บทที่ 1 นาทีชีวิต
http://pantip.com/topic/34238667
บทที่ 2 พิธีฝังศพบนเกาะแอนติปาโรส
http://pantip.com/topic/34249978
บทที่ 3 คำเตือนของสารวัตรลาซารอส
http://pantip.com/topic/34266841
บทที่ 4 เสียงก้องแห่งมโนสำนึก
http://pantip.com/topic/34282151
บทที่ 5 ครั้งหนึ่ง....ที่ซานโตรินี
http://pantip.com/topic/34298356
บทที่ 6 ความหลัง .... ความหวัง
http://pantip.com/topic/34311968
บทที่ 7 เบื้องหลังของนิคกี้
http://pantip.com/topic/34316778/comment4
บทที่ 8 เจ้าแคสซี่แห่งเกาะนักซอส
http://pantip.com/topic/34317405
9
พินัยกรรมของคิโรส
โดย ฮาร์โมนิก้า
อนาสเตเซียนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นจากเกาะนักซอส ลอยลำอยู่เหนือบ้านไร่ของครอบครัวคาคาราส
สองสามีภรรยายืนโบกมือให้ในขณะที่เจ้าแคสซี่สุนัขแสนรู้ยืนเห่าอำลา พลางชูสองขาหน้าขึ้นเป็นระยะๆ ลูกๆของเจ้าแคสซี่
สองตัวซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรกับใครด้วยแต่ก็ตื่นเต้นตามแม่ของมัน กระโดดโหยงเหย็งพลางแย่งกันงับหางที่กระดิกอยู่ตลอดเวลา
ของแม่มันเล่นอย่างเพลิดเพลิน
หญิงสาวขับเฮลิคอปเตอร์กลับไปยังบ้านของเธอทางตอนเหนือของเกาะปาโรส ในสมองนั้นสับสนกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว
มันเหมือนมีชิ้นส่วนภาพต่อเล็กๆ นับไม่ถ้วนทิ้งไว้ให้เธอค้นหาและต่อเอาเองทีละชิ้นจนกว่าจะได้ภาพใหญ่ที่ชัดเจนว่าทั้งหมด
ที่เกิดขึ้นกับเธอและครอบครัวคืออะไร
มันจะแปลกอะไรหรือกับการที่นิโคลาโยสจะมาขอซื้อลูกหมาจากไร่ของฟาริส คาคาราส ทำไมเรื่องนี้จึงรบกวนจิตใจเธอมากนัก
เธอไม่เคยเชิญสองสามีภรรยาคาคาราสมางานแต่งงานของเธอ หรือมาร่วมรับประทานอาหารกับสามี คนทั้งสามไม่รู้จักกัน
อนาสเตเซียรู้จักและคบหากับครอบครัวคาคาราสเป็นระยะๆ มานานถึงสิบแปดปีก็จริง แต่เว้นช่วงไปแปดปีในช่วงที่เธอออกจาก
ประเทศกรีซไป ฟาริสเป็นฝ่ายมาเยี่ยมเยียนเธอตลอดเวลา หลังจากใช้เวลาหนึ่งปีที่สถานบำบัดจิตจากอาการซึมเศร้าบนเกาะซีโรส
เธอได้เดินทางไปศึกษาต่อที่เจเนวา สวิสเซอร์แลนด์เป็นเวลาสิบปีเต็ม อนาสเตเซียเรียนช้ากว่าคนอื่นด้วยเสียเวลาในชีวิตไป
นานเกือบสองปี
ตลอดระยะเวลาที่จากกรีซไปเธอไม่ได้กลับมาอีกเลย จนกระทั่งเมื่อเจ็ดปีก่อนที่เธอจบการศึกษากลับมา และตัดสินใจซื้อบ้าน
ของเธอเองที่เกาะปาโรส
ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่อาจทำใจให้กลับไปเกาะนักซอส โดยเฉพาะที่ไร่ของฟาริส ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ย้ำเตือนความทรงจำเกี่ยวกับ
คืนหฤโหดและความตายของมารดาเธอ
