คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕
มหาวรรค ภาค ๒
เรื่องสีหเสนาบดี
ดำริเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค
...
สี. พระพุทธเจ้าข้า โดยพระพุทธดำรัสแม้นี้
ข้าพระพุทธเจ้ายินดี พอใจยิ่งกว่าคาดหมายไว้
เพราะพระองค์ตรัสอย่างนี้กะข้าพระพุทธเจ้าว่า
ดูกรสีหะ เธอจงทำการที่ใคร่ครวญเสียก่อนแล้วทำ
เพราะการใคร่ครวญเสียก่อนแล้วทำเป็นความดีสำหรับคนมีชื่อเสียงเช่นเธอ
ความจริง พวกอัญญเดียรถีย์ได้ข้าพระพุทธเจ้าเป็นสาวก
พึงยกธงเที่ยวประกาศทั่วพระนครเวสาลี
ว่า สีหเสนาบดีเข้าถึงความเป็นสาวกของพวกเราแล้ว
แต่ส่วนพระองค์สิ มาตรัสอย่างนี้กะข้าพระพุทธเจ้าว่า
ดูกรสีหะ เธอจงทำการที่ใคร่ครวญเสียก่อนแล้วทำ
เพราะการใคร่ครวญเสียก่อนแล้วทำ เป็นความดีสำหรับคนมีชื่อเสียงเช่นเธอ
ข้าพระพุทธเจ้านี้ ขอถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรมและพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ
แม้ครั้งที่สอง
ขอพระองค์โปรดทรงจำข้าพระพุทธเจ้า ว่า
เป็นอุบาสก ผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป พระพุทธเจ้า.
ภ. นานนักแล สีหะ ตระกูลของเธอได้เป็นสถานที่รับรองพวกนิครนถ์มา ด้วยเหตุนั้น
เธอพึงสำคัญเห็นบิณฑบาตว่าเป็นของควรให้นิครนถ์เหล่านั้นผู้เข้าไปถึงแล้ว.
สี. โดยพระพุทธดำรัสแม้นี้ ข้าพระพุทธเจ้ายินดีพอใจยิ่งกว่าคาดหมายไว้
เพราะพระองค์ตรัสอย่างนี้กะข้าพระพุทธเจ้าว่า
นานนักแล สีหะ ตระกูลของเธอได้เป็นสถานที่รับรองพวกนิครนถ์มา
ด้วยเหตุนั้น เธอพึงสำคัญบิณฑบาตว่าเป็นของควรให้นิครนถ์เหล่านั้นผู้เข้าไปถึงแล้ว ดังนี้
ข้าพระพุทธเจ้าได้ทราบว่า พระสมณะโคดมรับสั่งอย่างนี้ว่า
ควรให้ทานแก่เราผู้เดียวไม่ควรให้ทานแก่คนพวกอื่น
ควรให้ทานแก่สาวกของเราเท่านั้น ไม่ควรให้ทานแก่สาวกของศาสดาอื่น
เพราะทานที่ให้แก่เราเท่านั้น มีผลมาก ทานที่ให้แก่คนพวกอื่นไม่มีผลมาก
ทานที่ให้แก่สาวกของเราเท่านั้น มีผลมาก ทานที่ให้แก่สาวกของศาสดาอื่นไม่มีผลมาก
แต่ส่วนพระองค์ทรงชักชวนข้าพระพุทธเจ้า ในการให้แม้ในพวกนิครนถ์
แต่ข้าพระพุทธเจ้าจักรู้กาลในข้อนี้เอง
ข้าพระพุทธเจ้านี้ขอถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ
แม้ครั้งที่สาม ขอพระองค์โปรดทรงจำข้าพระพุทธเจ้าว่า เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ
จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป พระพุทธเจ้าข้า.
สีหเสนาบดีได้ธรรมจักษุ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอนุปุพพิกถาแก่สีหเสนาบดี
คือ ทรงประกาศทานกถา ศีลกถา สัคคกถา
โทษ ความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย
และ อานิสงส์ในความออกจากกาม
เมื่อพระองค์ทรงทราบว่า สีหเสนาบดีมีจิตคล่อง มีจิตอ่อน
มีจิตปลอดจากนิวรณ์ มีจิตเบิกบาน มีจิตผ่องใสแล้ว
จึงได้ทรงประกาศพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลี ปราศจากมลทินได้เกิดแก่สีหเสนาบดี
ณ สถานที่นั่งนั้นแล
ว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา
ดุจผ้าที่สะอาดปราศจากมลทินควรรับน้ำย้อมเป็นอย่างดี ฉะนั้น.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=5&A=1924&Z=2126
สีหเสนาบดีได้ธรรมจักษุ...
ท่านคงไม่ตระหนี่ทาน โดยเลือกให้เฉพาะพระพุทธศาสดา หรือสาวกของพระตถาคต
เหมือนกับ การสอนของนักบวชคึกฤทธิ์ ตามคลิปต้นกระทู้ กระมัง
ไหนว่า สอนแต่คำถตาคตเท่านั้น จริงหรือ ? ดูตัวอย่างหลักฐาน ที่นี่
http://pantip.com/topic/33607952/comment14
มหาวรรค ภาค ๒
เรื่องสีหเสนาบดี
ดำริเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค
...
