[CR] จิบเบียร์ ให้ปลาอิจฉา@เกาะเต่า (ทรหดอดทนบนรถไฟฟรี อีสาน-กลาง.-ใต้)


สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผม เคยอ่านแต่รีวิวของคนอื่นเลยลองรีวิวบ้าง ขาดตกบกพร่องยังไงคอมเม้นได้เลยนะครับ พูดไม่ค่อยเก่งแต่เหล้าหมดไวครับ เย้ยยย ไม่ใช่ละ =,.=
#ยาวนิดนึงเเต่ก็มีเเต่รูปนะครับ ช่วงที่สามเลยครับ นางเอกของเกาะ สวยมาก
เริ่มเลยละกัน จุดเริ่มต้นของทริปนี้ มาจากตัวผมนี่แหละครับ เบื่อๆการทำงาน เซ็งชีวิต กะว่าจะ backpack ไปไหนคนเดียว สักที่ เขาบอกว่าการออกเดินทางเป็นการเติมพลังให้ตัวเอง เหมือนเป็นการRestart ตัวเองใหม่นั่นแหล่ะครับ
.
.
.
แล้วก็มีวันหนึ่งครับ....
ทักแชทไปหาเพื่อนคนหนึ่งถามเรื่องทะเลกับมัน(คนนี้ตัวหลักของทริปเลย) ก็คุยกันนู่นนี่นั่นกันไป เอ้า!!!เหมาะเจาะครับ มันก็จะไปทะเลพอดี จะไปช่วงปลายเดือน แต่ผมแพลนไปต้นเดือน ไม่เป็นไร!! ยอมยุบทริปเพื่อการนี้ครับ
ตัดสินใจไปกับมัน ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าไปที่ใหน5555555
และแล้วสมาชิกก็เริ่มเพิ่มจากสองคน เป็นสี่คน ชายสามหญิงหนึ่ง(ไม่ต้องตกใจนะครับพวกเราคบกันมาจะ 10ปีละแทบจะรู้ไส้รู้พุงกันหมด) เอาละวะ!!!! ลุยๆๆๆๆครั้งแรกไปกับเพื่อนลองดู...


พอคุยกันได้สถานที่ ได้วัน ก็ตกลงกันเลย ( สถานทีนี้ตามใจไอ้เจ้าของทริปมัน) หาข้อมูลเตรียมพร้อมทุกอย่าง ศึกษารวบรวมสถานที่ จากรีวิวต่าง พอทุกอย่างโอเค ก็นัดเจอกันที่ ขอนแก่น(พวกผมอยู่ที่หนองคายกัน) ในตอนนั้นข้อมูลที่ต้องจำขึ้นใจ คือรถไฟออกจากชานชะลาตอนสี่ทุ่ม

วันที่ 28/05/58
@ขอนแก่น
การเดินทางกำลังจะเริ่มขึ้น ตื่นเต้นครับ พวกเราไปเจอกันที่ขอนแก่นเวลาประมาณ ทุ่มนิดๆ ด้วยความคิดว่า ต้นstartจากขอนแก่น  ตั๋วรถไฟฟรีน่าจะยังไม่เต็มหรอก ชิวๆครับตอนนั้น ก็นั่นล่ะครับเสือหิวโซมาเจอกัน เรื่องกินเรื่องใหญ่ ตั๋วเต๋อนี่ไม่ได้สนใจลืมไปชั่วขณะกันเลยทีเดียวครับ พอกินข้าวเสร็จตายห่า!!!Shift หาย ลืมดูนาฬิกา ปาไปสามทุ่มครึ่ง รีบสิครับงานนี้ ขอนแก่นตอนกลางคืนรถติดอีกนะครับบบบ เอาแล้วไง สถานการณ์เริ่มกดดัน พอถึงสถานีรถไฟ ก็รีบวิ่งขึ้นไปจองตั๋วกัน พอจองเสร็จ เหยดดดด ได้ตั๋วVIPครับ เป็นตั๋วส่งเสริมให้คนรักสุขภาพ ตั๋วยืน........ -,.- แต่ละคนนี้ยิ้มแป้นกันเลยทีเดียว ถถถ+



