จากที่เคยเห็นการวางระบบของมหานครใหญ่ๆ (ปักกิ่ง เทียนจิน กว่างโจว เซี่ยงไฮ้) ทั้งหลายในจีนแผ่นดินใหญ่ว่า ห้ามรถจักรยานยนต์วิ่งในเมืองไปแล้ว
เรามาดูเมืองใหญ่ที่ยังไม่ได้ถูกแต่งตั้งยศเป็นถึงมหานครกันบ้างว่าเค้าแก้ปัญหาความน่ารำคาญของจักรยานยนต์แบบที่เมืองไทยกำลังโครตเบื่อได้อย่างไร
เมื่อเดือนที่แล้วได้มีโอกาสไปคุนหมิง เมืองหลวงแห่งมนฑลยูนนาน
ทำไมผมถึงสนใจคุนหมิงรู้ไหม ทั้งๆทีมันไม่ได้ถูกแต่งตั้งเป็นระดับมหานคร
(คุนหมิงถูกอยู่ในระดับเมืองหลวง ซึ่งแค่นี้ก็ใหญ่กว่ากรุงเทพแล้ว สวนมนฑล ยูนนานก็ใหญ่กว่าประเทศไทยทั้งประเทศ -_-" )
คุนหมิงกำลังถูกเร่งพัฒนาอย่างหนัก เพื่อจะกลางเป็น Hub ที่ไว้เชื่อมต่อ 10 ประเทศอาเซียน
ถ้าคุณมีโอกาสไปคุนหมิงในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่าโดน Renovate ทั้งเมือง
ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างรถไฟใต้ดินแบบหลายสายในทีเดียว การก่อสร้างระบบขนส่งทั้งหมด
การสร้างคอนโดแบบรัฐเป็นผู้สร้าง วางผังเมืองได้แบบไม่มีใครค้าน
และการก่อสร้าง สนามบินใหม่ที่พึ่งเปิดให้บริการในส่วนนึงแล้ว (ใหญ่มากๆ ประมาณสุวรรณภูมิ+ดอนเมืองเลย) กำลังอยู่ในช่วงขยายออกไปอีก แม่เจ้า
นี่คือหนึ่งในข้อดีของการบอกครองระบบคอมมิวนิส ที่เดินถูกทางจากผู้นำที่ดี อยากจะทำอะไร คือ กำเนิดได้ทันที
เริ่มสนใจคุนหมิงกันแล้วใช่ไหมครับ กลับมาที่ปัญหาการจราจรของคุนหมิงที่ทำให้ผมประหลาดใจกัน
คุนหมิงแก้ปัญหาการจราจรอันวุ่นวายเหล่านี้ด้วยการสร้างทางรถ 2 ล้อขึ้นมาทั้งเมือง
โดยเป็นช่องทางที่ทำมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ปัญหารถติด มอไซปาดหน้า ปัญหารถเล็กทะเลาะรถใหญ่ต่างๆที่เกิดขึ้นบ่อยๆในเมืองไทย
ความแออัดจราจรหมดไปทั้งที ไฟเขียวไฟแดงที่นี้เป็นระบบและแข็งแรง การกลับรถยังต้องรอไฟเขียวเลย ไม่ใช่อยากจะกลับตรงไหนก็กลับ
(แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีคนจีนบางคนดื้ออยู่นะ แต่สำหรับคนจีนรุ่นใหญ่ๆคือกำลังเปลี่ยนไป คนหนุ่มสาวดูมีระเบียบมากขึ้น (พวกอาม่าก็ปล่อยๆไป)
คนยืนรอรถเมล์ก็ไม่ต้องกลัวมอไซ ปาดหน้า
มีป้ายบอกชัดเจนถนนนี้เพื่อใคร (อย่าตกใจถ้ามาตอนนี้จะเป็นเขตก่อสร้างเกือบทั้งเมือง ไม่เกิน 5 ปีอลังแน่นอน)
การจอดรอไฟแดง ดูเป็นระเบียบช่องใครช่องมัน (แต่เอาจริงมันก็จะมีคนจีนกากๆหลุดกฎ แหกกฎกันอยู่บางประมาณ15%)
แต่ก็เป็นสัญญาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ดีแน่นอน
แม้ตัวผมเองจะชอบระบบประชาธิปไตยและยังชอบไต้หวันอยู่ แต่ก็ไม่ใช่จะไม่ชอบจีนและแนวคิดของผู้นำจีน
ทุกระบบย่อมมีข้อดีข้อเสีย อยู่ที่ตัวผู้ใช้อำนาจนั้นๆ บางครั้งก็ต้องการเด็ดขาด บางครั้งก็ต้องการเสียงส่วนใหญ่
แล้วทุกๆท่านคิดว่า เมืองไทย ควรเลือกทางเดินทางไหนดี หรือจะเป็น2ข้างดึงซ้ายดึงขวาแบบนี้ต่อไป เลือกตั้งก็ไม่ดี ปฎิวัติก็ไม่ดี
ประเทศไทย เราควรจะไปทางไหนกันดี?