สี. พระพุทธเจ้าข้า โดยพระพุทธดำรัสแม้นี้
ข้าพระพุทธเจ้ายินดี พอใจยิ่งกว่าคาดหมายไว้
เพราะพระองค์ตรัสอย่างนี้กะข้าพระพุทธเจ้าว่า
ดูกรสีหะ เธอจงทำการที่ใคร่ครวญเสียก่อนแล้วทำ
เพราะการใคร่ครวญเสียก่อนแล้วทำเป็นความดีสำหรับคนมีชื่อเสียงเช่นเธอ
ความจริง พวกอัญญเดียรถีย์ได้ข้าพระพุทธเจ้าเป็นสาวก
พึงยกธงเที่ยวประกาศทั่วพระนครเวสาลี
ว่า สีหเสนาบดีเข้าถึงความเป็นสาวกของพวกเราแล้ว
แต่ส่วนพระองค์สิ มาตรัสอย่างนี้กะข้าพระพุทธเจ้าว่า
ดูกรสีหะ เธอจงทำการที่ใคร่ครวญเสียก่อนแล้วทำ
เพราะการใคร่ครวญเสียก่อนแล้วทำ เป็นความดีสำหรับคนมีชื่อเสียงเช่นเธอ
ข้าพระพุทธเจ้านี้ ขอถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรมและพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ
แม้ครั้งที่สอง
ขอพระองค์โปรดทรงจำข้าพระพุทธเจ้า ว่า
เป็นอุบาสก ผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป พระพุทธเจ้า.
ภ. นานนักแล สีหะ ตระกูลของเธอได้เป็นสถานที่รับรองพวกนิครนถ์มา ด้วยเหตุนั้น
เธอพึงสำคัญเห็นบิณฑบาตว่าเป็นของควรให้นิครนถ์เหล่านั้นผู้เข้าไปถึงแล้ว.
สี. โดยพระพุทธดำรัสแม้นี้ ข้าพระพุทธเจ้ายินดีพอใจยิ่งกว่าคาดหมายไว้
เพราะพระองค์ตรัสอย่างนี้กะข้าพระพุทธเจ้าว่า
นานนักแล สีหะ ตระกูลของเธอได้เป็นสถานที่รับรองพวกนิครนถ์มา
ด้วยเหตุนั้น เธอพึงสำคัญบิณฑบาตว่าเป็นของควรให้นิครนถ์เหล่านั้นผู้เข้าไปถึงแล้ว ดังนี้
ข้าพระพุทธเจ้าได้ทราบว่า พระสมณะโคดมรับสั่งอย่างนี้ว่า
ควรให้ทานแก่เราผู้เดียวไม่ควรให้ทานแก่คนพวกอื่น
ควรให้ทานแก่สาวกของเราเท่านั้น ไม่ควรให้ทานแก่สาวกของศาสดาอื่น
เพราะทานที่ให้แก่เราเท่านั้น มีผลมาก ทานที่ให้แก่คนพวกอื่นไม่มีผลมาก
ทานที่ให้แก่สาวกของเราเท่านั้น มีผลมาก ทานที่ให้แก่สาวกของศาสดาอื่นไม่มีผลมาก
แต่ส่วนพระองค์ทรงชักชวนข้าพระพุทธเจ้า ในการให้แม้ในพวกนิครนถ์
แต่ข้าพระพุทธเจ้าจักรู้กาลในข้อนี้เอง
ข้าพระพุทธเจ้านี้ขอถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ
แม้ครั้งที่สาม ขอพระองค์โปรดทรงจำข้าพระพุทธเจ้าว่า เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ
จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป พระพุทธเจ้าข้า.
สีหเสนาบดีได้ธรรมจักษุ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอนุปุพพิกถาแก่สีหเสนาบดี
คือ ทรงประกาศทานกถา ศีลกถา สัคคกถา
โทษ ความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย
และ อานิสงส์ในความออกจากกาม
เมื่อพระองค์ทรงทราบว่า สีหเสนาบดีมีจิตคล่อง มีจิตอ่อน
มีจิตปลอดจากนิวรณ์ มีจิตเบิกบาน มีจิตผ่องใสแล้ว
จึงได้ทรงประกาศพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลี ปราศจากมลทินได้เกิดแก่สีหเสนาบดี
ณ สถานที่นั่งนั้นแล
ว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา
ดุจผ้าที่สะอาดปราศจากมลทินควรรับน้ำย้อมเป็นอย่างดี ฉะนั้น.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=5&A=1924&Z=2126
สีหเสนาบดีได้ธรรมจักษุ...
ท่านคงไม่ตระหนี่ทาน โดยเลือกให้เฉพาะพระพุทธศาสดา หรือสาวกของพระตถาคต
เหมือนกับ การสอนของนักบวชคึกฤทธิ์ ตามคลิปต้นกระทู้ กระมัง
ไหนว่า สอนแต่คำถตาคตเท่านั้น จริงหรือ ? ดูตัวอย่างหลักฐาน ที่นี่
http://pantip.com/topic/33607952/comment14
แสดงความคิดเห็น
-- โสดาบัน (?) ใส่ซองผ้าป่าได้มั๊ย ? --
ชาวพุทธคิดว่า โสดาบัน(?) ใส่ซองผ้าป่าได้มั๊ย ?