แล้วการนั่งรถไฟเริ่มต้นขึ้น พวกเรามาสี่คน แต่ที่ว่างแบบพอดีสี่ที่ไม่มีครับ
เลยได้แยกนั่งเป็นสอง:สอง โดยการขอนั่งกับคนอื่นเขา  พอนั่งลงปุ๊บ แต่ละคนก็เข้าสู่โลกส่วนตัวของตัวเองหยิบอุปกรณ์คู่ใจขึ้นมา โทรศัพท์ หูฟัง หมอน คิดในใจว่า ชิวๆ รถไฟไทย นั่งไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึง
รถไฟเริ่มเคลื่อนตัวครับ เสียงลมพัด เสียงล้อเหล็กเคลื่อนเริ่มดัง นั่งกันไปเรื่อยๆสโลว์ไลฟ์ ชิคๆ เก๋ๆครับ
เพื่อนที่นั่งคู่ผมนิ่ฟังเพลงอย่างเดียว ส่วนผมก็เล่นโทรศัพท์
อีกคู่นิ่คุยกันเสียงนี้ดังแข่งกับรถไฟ ราวกับว่าไม่เจอกันมาเป็น10 ปี 20 ปี เงยหน้าขึ้นมามองข้างทางนึกว่าออกมาไกลแล้วแต่พบว่ารถไฟจอดอยู่สามสถานีก็ยังไม่พ้นจากเขตจังหวัดขอนแก่นสักทีครับ.....


โอเคครับ ไม่ซีเรียสอะไร ผมชิว ฮ่าๆๆๆ แต่ๆๆๆๆพอนั่งไปสักพักใหญ่ๆถึงประมาณจังหวัดชัยภูมิสถานีอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ครับ เอาละไงครับ รู้สึกแปลกๆ ทำไมรถไฟจอดนานผิดปกติวะ จอดแวะปั๊มหรอ ไม่น่าใช่นี่รถไฟ ไม่ใช่รถทัวร์ ไม่มีปั๊ม  -,.- ด้วยความสงสัยต่อมความเผือกผมเริ่มทำงาน รอใครตัดริบบิ้นครับ กระโดดลงไปดูเหตุการณ์สิครับ
สิ่งที่เห็นตรงหน้าก็คือเจ้าหน้าที่สถานีมุงอะไรกันก็ไม่รู้และก็ได้รับข่าวดีแจ้งมาว่า............
รถเสียโบกี้สุดท้ายเสียครับ โชคดีมากๆเลยครับที่พวกผมนั่งโบกี้สุดท้าย
ครับบบบบ!!!! เชี่ยยยย
ต้องตัดโบกี้สุดท้ายทิ้ง แล้วให้ผู้โดยสารโบกี้สุดท้ายไปหาที่นั่งที่ว่างในโบกี้อื่น
ทราบซึ้งกับรถไฟไทยครับจริงๆครับ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วความรู้สึกนี้ T___T
น้ำตาจะไหลครับ เพลงพี่ตูน บอดี้สแลมดังขึ้นมาประกอบครับ “ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าใหร่!!!”  เดินสิครับเดิน บากหน้าเดินหาที่ว่าง เดินผ่านอยู่สามโบกี้ ที่ว่างก็ไม่มี เป็นไงเป็นกันครับมีที่ว่างนึงใกล้กับอ่างล้างมือ พอนั่งได้เสียสละให้เพื่อน ผญ นั่งละกัน ส่วนพวกผมสามคนนั้น นั่งพื้นแถวๆนั้นตามระเบียบครับผม.....


เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที มีผู้ชายขายน้ำ(น้ำดื่ม,ขนมไรงี้น่ะครับ)มายื่นข้อเสนอขายของแลกกับที่นั่งดีๆ โดยการซื้อน้ำคนละขวดแล้วจะพาไปนั่งห้องเสบียง โอ้โหววว การตลาดพี่แก ฮ่าๆๆแทบจะไม่ต้องคิดอะไรเลยครับ ไม่ฟิวน้ำผมก็จะซื้อครับ แลกกับที่นั่งที่ดีกว่าพื้นตอนนี้ ฮ่าๆๆ พอไปถึงที่ห้องเสบียง
เหยดดด!!!! นึกว่าห้องส่วนตัว ที่นั่งมันดีมาก พวกผมไม่รีรอเลยครับ แยกย้ายจับจองที่นั่ง  เเล้วก็นั่งยาวจนมาเช้าที่แก่งคอยสระบุรี...ยิ้มยิ้มยิ้ม


