรง
นิโคลาโยสกดโทรศัพท์ไปนัดพบคาริสซ่า รอสซี่ แม่นางแบบสาวผมแดงที่แสนจะร้อนแรงนั่นน่าจะช่วยดับโมโหให้เขาได้ เมื่อวางสาย
จากหล่อนเขาก็ตัดสินใจฉับพลันกดไปหาใครอีกคนหนึ่ง
“ฮัลโหล คาร์ลอสหรือ” เขาพูดเมื่อปลายทางรับสาย “ฉันเอง นิคกี้”
ปมรัก รอยอดีต Book I รอยอดีต บทที่ 10 อดีตรัก
http://pantip.com/topic/34238667
บทที่ 2 พิธีฝังศพบนเกาะแอนติปาโรส
http://pantip.com/topic/34249978
บทที่ 3 คำเตือนของสารวัตรลาซารอส
http://pantip.com/topic/34266841
บทที่ 4 เสียงก้องแห่งมโนสำนึก
http://pantip.com/topic/34282151
บทที่ 5 ครั้งหนึ่ง....ที่ซานโตรินี
http://pantip.com/topic/34298356
บทที่ 6 ความหลัง .... ความหวัง
http://pantip.com/topic/34311968
บทที่ 7 เบื้องหลังของนิคกี้
http://pantip.com/topic/34316778/comment4
บทที่ 8 เจ้าแคสซี่แห่งเกาะนักซอส
http://pantip.com/topic/34317405
บทที่ 9 พินัยกรรมของคิโรส
http://pantip.com/topic/34361185
10
อดีตรัก
โดย ฮาร์โมนิก้า
นิโคลาโยส วาลลาซนั่งเรือเร็วของคิโรสซึ่งขับกลับมาส่งเขาที่เกาะปาโรสอย่างอารมณ์เสีย
เขาหงุดหงิดอย่างมากกับพินัยกรรมของคิโรสที่ยกสิทธิ์ในหุ้นส่วนเกือบทั้งหมดของกลุ่มบริษัทในเครือคิริยาคอส
ให้กับนายคริส ไอ้หลานนอกไส้ของตระกูลอนาโตลาคิสคนนั้น
ไม่รู้ตาเฒ่านั่นคิดอะไร ทั้งที่อนาสเตเซียกับเขามีจูเลี่ยนเป็นทายาทให้อยู่แล้ว กลับอุตริไปยกบริษัทให้คนนอก
นายคริสนั่น เขาก็แสนจะไม่ชอบหน้า มันคงนึกว่าเขาไม่รู้ โธ่เอ๋ย! ผู้ชายด้วยกันดูกันออกหรอก ไอ้หมอนี่ชอบทำตา
ละห้อยทุกครั้งที่มองดูอนาสเตเซีย สงสัยนักว่าหมอนี่มีรสนิยมชอบผู้หญิงที่จืดชืดราวกับซากศพหรืออย่างไร
นิโคลาโยสหงุดหงิดมากเสียจนไม่สนใจมองทิวทัศน์รอบข้าง และไม่สนใจที่จะเอ่ยแสดงความยินดีกับอาคิลตามมรรยาท
หรือกระทั่งพูดคุยกับเขาขณะที่นั่งเรือกลับมาที่ปาโรส
เมื่ออาคิลนำเรือเร็วแบบสปอร์ตมาจอดเทียบท่าเรือเล็กที่บ้านของเขาและอนาสเตเซีย นิโคลาโยสก็รีบลุกจากที่นั่งด้านหลัง
ซึ่งเขาไม่ยอมไปนั่งคู่ด้านหน้ากับอาคิล แล้วก้าวขึ้นจากเรืออย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจจะเอ่ยคำอำลากับอาคิลที่นั่งอยู่
หลังพวงมาลัยเรือ
เขาลงและโบกมือให้อาคิลกลับหันหัวเรือออกไปเลย เพื่อกลับไปที่เกาะแอนติปาโรส
ชายหนุ่มนึกโกรธทุกคนในที่นั้นไปหมด เขาอยากโวยวายใส่สเตฟานอส นักกฎหมายที่จัดการเรื่องพินัยกรรม แต่ก็ยังพยายาม
เก็บอาการไว้ เพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไร สเตฟานอสเป็นเพียงนักกฏหมายที่ทำตามความประสงค์ของลูกค้าและไม่มีอำนาจ
ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรที่คิโรสทำไป
เมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็สู้เก็บอาการเอาไว้ดีกว่าจะปล่อยให้มีพิรุธให้ใครต่อใครจ้องจับผิด
