ปมรัก รอยอดีต Book I รอยอดีต บทที่ 4 เสียงก้องแห่งมโนสำนึก

กระทู้สนทนา
บทที่ 1 นาทีชีวิต
http://pantip.com/topic/34238667

บทที่ 2 พิธีฝังศพบนเกาะแอนติปาโรส
http://pantip.com/topic/34249978

บทที่ 3 คำเตือนของสารวัตรลาซารอส
http://pantip.com/topic/34266841




4
เสียงก้องแห่งมโนสำนึก



โดย ฮาร์โมนิก้า


แม้สารวัตรลาซารอสจะกลับไปนานแล้วแต่คำพูดของเขายังคงก้องอยู่ในความคิดคำนึงของเธอ
จริงหรือที่บิดาเธอยอมจ่ายค่าไถ่ให้กับโจรโฉดที่ลักพาตัวเธอกับแม่ไปในอดีต อนาสเตเซียคิดอย่างร้าวรานใจ เธอรำลึกถึงเหตุการณ์
เย็นวันหนึ่งเมื่อสองเดือนก่อนที่เธอทุ่มเถียงกับคิโรสอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกหลังจากที่เพิกเฉยหมางเมินบิดาและพยายามพูดคุยกับเขา
เท่าที่จำเป็นมาตลอดสิบแปดปีหลังการตายอย่างน่าเศร้าของอแนสซ่า

อนาสเตเซียกำลังสติแตก โทรศัพท์ที่โทรมาเรียกร้องค่าไถ่ตัวจูเลี่ยนหลังจากที่เธอและคนทั้งบ้านเที่ยวตามหาตัวบุตรชายทันทีที่รู้ว่า
เขาหายตัวไปจากย่านร้านค้าที่เธอและอคาเซียพี่เลี้ยงของจูเลี่ยนพาเขาไปเดินเล่นซื้อของ โทรศัพท์นั้นโทรมาหลังจากจูเลี่ยนหาย
ตัวไปนานถึงสี่ชั่วโมง ทั้งเธอและทุกๆ คนในบ้านต่างเครียดกังวลอย่างหนัก

คิโรสขับเรือเร็วของเขามาจากบ้านบนเกาะแอนติปาโรสเพียงลำพัง เพื่อมาพบเธอที่บ้านบนเกาะปาโรสและบอกให้เธอแจ้งความ
ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่เห็นด้วย เขาคัดค้านที่เธอคิดจะจ่ายค่าไถ่เองเงียบๆ ตามข้อเรียกร้องของโจรง่ายๆ โดยไม่คิดให้ตำรวจ
เข้ามาจัดการ

“ฟังนะอัณญ่า ลูกต้องแจ้งความ เงินที่พวกมันเรียกร้องไม่ใช่น้อยๆ แล้วลูกจะแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะคืนตัวจูเลี่ยนให้ลูก” คิโรส
พยายามเตือนสติเธอ

“พ่อห่วงแค่นี้หรือคะ พ่อห่วงเรื่องเงินค่าไถ่ที่ต้องเสียแค่หนึ่งล้านเหรียญ ทั้งที่พ่อมีอยู่มหาศาล”

“มันไม่ใช่เรื่องเงิน แต่พ่อห่วงว่าถ้าลูกไม่ทำและไม่คิดให้รอบคอบ เท่ากับลูกทำให้จูเลี่ยนตกอยู่ในอันตราย ทำไมลูกไม่ฟังเหตุผลบ้าง
ลูกไม่คิดหรือว่ามันจะฆ่าจูเลี่ยนเพื่อปิดปากทันทีหลังจากที่ได้เงินจากลูกไปแล้วน่ะ”

“พ่อไม่ได้ฟังหรือคะ หนูบอกแล้วว่ามันขู่จะตัดแขนจูเลี่ยนถ้าเราแจ้งความ พ่อได้ยินไหมคะ ตัดแขนลูกชายหนู เขาเพิ่ง
จะหกขวบเองนะคะ”

หญิงสาวขึ้นเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ด้วยแรงอารมณ์ เธอหลับตาสะบัดศีรษะขับไล่ความมึนงงหลังจากที่เครียดจนแทบบ้ามานานหลายชั่วโมง

“พ่อไม่ต้องมายุ่งกับการตัดสินใจของหนู นี่ลูกหนู หนูมีหน้าที่ต้องปกป้องเขา และหนูจะไม่ยอมทอดทิ้งเขาเหมือนที่พ่อทำกับหนูกับแม่”

“อัณญ่าลูกพูดอะไร” เสียงของคิโรสทั้งประหลาดใจและสะเทือนใจ “ลูกคิดว่าพ่อทอดทิ้งลูกกับแม่งั้นหรือ”

อนาสเตเซียบังคับตัวเองไม่ให้อ่อนไหวไปกับน้ำเสียงที่บ่งบอกความร้าวรานใจของบิดา

“แล้วพ่อคิดว่ายังไงล่ะคะ” เธอย้อนถาม “ถ้าพ่อจ่ายค่าไถ่ไป ตอนนี้แม่ก็คงยังอยู่กับเรา และน้องก็คงมีโอกาสได้มีชีวิตอยู่ ป่านนี้น้อง
คงจะอายุสิบแปดแล้วถูกไหมคะ”

“ลูกเข้าใจพ่อผิดแล้วอัณญ่า พ่อจ่ายค่าไถ่ นั่นล่ะความผิดพลาดที่พ่อทำ พ่อทำตามข้อเรียกร้องของพวกมันง่ายๆ ไม่เชื่อคำแนะนำ
ของตำรวจ พ่อไม่ได้ให้ตำรวจตามพ่อไปตอนที่จ่ายค่าไถ่ และพ่อก็ถูกพวกมันหักหลัง มันไม่ได้บอกที่ซ่อนจริงๆ ของลูกและแม่ให้พ่อรู้
เพราะอย่างนี้พ่อจึงเตือนลูกให้คิดดีๆ เรื่องค่าไถ่ของจูเลี่ยน”