พอแสงแรกมาหน้าตาเพื่อนผมก็เริ่มเบิกบานกันเลยที่เดียวครับ ทำตัวเหมือนถึง กทม แล้ว เเต่ที่จริงแค่สระบุรี

จากนั้นก็นั่งกันต่อไป ระหว่างทางก็ลองกล้องกันบ้าง คุยกันบ้างเสียงนี้เเจ้วจ้าวอย่างกับนกบินหาเหยื่อยามเช้า


นั่งมาเรื่อยๆ ตู้เสบี่ยงเราสมาชิกก็เริ่มเพิ่มขึ้น เพราะหลายคนใช้รถไฟเป้นพาหนะเพื่อไปทำงาน จึงทำให้เรารู้ว่า ไอ้ตู้เสบี่ยงเนี่ย นั่งได้ๆๆๆๆ

29/05/58
@ กรุงเทพ
ในที่สุดดดดดดด!!!!!ก็ถึงกรุงเทพครับ
เวลาประมานเกือบ 9 โมง รถไฟสายหนองคาย-กรุงเทพ เข้าจอดที่ชานชลา พวกผมก็ลงรถกัน เป้าหมายแรกคือห้องน้ำ หาที่อาบน้ำ หาจนทั่วก้ไม่มี มีดีสุดก็ห้องน้ำของสถานี เอาละวะอย่างน้อยก็พอช่วยได้ ล้างหน้า แปรงฟัน พร้อมขโมยสระผมด้วยเป็นผู้ชายก็สะดวกงี้ล่ะครับ ฮ่าๆ



พอภารกิจส่วนตัวทุกอย่างก็รีบไปจองตั๋วรถไฟ(อีกแล้ว)ไปชุมพร รถออก 13.00  


โปรแกรมคั่นเวลาเริ่มผุดขึ้นมาในหัว แต่คิดไปคิดมาร้านกาแฟน่าจะโอเคสุด(ผมเป็นคนชอบเสพบรรยากาศร้านกาแฟครับ)
กินข้าวเสร็จก็เดินหาร้านกาแฟตามGPS ร้านที่ใกล้ที่สุดแถวนั้น คือร้าน “ฮ.นกฮูก” เราก็ฆ่าเวลาในร้านนั้นราวๆสี่ชั่วโมง ทั้งชาร์ทแบต เล่นเกมส์ นอน ทำอย่างกับบ้านตัวเอง



ร้านสวยดีครับ มีหลายมุม เเต่ไม่ค่อยได้ถ่ายบรรยากาศร้าน งงอยู่ครับว่าทำไมไม่ถ่าย สงสัยหิวววววววว


พอถึงเวลาก็มารอขึ้นรถ มุ่งหน้าสู่ชุมพร เกือบไม่ทันรถด้วยนะครับ เพราะกว่าจะเดินหาตู้เจอ



ระหว่างนั้นก็หาเกมส์เล่นกันไปเรื่อยๆ(เพราะนั่งตอนกลางวันมันน่าเบื่อกว่าตอนกลางคืน)
นั่งไปได้ประมาน 20  นาทีถึงสถานีบางซื่อ จอดนานผิดปกติ
ตามคาดครับ ถ้าจอดนานๆไม่ต้องลงไปเผือกให้ยากแบบรอบเมื่อกี๊ รถไฟเสียครับ -,.-
ต้องเปลี่ยนหัวเครื่องจักร(พวกผมเริ่มคิดแล้วว่าดวงไม่สมพงศ์กับรถไฟ) ระหว่างรอหัวเครื่องจักร เจ้าหน้าที่ก็ให้ลงมารอข้างล่าง ดีนะพึ่งออกเดินทางมาได้ 5 กิโลเมตร...
นี่สินะรสชาติของแบ็คแพ็คเกอร์ 55555555555555555555

