***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
วันก่อนรู้แล้วว่า นิโคลัส โคเปอร์นิคัส เป็นผู้บอกว่าโลกเรานี้กลมไม่ใช่แบนอย่างที่เชื่อกันมานานนะจ๊ะ นั่นก็ทำให้เขาต้องเสี่ยงแล้ว
เพราะมันขัดกับความเชื่อเดิมๆ ยิ่งพอเขาพบว่าโลกนี้ไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล แต่เป็นดวงอาทิตย์ต่างหาก เขายิ่งไม่กล้าเผยแพร่ไป
มิฉะนั้นงานคงงอกไม่ได้หยุดหย่อนแน่ๆ แต่ความคิดเขาก็จุดประกายให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังอย่างกาลิเลโอต่อยอดต่อไป
กาลิเลโอ กาลิเลอี (ค.ศ. 1564-1642 หรือ พ.ศ. 2107 - 2185) ใครๆ ย่อมคุ้นเคย วันนี้จะมาทำความรู้จักกัน
เขาเป็นผู้ค้นพบทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ (เช่น จลนศาสตร์การเคลื่อนที่ และดาราศาสตร์) หรือวิทยาศาสตร์ประยุกต์
(เช่น ความแข็งของวัตถุ และการพัฒนากล้องโทรทรรศน์) จนได้รับขนานนามว่าเป็น "บิดาแห่งดาราศาสตร์สมัยใหม่"
"บิดาแห่งฟิสิกส์สมัยใหม่" และ "บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ยุคใหม่"
เขาเสนอแนวคิดว่า
ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นการสนับสนุนแนวคิดของโคเปอร์นิคัส
ซึ่งขัดแย้งกับแนวคิดดั้งเดิมของทอเลมีและอริสโตเติลที่ว่า โลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ทำให้ขัดแย้งกับคริสตจักร
จนถูกเรียกไปปรับทัศนคติ และถูกประณามว่าเป็นบุคคลอันตรายและอาจเป็นพวกนอกรีต จนต้องโทษคุมขัง OMG !!!
ซึ่งต่อมาโทษนี้ได้ปรับเปลี่ยนเป็นการคุมตัวอยู่แต่ในบ้านและให้งานเขียนอื่นๆ กลายเป็นงานต้องห้ามไปด้วย
(ยุคไหน สมัยไหน ซีกไหนของโลกก็เหมือนกันเลยเนอะ ผู้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ขัดกับความเชื่อเดิมมักได้รับผลกระทบอย่างแรง)

ภาพเขียนจำลองกาลิเลโอถูกเรียกเข้ารับการพิจารณาคดี
เขาถูกห้ามไม่ให้สอนนักเรียนของเขาเกี่ยวกับทฤษฎีนี้อีก มิฉะนั้นจะถูกจับเผาทั้งเป็น
เขาจึงได้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ขึ้นมาด้วยตัวเองเพื่อศึกษาเพิ่มเติมและ พิสูจน์ว่าทฤษฎีของเขาเป็นความจริงในที่สุด
กาลิเลโอตาบอดอย่างถาวรในปี ค.ศ. 1638 ทั้งยังต้องทุกข์ทรมานจากโรคไส้เลื่อนและโรคนอนไม่หลับ
ต่อมาเขาจึงได้รับอนุญาตให้ไปยังฟลอเรนซ์ได้เพื่อรักษาตัว จนปี ค.ศ. 1642 เขาเสียชีวิตด้วยอาการไข้สูงและหัวใจล้มเหลว
ภายหลังเมื่อมีการพิสูจน์ว่าโลกมิได้ตรึงแน่นอยู่กับที่ เดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 ทางสำนักวาติกันได้เสนอการกู้คืนชื่อเสียงของกาลิเลโอ
โดยสร้างอนุสาวรีย์ของ เขาเอาไว้ที่กำแพงด้านนอกของวาติกัน
................................................