แต่ลาซารอสนี่สิ ยั่วโมโหเขาพอตัวทีเดียว
นิโคลาโยสนึกถึงคำสนทนาระหว่างเขากับสารวัตรลาซารอสที่สำนักงานกฎหมายนั่น ดราโก้ถามเขาขึ้นมาหลังการอ่านพินัยกรรม
เสร็จสิ้น ว่าเขารู้สึกยังไงที่พ่อตายกหุ้นส่วนในธุรกิจของตระกูลเกือบทั้งหมดให้กฤชไป
เขาจำได้ว่าเขามองหน้าสารวัตรนิ่งๆ พยายามวางสีหน้าให้เป็นปกติมากที่สุด
“สารวัตรถามผมในฐานะอะไรล่ะ” เขาย้อน “ในฐานะสามีของอนาสเตเซีย ผมย่อมรู้สึกเฉยๆ เพราะผมไม่ได้แต่งงานกับเธอเพื่อหวัง
ในทรัพย์สิน ไม่เช่นนั้นผมคงไม่ยอมเซ็นสัญญาก่อนแต่งนั่นหรอก”
“ผมรู้ว่าคุณยอมเซ็นชื่อในสัญญาข้อตกลงก่อนแต่งงานไป แต่นั่นมันก่อนที่คุณกับมาดามวาลลาซจะมีทายาทด้วยกัน คุณจะบอกว่า
คุณรู้สึกว่ามันยุติธรรมดีแล้วที่คุณคิริยาคอสยกธุรกิจของตระกูลให้กับคนในตระกูลอนาโตลาคิส ไปอย่างนั้นหรือ” สารวัตรกล่าว
นิโคลาโยสหลุบตาลง ยักไหล่นิดหนึ่ง
“ถ้านั่นเป็นความประสงค์ของคนที่เป็นตาของลูกผม แล้วผมจะไปทำอะไรได้ ในเมื่อมันไม่ใช่สิทธิ์ของผมที่จะไปโต้แย้งอะไร
และสารวัตรคงไม่คิดว่าผมจะไปโวยวายกับคนที่ตายไปแล้วหรอกนะ”
ก่อนดราโก้จะพูดอะไรต่อ สเตฟานอสก็เดินมาเรียกอนาสเตเซียซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ นิโคลาโยส
“มาดามวาลลาซ ผมต้องขอเชิญคุณกับคิริโยสอนาโตลาคิสที่ห้องทำงานส่วนตัวของผมหน่อย”
“มีอะไรหรือคะ” อนาสเตเซียเอ่ยถามเบาๆ
สเตฟานอสนิ่งไปเพียงนิดหนึ่งก่อนจะพูด
“เกี่ยวกับพินัยกรรมที่ประกาศไป มีเอกสารกับข้อสัญญาต่างๆ ที่คุณกับคิริโยสอนาโตลาคิสต้องไปอ่านให้ละเอียด และเซ็นชื่อ
รับทราบ คงต้องใช้เวลานานหน่อย”
เขาพูดจบก็มองหน้านิโคลาโยส
“ไม่ทราบคุณวาลลาซจะสะดวกนั่งคอยอยู่ที่ห้องรับรองไหม ผมจะสั่งให้เขาเอากาแฟมาเพิ่ม”
นิโคลาโยสทำสีหน้าส่อแววหงุดหงิดนิดหนึ่ง ให้เขานั่งคอยอยู่แล้วรอให้ตำรวจสองนายนี่คอยจับผิดและซักถามโน่นนี่เขาเห็นจะ
ไม่มีทางหรอก
“ขอโทษนะคุณทนาย” เขาพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มนิดๆ ที่จุดประกายเสน่ห์เน้นความหล่อคมเข้มอย่างน่ามอง “ผมมีนัดที่โรงแรม
ต้องไปให้ทันบ่ายนี้ คุณต้องการเวลาจากภรรยาผมนานขนาดไหนล่ะ”
สเตฟานอสนิ่งไป ขณะที่อนาสเตเซียอึดอัด ตอนนี้เองที่สารวัตรลาซารอสเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการ
“ไม่เป็นไรนี่ครับ คุณโรคาซขับเรือเร็วมาพร้อมกับคุณอนาโตลาคิสไม่ใช่หรือ คุณก็นั่งเรือเร็วกลับไปพร้อมกับคุณโรคาซก่อน
ก็ได้นี่ครับ หรือถ้าสะดวกเครื่องบินน้ำมากกว่าคุณก็ไปนั่งคอยกับผมก็ได้ ผมยินดีเลี้ยงกาแฟ”
ดราโก้ ลาซารอสตบท้ายด้วยคำถาม เขามองสีหน้าพิพักพิพ่วนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของนิโคลาโยส อย่างขบขันก่อนจะพูดต่อ
“ถ้าคุณวาลลาซไม่มีเวลาดื่มกาแฟกับผม ก็คงต้องใช้เรือเร็วกลับ คุณอนาโตลาคิสก็ต้องกลับเครื่องบินน้ำพร้อมมาดามวาลลาซแทน”