น้ำโค้กใส่ถุงนี้เข้ากับบรรยากาศรถไฟมากนะครับ


ซ่อมเสร็จเดินทางกันต่อครับ ระหว่างทางก็จะมีของกินมาขายตลอด แรกๆก็กะว่าจะไม่ซื้อกินกัน แต่พอได้ซื้อเท่านั้นแหละ ซื้อต่อเนื่องแทบทุกสถานี เมนูแนะนำก็”ก๋วยเตี๋ยวแห้งราชบุรี”ครับ แทบทุกรีวิวต้องกินกัน อร่อย ถูก เกือบอิ่มในราคา 10 บาท ฮ่าๆ

ตบท้ายด้วยไข่นกกระทา เมนูนี้อยากกินทั้งสี่คน

จะสี่ทุ่มแล้วครับ รถไฟยังไม่ถึงสถานีชุมพร แผนสำรองเริ่มทำงาน เริ่มหาเบอร์โทรบริษัทรเรือที่ออกตอนเที่ยงคืน แต่ก็ไม่มี ตอนนั้นภาวนาสวดมนต์อ้อนวอนขอพร(เว่อไปครับ)ขอให้รถไฟถึงชุมพรก่อนห้าทุ่ม พอถึงสถานีสุดท้ายก่อนจะถึงชุมพร ผมลองโทรหาบริษัทเรือนอนที่ออกรอบห้าทุ่ม ฮ่าๆครับ!!! เช่นเคยครับ-,.-ความซวยแวะมาทักทายอีกครั้ง หัวเราะหัวเราะ
วินาทีนั้นเพลงที่เข้ากับบรรยากาศของพวกผมที่สุดน่าจะเป็นเพลง”คงไม่ทัน” ของพี่สงกรานต์ เดอะว๊อยซ์ครับ เรือกำลังจะออก เครียดครับ แต่ทำไรไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ T____T ภาพฝันที่มโนไว้ว่าจะนอนดูดาวกลางทะเลบนเรือ พังครับ!! พังไปตามโบกี้และหัวเครื่องจักรรถไฟไปเรียบร้อย..........

แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ครับ พอถึงชุมพรก็ห้าทุ่มนิดๆมีพี่ๆกลุ่มหนึ่งที่แบ็คแพ็คมาจาก กรุงเทพมาชวนไปหาเรือด้วยกัน พวกผมก็ไปสิครับรออะไรอยู่ล่ะครับบบบบบ ลงไปต่อราคารถสองแถว เหมาไปท่าเรือ เผื่อว่ามันจะมีเรือหลงเหลือ(อยากบอกว่าพวกพี่ๆน่ารักและใจดีเป็นมิตรมากๆเลยครับ)

ไปตามหาเรืออยู่สองท่าเรือครับ ก็ไม่เหลือสักลำ มีเร็วสุดก็หกโมงเช้า เวลาตอนนั้นเที่ยงคืนแล้ว อีกหกชั่วโมงเองรอก็ได้วะ ก็นั่งเล่นที่ริมท่าเรือคุยกันกับพวกพี่ๆ พวกพี่เขาไปมาหลายทริปละ เฮฮากันมาก คุยสนุก พวกผมต้องขอบคุณพี่อีกครังนะครับ ถ้าได้เข้ามาอ่านรีวิวนี้

นี่แหละครับ กิจกรรมคั่นเวลาระหว่างรอเรือออก

พวกผมเช่าห้องใว้อาบน้ำห้องนึง 500 ชื่อร้อยดาวอะไรสักอย่างจำไม่ได้แต่ไกล้ๆท่าเรือ เขาให้นอนได้สองคน ที่แรกไม่ได้จะนอนทั้งสี่คนหรอก ไปๆมาๆ หลับกันทั้งสี่คนได้ไงไม่รู้ ฮ่าๆๆ ทีแรกแค่จะมากินข้าวเเล้วออกไปหาพวกพี่ที่ท่าเรือ แต่เข้ามาเเล้วหลับ เลยจบข่าวเลย
เดี๋ยวมาต่อนะครับ ทำงานแปป
ชื่อสินค้า:   เกาะเต่า - เกาะนางยวน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่