เดี๋ยวว่างๆจะพักการเขียนไต้หวันมารีวิวประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ให้ดูบ้าง จะได้เปลี่ยนเทียบกันว่า สาธาณรัฐจีน กับ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร
(เขียนไปเขียนมาเข้าการเมือง ไม่แท็กห้องการเมืองดีกว่า 555 เน้นท่องเที่ยวดีกว่า เดี๋ยวจะยาว)
อ่อแถม เกาะกลางถนนไม่มี ทำให้ถนนใหญ่ขึ้นมาก
แต่ทดแทนต้นไม้ด้วยสร้างสวนสาธารณะขึ้นมาเต็มเมืองไปหมด ดูต้นไม้ริมทางในรูปจะเห็นว่าเขียวไปหมด
รถเมลล์ รถยนต์ รถจักรยาน ทุกคนมีถนนของตัวเอง รถไม่ติดนั้งรถเมล์แปปเดียวไปถึงจุดหมายแล้ว
ขอนับถือการวางแผนออกแบบระบบขนส่ง นี่ถ้ายิ่งไปมหานครใหญ่คงล้ำกว่านี้ไปอีกไกล
จอดตรงเส้นมาก ต่อให้ยืนในป้ายแต่ไม่ยืนตรงเส้นจอด ก็ไม่เปิดประตูรับนะครับ
อ่อแถมอีกรอบ น่าแปลกใจที่เมืองจีน นิยมใช่รถ ยุโรป รถ TAXI ทั้งเมือง รถตำรวจ volkswagen ทั้งนั้น รถยุโรป เช่นBenz ก็มีไม่น้อยเลยนะ
คนจีนแต่แอบไม่นิยมใช้รถจีนเหมือนตามข่าวที่ออกมากันนะ
คุนหมิงในวันนี้ ถนนใครถนนมัน จักรยานยนต์ในวันที่ไม่น่ารำคาญอีกต่อไป
เรามาดูเมืองใหญ่ที่ยังไม่ได้ถูกแต่งตั้งยศเป็นถึงมหานครกันบ้างว่าเค้าแก้ปัญหาความน่ารำคาญของจักรยานยนต์แบบที่เมืองไทยกำลังโครตเบื่อได้อย่างไร
เมื่อเดือนที่แล้วได้มีโอกาสไปคุนหมิง เมืองหลวงแห่งมนฑลยูนนาน
ทำไมผมถึงสนใจคุนหมิงรู้ไหม ทั้งๆทีมันไม่ได้ถูกแต่งตั้งเป็นระดับมหานคร
(คุนหมิงถูกอยู่ในระดับเมืองหลวง ซึ่งแค่นี้ก็ใหญ่กว่ากรุงเทพแล้ว สวนมนฑล ยูนนานก็ใหญ่กว่าประเทศไทยทั้งประเทศ -_-" )
คุนหมิงกำลังถูกเร่งพัฒนาอย่างหนัก เพื่อจะกลางเป็น Hub ที่ไว้เชื่อมต่อ 10 ประเทศอาเซียน
ถ้าคุณมีโอกาสไปคุนหมิงในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่าโดน Renovate ทั้งเมือง
ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างรถไฟใต้ดินแบบหลายสายในทีเดียว การก่อสร้างระบบขนส่งทั้งหมด
การสร้างคอนโดแบบรัฐเป็นผู้สร้าง วางผังเมืองได้แบบไม่มีใครค้าน
และการก่อสร้าง สนามบินใหม่ที่พึ่งเปิดให้บริการในส่วนนึงแล้ว (ใหญ่มากๆ ประมาณสุวรรณภูมิ+ดอนเมืองเลย) กำลังอยู่ในช่วงขยายออกไปอีก แม่เจ้า
นี่คือหนึ่งในข้อดีของการบอกครองระบบคอมมิวนิส ที่เดินถูกทางจากผู้นำที่ดี อยากจะทำอะไร คือ กำเนิดได้ทันที
เริ่มสนใจคุนหมิงกันแล้วใช่ไหมครับ กลับมาที่ปัญหาการจราจรของคุนหมิงที่ทำให้ผมประหลาดใจกัน