นิโคลาโยสกวาดสายตาคมกริบของตนไปยังกฤชกับอนาสเตเซีย และย้อนกลับไปที่สเตฟานอส เขารู้สึกหงุดหงิดไม่รู้มีอะไร
หมกเม็ดไว้อีกหรือเปล่าที่สเตฟานอสไม่ต้องการให้เขารู้
เมื่อเห็นทุกคนรุมเสนอแนะขนาดนั้น อีกทั้งตัวเขาเองก็ต้องการไปให้พ้นจากนายตำรวจจอมแส่สองนายนั่นโดยเร็ว ให้ไปนั่ง
ดื่มกาแฟกับเจ้าลาซารอสนั่นเห็นจะไม่มีทาง ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ายอมรับอย่างไว้เชิง
“ดีเหมือนกัน” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้างั้นผมลาเลยแล้วกันครับ สารวัตรและทุกๆ คน”
นิโคลาโยสพูดจบก็ลุกขึ้น ด้วยความรู้สึกอยากเอาชนะเล็กๆ น้อยๆ บางอย่าง เขาหันไปรวบตัวอนาสเตเซียเข้าไว้ในอ้อมกอด
ก่อนจะก้มลงจุมพิตเธออย่างดูดดื่มโดยเจตนาต่อหน้าคนอื่นในห้องอยู่หลายวินาที
“อย่านานนะที่รัก”
เขากระซิบเบาๆ ที่ริมหูหลังจากถอนริมฝีปากออกแล้ว เสียงแหบพร่านั้นเต็มไปด้วยความหมาย และมีเจตนาให้คนข้างๆ ได้ยิน
สีหน้าตกตะลึงของกฤชสร้างความสะใจให้กับนิโคลาโยสเป็นอย่างมาก เขาเจตนาจูบอนาสเตเซียอย่างดูดดื่มเพียงเพื่อเย้ยกฤชเล่น
เป็นการแก้เผ็ดให้หายหมั่นไส้
นิโคลาโยสปล่อยมือจากร่างของภรรยาที่ตัวแข็งไปด้วยความโกรธ ชายหนุ่มคว้าหมวกที่วางไว้มาสวม รอยยิ้มที่มุมปากบ่งบอก
ความสะใจอย่างเหลือแสน เขาเอามือแตะหมวกก้มศีรษะนิดหนึ่งเป็นการอำลา ก่อนจะก้าวนำอาคิลออกจากห้องไป
หนุ่มใหญ่รูปหล่ออย่างเขาสามารถสะกดกลั้นความโกรธไว้ได้เพียงเท่านั้น เมื่อพ้นอาคารหลังนั้นออกมา เขาก็ไม่อาจเก็บซ่อนความ
ไม่พอใจไว้ได้อีกต่อไป นิโคลาโยสนิ่งเงียบตลอดทางที่เดินผ่านตรอกคนเดินเล็กๆ เพื่อลงไปยังถนนใหญ่ด้านล่างสู่ท่าเรือซึ่งอาคิล
จอดเรือเร็วไว้ เขาไม่สนใจที่จะผ่อนฝีเท้าให้ช้าลงเพื่อคอยอาคิลแต่เดินนำลิ่วไปไกล
ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนโดนหยามน้ำหน้าอย่างแรง การที่คิโรสยกหุ้นส่วนในบริษัทของเขาเกือบทั้งหมดให้กฤช มันเป็นการแสดงออก
ให้เห็นอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าคิโรสอยากได้กฤชเป็นลูกเขยขนาดไหน
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ยิ่งชังน้ำหน้าไอ้คนไทยคนนั้นมากขึ้น
ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้ธุรกิจที่ควรจะต้องตกเป็นของจูเลี่ยน ไปเป็นของคนอื่นอย่างไม่ชอบธรรมเช่นนี้ เขาเฝ้าฝันมานานแล้วว่า
ชื่อของนิโคลาโยส วาลลาซจะต้องกลายเป็นชื่อที่มีความสำคัญ เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ที่เพียงแค่เอ่ยนามใครต่อใครก็รู้จักและยำเกรง
นิโคลาโยสกดโทรศัพท์ไปนัดพบคาริสซ่า รอสซี่ แม่นางแบบสาวผมแดงที่แสนจะร้อนแรงนั่นน่าจะช่วยดับโมโหให้เขาได้ เมื่อวางสาย
จากหล่อนเขาก็ตัดสินใจฉับพลันกดไปหาใครอีกคนหนึ่ง
“ฮัลโหล คาร์ลอสหรือ” เขาพูดเมื่อปลายทางรับสาย “ฉันเอง นิคกี้”