จนเมื่อเธอมีจูเลี่ยน หัวใจของเธอราวกับได้รับการเติมเต็มขึ้นอย่างประหลาด เธอรู้สึกกล้าหาญขึ้นมาก กรปอกับความเงียบเหงา
ที่ทับทวีมากขึ้นจากการห่างเหินของนิโคลาโยสนับแต่เธอเริ่มตั้งครรภ์จูเลียน นั่นทำให้เธอตัดสินใจขึ้นในวันหนึ่งที่จะกลับไปยัง
เกาะนักซอส ไปที่บ้านไร่เชิงเขาซึ่งอยู่ติดชายทะเลแห่งนั้นของครอบครัวคาคาราส
สองสามีภรรยาเข้าใจดีที่เธอไม่ได้ติดต่อพวกเขาก่อนหน้านั้น ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสรู้เรื่องการแต่งงานของเธอกับนิโคลาโยส
และเมื่อความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เสื่อมทรามลง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะชักนำให้ทั้งสองฝ่ายมารู้จักกัน อนาสเตเซียไม่คิดว่า
นิโคลาโยสจะใส่ใจที่จะอยากรู้จักผู้สูงอายุทั้งสอง และเธอก็ไม่อยากให้คนที่เธอนับถือทั้งคู่ได้ล่วงรู้ถึงชีวิตแต่งงาน
ที่ล้มเหลวของเธอ
เฮลิคอปเตอร์ลดเพดานบินลงจอดตรงลานจอดกลางสนามบนที่ดินของอนาสเตเซีย อิสวานได้ยินเสียงเครื่องมาแต่ไกลรีบขี่
สกู๊ตเตอร์ออกมา ในขณะที่อีเนียสพ่อบ้านนำรถบั๊กกี้สีขาวออกมารับคณะของอนาสเตเซีย
บั๊กกี้นำทั้งหมดออกจากลานจอดเฮลิคอปเตอร์กลับมายังตัวตึกใหญ่ นิโคลาโยสยืนคอยอยู่ที่หน้าบ้าน
“คุณพ่อครับ” เสียงร้องเรียกอย่างดีใจของจูเลี่ยนยามเห็นหน้าบิดาสะท้อนใจอนาสเตเซียยิ่งนัก ถ้าหากว่านิโคลาโยส
จะอยู่บ้านให้มากขึ้น และทำบ้านให้อบอุ่นกว่านี้ลูกน้อยของเธอจะยิ่งมีความสุขขึ้นกว่านี้สักเพียงใด
เด็กชายกระโดดเข้าใส่อ้อมแขนของบิดาทันทีที่รถบั๊กกี้จอดตรงวงเวียนหน้าบ้าน ซึ่งต่อไปเป็นบันไดเข้าสู่ห้องโถงใหญ่
ซึ่งนิโคลาโยสยืนคอยรับอยู่
“หน้าคุณพ่อไปโดนอะไรมาครับ” เด็กชายถามเมื่อเห็นรอยสีเขียวจางบนผิวหน้าอ่อนบางละเอียดของบิดา
“พ่อหกล้มลูก” หนุ่มใหญ่ตอบขณะอุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน “ไปเที่ยวไหนกันมา เที่ยวเผื่อพ่อหรือเปล่า”
จูเลี่ยนได้ยินคำถามก็เริ่มจ้ออย่างอารมณ์ดีจนผู้เป็นพ่ออดเอ็นดูไม่ได้ขโมยหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่
อนาสเตเซียก้าวตามไปช้าๆ หยุดยืนดูพ่อลูกกอดและหอมแก้มกันอยู่เงียบๆ น่าชื่นใจอยู่อย่างที่ดูนิโคลาโยสจะรักใคร่
เอ็นดูลูกชายของเขาอยู่พอควรทีเดียว
นิโคลาโยสอุ้มลูกชายที่ยังคงฝอยไม่จบเดินเข้าบ้านไปโดยมีอคาเซียซึ่งดูมีสีหน้าสดชื่นขึ้นมากก้าวตามไปพร้อมเจ้าดิโน่
ดูราวกับภาพครอบครัวพ่อแม่ลูก โดยมีอนาสเตเซียเป็นเพียงคนนอก
อีเนียสรับของเข้าบ้านแล้วก็แยกไปช่วยอัลเธียเตรียมมื้อค่ำ อนาสเตเซียเดินขึ้นไปห้องชุดส่วนตัวของเธออาบน้ำผลัดเปลี่ยน
ชุดใหม่สำหรับอาหารค่ำแล้วก็เดินลงมานั่งที่ห้องนั่งเล่นส่วนตัว