“หนูไม่เชื่อ” อนาสเตเซียพูดอย่างไร้เยื่อไย “หนูได้ยินกับหูนะคะพ่อ ไอ้โจรนั่นมันบอกเราว่าพ่อไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ ก่อนที่จะปล่อยเรา
ให้ตายในถ้ำนั้น”

“พ่อรู้ไหมคะ” หญิงสาวพูดต่อหลังจากกลืนก้อนสะอื้นในลำคอ “จนถึงตอนนั้น แม่ก็ยังบอกให้หนูอย่าคิดร้ายต่อพ่อ แล้วยังฝากให้หนู
บอกพ่อว่าแม่รักพ่อแค่ไหน พ่อรู้ไหมคะ จนถึงตอนที่น้ำทะเลท่วมขึ้นมาถึงหัวเข่า แม่ยังคิดถึงพ่อในแง่ดี ทั้งที่พ่อไม่ยอมจ่ายค่าไถ่
และปล่อยให้เราตาย” หญิงสาวกรีดร้องออกมาด้วยความเสียใจและคลั่งแค้น

คิโรสพยายามจะเดินเข้ามาโอบกอดลูกสาว แต่เธอสะบัดหนี

“อัณญ่า ลูกจะเชื่อคำพูดของโจรที่ลักพาตัวลูก มากกว่าพ่อของลูกงั้นหรือ ทำไมลูกไม่เคยปริปากบอกพ่อ ว่าลูกเข้าใจพ่อผิดแบบนี้
เพราะอย่างนี้เองหรือที่ทำให้ลูกห่างเหิน เย็นชากับพ่อตลอดเวลาสิบกว่าปีมานี่”

อนาสเตเซียยืนนิ่งหันหลังให้บิดาโดยไม่ตอบว่าอะไร เสียงของคิโรสสั่นเครืออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อยามที่เขา
ตัดพ้อลูกสาวคนเดียว

“ตลอดมาพ่อไม่เคยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวคนเดียวของพ่อ วันนั้นเมื่อสิบแปดปีก่อน พ่อไม่ได้สูญเสียแต่แม่ของลูก
ซึ่งเป็นดั่งดวงใจของพ่อ แต่พ่อ ..”
เขาหยุดกลั้นสะอื้นที่จุกขึ้นมาที่ลำคอ น้ำตาของลูกผู้ชายที่เกิดจากความชอกช้ำใจเนื่องจากความคลางแคลงใจและความ
เย็นชาเหมือนเป็นคนอื่นของลูกสาวไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“พ่อได้สูญเสียลูกซึ่งเป็นดั่งแก้วตาของพ่อไปด้วยถึงสองคน โดยที่พ่อไม่เคยมีโอกาสรู้เลยว่าเพราะอะไร”

คำพูดนั้นเศร้าเสียดแทงใจจนเกินกว่าอนาสเตเซียจะทนรับไหว เธอยืนนิ่งสะกดกลั้นความรู้สึกที่อยากจะวิ่งเข้าไปซบอก
และปลอบโยนบิดา หัวใจเธอราวกับถูกฉีกกระชากระหว่างความต้องการที่จะเชื่อคำพูดคิโรสกับความโกรธแค้นที่สะสมไว้
นานมากจนเกินไป

“พ่อไปเสียเถอะค่ะ ตอนนี้หนูไม่พร้อมจะรับฟังอะไรทั้งนั้น” อนาสเตเซียเลือกที่จะเมินหน้าหนีจากใบหน้าโศกสลดของเขา
“หนูมีเรื่องของจูเลี่ยนที่ต้องจัดการ และหนูไม่ต้องการให้มันล่าช้ามากไปกว่านี้”

คิโรสยืนนิ่งอยู่ครู่แล้วก็ยอมแพ้

“ได้พ่อจะรอให้ลูกอารมณ์ดีกว่านี้ก่อน พ่อขอให้ลูกโชคดี ได้จูเลี่ยนกลับมาอย่างปลอดภัย และหากลูกต้องการความช่วยเหลือ
อะไร หรือยอมให้พ่อได้ช่วยอะไรลูก ก็ขอให้บอก พ่อจะคอยฟังข่าวอยู่ตลอดเวลา”

สิ้นคำกล่าวสุดท้ายนักธุรกิจใหญ่ผู้ประสบความสำเร็จมหาศาลด้วยตัวเองก็เดินจากไปด้วยฝีเท้าของชายชรา  ในนาทีนั้นอนาสเตเซีย
รู้สึกสะเทือนใจอย่างรุนแรง บิดาผู้เป็นดั่งราชสีห์ที่ใครๆ ต่างยำเกรง บัดนี้กลับเดินคอตกจากไปอย่างน่าเวทนา

แววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสะเทือนใจอย่างล้ำลึก จากคำพูดที่หักหาญของบุตรสาวเพียงคนเดียว ยังคงฝังแน่นอยู่ในความ
ทรงจำของเธอทุกครั้งที่หวนคำนึง แต่เธอพยายามปัดมันทิ้ง ด้วยไม่ต้องการคิดถึงความเป็นไปได้ที่ว่าตัวเองจะเข้าใจผิด และหลง
ทำโทษบิดาทางจิตใจอย่างผิดๆ มาตลอดหลายปี

หรือว่าเธอจะเข้าใจผิดจริงๆ ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่