ถือว่ากาลิเลโอเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการเมือง (ในรูปศาสนจักร) อย่างจัง ทำให้ในช่วงบั้นปลายต้องลำบาก
แต่กาลเวลาก็พิสูจน์แล้วว่า "ความจริงก็คือความจริง ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้"
ผู้ที่ต่อสู้ด้วยความจริงย่อมได้รับการยอมรับในที่สุด
สรุปแล้วดวงอาทิตย์คือศูนย์กลางจักรวาลนี้ ไม่ใช่โลก อย่างที่เคยเชื่อกันมา มาฟังเพลงเพราะๆ MV สวยๆ กันค่ะ
เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ
...เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ
แต่สองดาวก็ยังหมุนรอบตัวเอง
เธอดึงดูดฉัน ฉันดึงดูดเธอ
และสองดาวยังเปล่งแสงอันงดงามให้แก่กัน...
https://www.youtube.com/watch?v=vZOlQSUw61E
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดาวนับล้านที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
จะมีไหมหนาที่ลอยอยู่เองเฉยๆ
ไม่ยอมโคจรหมุนไปไหนเลย
ไม่เคย ไม่เห็นเลยสักดวง
ดาวของฉันเธอว่าห่างไกลลิบๆ
แต่ดาวไหนๆ มันก็อยู่ไกลกันทั้งนั้น
ดาวของเธอฉันว่าก็เหมือนกัน
กี่ปีแสงนั้นอย่านับเลย
เมื่อดาวโคจรมาเจอะกัน
ฤดูก็เปลี่ยนผัน การหมุนก็ผันแปร
เมื่อเธอกับฉันมาเจอะกัน ชีวิตก็เปลี่ยนผัน
เปลี่ยนไปจากเดิม
เปลี่ยนจังหวะหมุนของหัวใจ ให้ใกล้กัน
เกิดอาการเธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ
แต่สองดาวก็ยังหมุนรอบตัวเอง
เธอดึงดูดฉัน ฉันดึงดูดเธอ
และสองดาวยังเปล่งแสงอันงดงามให้แก่กัน
ดาวนับแสนที่มีวงแหวนนับร้อย
ทั้งดาวเคราะห์น้อย ดาวฤกษ์ลอยคว้างๆ
ดาวทุกดวงนั้นย่อมจะแตกต่าง
มีเส้นทางหมุนของตัวเอง
เมื่อดาวโคจรมาเจอะกัน
ฤดูก็เปลี่ยนผัน การหมุนก็ผันแปร
เมื่อเธอกับฉันมาเจอะกัน ชีวิตก็เปลี่ยนผัน
เปลี่ยนไปจากเดิม
เปลี่ยนจังหวะหมุนของหัวใจ ให้ใกล้กัน
เกิดอาการเธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ
แต่สองดาวก็ยังหมุนรอบตัวเอง
เธอดึงดูดฉัน ฉันดึงดูดเธอ
และสองดาวยังเปล่งแสงอันงดงามให้แก่กัน
เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ
แต่สองดาวก็ยังหมุนรอบตัวเอง
เธอดึงดูดฉัน ฉันดึงดูดเธอ
และสองดาวยังเปล่งแสงอันงดงามให้แก่กัน
และสองดาวยังเปล่งแสงอันงดงามไปทั่วฟ้า
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 6/9/2015
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
วันก่อนรู้แล้วว่า นิโคลัส โคเปอร์นิคัส เป็นผู้บอกว่าโลกเรานี้กลมไม่ใช่แบนอย่างที่เชื่อกันมานานนะจ๊ะ นั่นก็ทำให้เขาต้องเสี่ยงแล้ว
เพราะมันขัดกับความเชื่อเดิมๆ ยิ่งพอเขาพบว่าโลกนี้ไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล แต่เป็นดวงอาทิตย์ต่างหาก เขายิ่งไม่กล้าเผยแพร่ไป
มิฉะนั้นงานคงงอกไม่ได้หยุดหย่อนแน่ๆ แต่ความคิดเขาก็จุดประกายให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังอย่างกาลิเลโอต่อยอดต่อไป