ปมรัก รอยอดีต Book I รอยอดีต บทที่ 9 พินัยกรรมของคิโรส
http://pantip.com/topic/34238667
บทที่ 2 พิธีฝังศพบนเกาะแอนติปาโรส
http://pantip.com/topic/34249978
บทที่ 3 คำเตือนของสารวัตรลาซารอส
http://pantip.com/topic/34266841
บทที่ 4 เสียงก้องแห่งมโนสำนึก
http://pantip.com/topic/34282151
บทที่ 5 ครั้งหนึ่ง....ที่ซานโตรินี
http://pantip.com/topic/34298356
บทที่ 6 ความหลัง .... ความหวัง
http://pantip.com/topic/34311968
บทที่ 7 เบื้องหลังของนิคกี้
http://pantip.com/topic/34316778/comment4
บทที่ 8 เจ้าแคสซี่แห่งเกาะนักซอส
http://pantip.com/topic/34317405
9
พินัยกรรมของคิโรส
โดย ฮาร์โมนิก้า
อนาสเตเซียนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นจากเกาะนักซอส ลอยลำอยู่เหนือบ้านไร่ของครอบครัวคาคาราส
สองสามีภรรยายืนโบกมือให้ในขณะที่เจ้าแคสซี่สุนัขแสนรู้ยืนเห่าอำลา พลางชูสองขาหน้าขึ้นเป็นระยะๆ ลูกๆของเจ้าแคสซี่
สองตัวซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรกับใครด้วยแต่ก็ตื่นเต้นตามแม่ของมัน กระโดดโหยงเหย็งพลางแย่งกันงับหางที่กระดิกอยู่ตลอดเวลา
ของแม่มันเล่นอย่างเพลิดเพลิน
หญิงสาวขับเฮลิคอปเตอร์กลับไปยังบ้านของเธอทางตอนเหนือของเกาะปาโรส ในสมองนั้นสับสนกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว
มันเหมือนมีชิ้นส่วนภาพต่อเล็กๆ นับไม่ถ้วนทิ้งไว้ให้เธอค้นหาและต่อเอาเองทีละชิ้นจนกว่าจะได้ภาพใหญ่ที่ชัดเจนว่าทั้งหมด
ที่เกิดขึ้นกับเธอและครอบครัวคืออะไร
มันจะแปลกอะไรหรือกับการที่นิโคลาโยสจะมาขอซื้อลูกหมาจากไร่ของฟาริส คาคาราส ทำไมเรื่องนี้จึงรบกวนจิตใจเธอมากนัก
เธอไม่เคยเชิญสองสามีภรรยาคาคาราสมางานแต่งงานของเธอ หรือมาร่วมรับประทานอาหารกับสามี คนทั้งสามไม่รู้จักกัน
อนาสเตเซียรู้จักและคบหากับครอบครัวคาคาราสเป็นระยะๆ มานานถึงสิบแปดปีก็จริง แต่เว้นช่วงไปแปดปีในช่วงที่เธอออกจาก
ประเทศกรีซไป ฟาริสเป็นฝ่ายมาเยี่ยมเยียนเธอตลอดเวลา หลังจากใช้เวลาหนึ่งปีที่สถานบำบัดจิตจากอาการซึมเศร้าบนเกาะซีโรส
เธอได้เดินทางไปศึกษาต่อที่เจเนวา สวิสเซอร์แลนด์เป็นเวลาสิบปีเต็ม อนาสเตเซียเรียนช้ากว่าคนอื่นด้วยเสียเวลาในชีวิตไป
นานเกือบสองปี
ตลอดระยะเวลาที่จากกรีซไปเธอไม่ได้กลับมาอีกเลย จนกระทั่งเมื่อเจ็ดปีก่อนที่เธอจบการศึกษากลับมา และตัดสินใจซื้อบ้าน
ของเธอเองที่เกาะปาโรส
ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่อาจทำใจให้กลับไปเกาะนักซอส โดยเฉพาะที่ไร่ของฟาริส ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ย้ำเตือนความทรงจำเกี่ยวกับ
คืนหฤโหดและความตายของมารดาเธอ