คุนหมิงแก้ปัญหาการจราจรอันวุ่นวายเหล่านี้ด้วยการสร้างทางรถ 2 ล้อขึ้นมาทั้งเมือง
โดยเป็นช่องทางที่ทำมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ปัญหารถติด มอไซปาดหน้า ปัญหารถเล็กทะเลาะรถใหญ่ต่างๆที่เกิดขึ้นบ่อยๆในเมืองไทย
ความแออัดจราจรหมดไปทั้งที ไฟเขียวไฟแดงที่นี้เป็นระบบและแข็งแรง การกลับรถยังต้องรอไฟเขียวเลย ไม่ใช่อยากจะกลับตรงไหนก็กลับ
(แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีคนจีนบางคนดื้ออยู่นะ แต่สำหรับคนจีนรุ่นใหญ่ๆคือกำลังเปลี่ยนไป คนหนุ่มสาวดูมีระเบียบมากขึ้น (พวกอาม่าก็ปล่อยๆไป)
คนยืนรอรถเมล์ก็ไม่ต้องกลัวมอไซ ปาดหน้า
มีป้ายบอกชัดเจนถนนนี้เพื่อใคร (อย่าตกใจถ้ามาตอนนี้จะเป็นเขตก่อสร้างเกือบทั้งเมือง ไม่เกิน 5 ปีอลังแน่นอน)
การจอดรอไฟแดง ดูเป็นระเบียบช่องใครช่องมัน (แต่เอาจริงมันก็จะมีคนจีนกากๆหลุดกฎ แหกกฎกันอยู่บางประมาณ15%)
แต่ก็เป็นสัญญาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ดีแน่นอน
แม้ตัวผมเองจะชอบระบบประชาธิปไตยและยังชอบไต้หวันอยู่ แต่ก็ไม่ใช่จะไม่ชอบจีนและแนวคิดของผู้นำจีน
ทุกระบบย่อมมีข้อดีข้อเสีย อยู่ที่ตัวผู้ใช้อำนาจนั้นๆ บางครั้งก็ต้องการเด็ดขาด บางครั้งก็ต้องการเสียงส่วนใหญ่
แล้วทุกๆท่านคิดว่า เมืองไทย ควรเลือกทางเดินทางไหนดี หรือจะเป็น2ข้างดึงซ้ายดึงขวาแบบนี้ต่อไป เลือกตั้งก็ไม่ดี ปฎิวัติก็ไม่ดี
ประเทศไทย เราควรจะไปทางไหนกันดี?
เดี๋ยวว่างๆจะพักการเขียนไต้หวันมารีวิวประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ให้ดูบ้าง จะได้เปลี่ยนเทียบกันว่า สาธาณรัฐจีน กับ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร
(เขียนไปเขียนมาเข้าการเมือง ไม่แท็กห้องการเมืองดีกว่า 555 เน้นท่องเที่ยวดีกว่า เดี๋ยวจะยาว)
อ่อแถม เกาะกลางถนนไม่มี ทำให้ถนนใหญ่ขึ้นมาก
แต่ทดแทนต้นไม้ด้วยสร้างสวนสาธารณะขึ้นมาเต็มเมืองไปหมด ดูต้นไม้ริมทางในรูปจะเห็นว่าเขียวไปหมด
รถเมลล์ รถยนต์ รถจักรยาน ทุกคนมีถนนของตัวเอง รถไม่ติดนั้งรถเมล์แปปเดียวไปถึงจุดหมายแล้ว
ขอนับถือการวางแผนออกแบบระบบขนส่ง นี่ถ้ายิ่งไปมหานครใหญ่คงล้ำกว่านี้ไปอีกไกล
จอดตรงเส้นมาก ต่อให้ยืนในป้ายแต่ไม่ยืนตรงเส้นจอด ก็ไม่เปิดประตูรับนะครับ
อ่อแถมอีกรอบ น่าแปลกใจที่เมืองจีน นิยมใช่รถ ยุโรป รถ TAXI ทั้งเมือง รถตำรวจ volkswagen ทั้งนั้น รถยุโรป เช่นBenz ก็มีไม่น้อยเลยนะ
คนจีนแต่แอบไม่นิยมใช้รถจีนเหมือนตามข่าวที่ออกมากันนะ