กาลิเลโอ กาลิเลอี (ค.ศ. 1564-1642 หรือ พ.ศ. 2107 - 2185) ใครๆ ย่อมคุ้นเคย วันนี้จะมาทำความรู้จักกัน
เขาเป็นผู้ค้นพบทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ (เช่น จลนศาสตร์การเคลื่อนที่ และดาราศาสตร์) หรือวิทยาศาสตร์ประยุกต์
(เช่น ความแข็งของวัตถุ และการพัฒนากล้องโทรทรรศน์) จนได้รับขนานนามว่าเป็น "บิดาแห่งดาราศาสตร์สมัยใหม่"
"บิดาแห่งฟิสิกส์สมัยใหม่" และ "บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ยุคใหม่"
เขาเสนอแนวคิดว่า ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นการสนับสนุนแนวคิดของโคเปอร์นิคัส
ซึ่งขัดแย้งกับแนวคิดดั้งเดิมของทอเลมีและอริสโตเติลที่ว่า โลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ทำให้ขัดแย้งกับคริสตจักร
จนถูกเรียกไปปรับทัศนคติ และถูกประณามว่าเป็นบุคคลอันตรายและอาจเป็นพวกนอกรีต จนต้องโทษคุมขัง OMG !!!
ซึ่งต่อมาโทษนี้ได้ปรับเปลี่ยนเป็นการคุมตัวอยู่แต่ในบ้านและให้งานเขียนอื่นๆ กลายเป็นงานต้องห้ามไปด้วย
(ยุคไหน สมัยไหน ซีกไหนของโลกก็เหมือนกันเลยเนอะ ผู้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ขัดกับความเชื่อเดิมมักได้รับผลกระทบอย่างแรง)
ภาพเขียนจำลองกาลิเลโอถูกเรียกเข้ารับการพิจารณาคดี
เขาถูกห้ามไม่ให้สอนนักเรียนของเขาเกี่ยวกับทฤษฎีนี้อีก มิฉะนั้นจะถูกจับเผาทั้งเป็น
เขาจึงได้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ขึ้นมาด้วยตัวเองเพื่อศึกษาเพิ่มเติมและ พิสูจน์ว่าทฤษฎีของเขาเป็นความจริงในที่สุด
กาลิเลโอตาบอดอย่างถาวรในปี ค.ศ. 1638 ทั้งยังต้องทุกข์ทรมานจากโรคไส้เลื่อนและโรคนอนไม่หลับ
ต่อมาเขาจึงได้รับอนุญาตให้ไปยังฟลอเรนซ์ได้เพื่อรักษาตัว จนปี ค.ศ. 1642 เขาเสียชีวิตด้วยอาการไข้สูงและหัวใจล้มเหลว
ภายหลังเมื่อมีการพิสูจน์ว่าโลกมิได้ตรึงแน่นอยู่กับที่ เดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 ทางสำนักวาติกันได้เสนอการกู้คืนชื่อเสียงของกาลิเลโอ
โดยสร้างอนุสาวรีย์ของ เขาเอาไว้ที่กำแพงด้านนอกของวาติกัน
................................................
ถือว่ากาลิเลโอเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการเมือง (ในรูปศาสนจักร) อย่างจัง ทำให้ในช่วงบั้นปลายต้องลำบาก
แต่กาลเวลาก็พิสูจน์แล้วว่า "ความจริงก็คือความจริง ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้"
ผู้ที่ต่อสู้ด้วยความจริงย่อมได้รับการยอมรับในที่สุด
สรุปแล้วดวงอาทิตย์คือศูนย์กลางจักรวาลนี้ ไม่ใช่โลก อย่างที่เคยเชื่อกันมา มาฟังเพลงเพราะๆ MV สวยๆ กันค่ะ
เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ
...เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ
แต่สองดาวก็ยังหมุนรอบตัวเอง
เธอดึงดูดฉัน ฉันดึงดูดเธอ
และสองดาวยังเปล่งแสงอันงดงามให้แก่กัน...
https://www.youtube.com/watch?v=vZOlQSUw61E
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้