จนเมื่อเธอมีจูเลี่ยน หัวใจของเธอราวกับได้รับการเติมเต็มขึ้นอย่างประหลาด เธอรู้สึกกล้าหาญขึ้นมาก กรปอกับความเงียบเหงา
ที่ทับทวีมากขึ้นจากการห่างเหินของนิโคลาโยสนับแต่เธอเริ่มตั้งครรภ์จูเลียน นั่นทำให้เธอตัดสินใจขึ้นในวันหนึ่งที่จะกลับไปยัง
เกาะนักซอส ไปที่บ้านไร่เชิงเขาซึ่งอยู่ติดชายทะเลแห่งนั้นของครอบครัวคาคาราส
สองสามีภรรยาเข้าใจดีที่เธอไม่ได้ติดต่อพวกเขาก่อนหน้านั้น ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสรู้เรื่องการแต่งงานของเธอกับนิโคลาโยส
และเมื่อความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เสื่อมทรามลง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะชักนำให้ทั้งสองฝ่ายมารู้จักกัน อนาสเตเซียไม่คิดว่า
นิโคลาโยสจะใส่ใจที่จะอยากรู้จักผู้สูงอายุทั้งสอง และเธอก็ไม่อยากให้คนที่เธอนับถือทั้งคู่ได้ล่วงรู้ถึงชีวิตแต่งงาน
ที่ล้มเหลวของเธอ
เฮลิคอปเตอร์ลดเพดานบินลงจอดตรงลานจอดกลางสนามบนที่ดินของอนาสเตเซีย อิสวานได้ยินเสียงเครื่องมาแต่ไกลรีบขี่
สกู๊ตเตอร์ออกมา ในขณะที่อีเนียสพ่อบ้านนำรถบั๊กกี้สีขาวออกมารับคณะของอนาสเตเซีย
บั๊กกี้นำทั้งหมดออกจากลานจอดเฮลิคอปเตอร์กลับมายังตัวตึกใหญ่ นิโคลาโยสยืนคอยอยู่ที่หน้าบ้าน
“คุณพ่อครับ” เสียงร้องเรียกอย่างดีใจของจูเลี่ยนยามเห็นหน้าบิดาสะท้อนใจอนาสเตเซียยิ่งนัก ถ้าหากว่านิโคลาโยส
จะอยู่บ้านให้มากขึ้น และทำบ้านให้อบอุ่นกว่านี้ลูกน้อยของเธอจะยิ่งมีความสุขขึ้นกว่านี้สักเพียงใด
เด็กชายกระโดดเข้าใส่อ้อมแขนของบิดาทันทีที่รถบั๊กกี้จอดตรงวงเวียนหน้าบ้าน ซึ่งต่อไปเป็นบันไดเข้าสู่ห้องโถงใหญ่
ซึ่งนิโคลาโยสยืนคอยรับอยู่
“หน้าคุณพ่อไปโดนอะไรมาครับ” เด็กชายถามเมื่อเห็นรอยสีเขียวจางบนผิวหน้าอ่อนบางละเอียดของบิดา
“พ่อหกล้มลูก” หนุ่มใหญ่ตอบขณะอุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน “ไปเที่ยวไหนกันมา เที่ยวเผื่อพ่อหรือเปล่า”
จูเลี่ยนได้ยินคำถามก็เริ่มจ้ออย่างอารมณ์ดีจนผู้เป็นพ่ออดเอ็นดูไม่ได้ขโมยหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่
อนาสเตเซียก้าวตามไปช้าๆ หยุดยืนดูพ่อลูกกอดและหอมแก้มกันอยู่เงียบๆ น่าชื่นใจอยู่อย่างที่ดูนิโคลาโยสจะรักใคร่
เอ็นดูลูกชายของเขาอยู่พอควรทีเดียว
นิโคลาโยสอุ้มลูกชายที่ยังคงฝอยไม่จบเดินเข้าบ้านไปโดยมีอคาเซียซึ่งดูมีสีหน้าสดชื่นขึ้นมากก้าวตามไปพร้อมเจ้าดิโน่
ดูราวกับภาพครอบครัวพ่อแม่ลูก โดยมีอนาสเตเซียเป็นเพียงคนนอก
อีเนียสรับของเข้าบ้านแล้วก็แยกไปช่วยอัลเธียเตรียมมื้อค่ำ อนาสเตเซียเดินขึ้นไปห้องชุดส่วนตัวของเธออาบน้ำผลัดเปลี่ยน
ชุดใหม่สำหรับอาหารค่ำแล้วก็เดินลงมานั่งที่ห้องนั่งเล่นส่วนตัว