ใต้เงาแห่งปีกสีดำ บทที่ 2 ปีศาจ ฆาตกร

กระทู้สนทนา
โรส ฟลอร่า ตั้งใจจะตามล่าล้างแค้นเจ้าปีศาจที่เคยพรากคนสำคัญไปจากเธอ
หากเมื่อได้พบเขา เงาทมิฬจากปีกสีดำคู่นั้นกลับมิใช่ความชั่วอันน่าชิงชังอย่างที่เคยเข้าใจ
*/*/*/*/*/


ตอนก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

                บทที่ 2

                ปีศาจ ฆาตกร

                แสงอาทิตย์ทอสาดพาดขอบฟ้าบอกเวลาเริ่มอรุณของวันใหม่ ภายในบ้านหลังเก่าคร่ำคร่าซึ่งน่าจะไร้ร้างซึ่งผู้ใด กลับมีเสียงเอะอะโวยวายของสตรีดังแว่วออกมา

                “อะไรกันนี่! มีแต่ผลไม้ทั้งนั้น เจ้าไม่มีพวกเนื้อเก็บไว้บ้างหรือยังไง” โรสหันไปถามปีศาจที่ยืนแผ่บรรยากาศอึมครึมออกมารอบตัวตั้งแต่เช้า

                บุรุษหนุ่มมองโรสรื้อค้นห้องครัวของตนพลางนึกในใจ หญิงสาวผู้นี้คงลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนเขาออกปากไล่นางไปอย่างไร หรืออาจไม่ได้คิดจะใส่ใจมันตั้งแต่แรก…

                “ข้าเป็นมังสวิรัติ และไม่เคยคิดจะหาเสบียงไว้เผื่อแผ่แขกไม่ได้รับเชิญที่ไหน”

                “เหยี่ยวนี่นะ! กินมังสวิรัติ” แขกไม่ได้รับเชิญเบะปากก่อนจะหยิบผลไม้ลูกหนึ่งขึ้นกัดแล้วเคี้ยวกร้วม ๆ พลางมองเจ้าของสถานที่ถือกระเป๋าสัมภาระเดินออกจากบ้านไปโดยไม่สนใจเธออีก

                “เฮ้! ผลไม้พวกนี้ไม่เอาแล้วหรือไง น่าเสียดาย”

                โรสรีบกอบผลไม้ลงกระเป๋าของตัวเองก่อนจะกระโดดแผล็วออกจากบ้านก้าวเร็ว ๆ เดินตามซาการ์ทไป

                “เจ้าตามข้ามาทำไม”

                ปีศาจหนุ่มหันไปถามหญิงสาวที่เดินกินผลไม้ตามเขามาพักใหญ่ตั้งแต่ออกจากบ้านมา หล่อนมองหน้าคนถามแล้วเลิกคิ้วสูง

                “ข้าเดินอยู่ข้างหลังเจ้าแล้วคิดว่าข้าต้องตามเจ้ามาหรือไง”

                “อย่ามาทำไขสือเล่นลิ้นกับข้า” ซาการ์ทกล่าวเสียงดุ แต่โรสกลับทำหน้ายียวนกวนประสาทใส่

                “งั้นเจ้าก็บอกมาสิ ว่าเอาท่านเลอาของข้าไปซ่อนไว้ที่ไหน ข้าจะได้ไปตามถูกคน”

                ซาการ์ทมองหน้าหญิงสาวนิ่ง

                “ถ้าได้พบนางแล้วจะทำยังไง พานางกลับไปมิเนอร์เวี่ยนอย่างนั้นหรือ ราชาอาเดียร์สั่งใครให้ทำเช่นนั้นแล้ว?”

                โรสชะงักเมื่อเจอคำถามนี้ จริงอยู่...หากสามารถช่วยเหลือเลอาได้ เธอตั้งใจจะพาเจ้าหญิงกลับสู่มิเนอร์เวี่ยน แต่ก็ไม่มั่นใจว่านั่นเป็นทางเลือกที่ดีนัก แม้ราชาอาเดียร์ผู้เป็นพระบิดาของเลอาจะส่งทหารไปตามล่าและออกประกาศจับพวกปีศาจเหยี่ยวดำ แต่กลับไม่เคยมีรับสั่งให้ตามหาบุตรสาว เหมือนว่าเขาไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยนามของนางออกมาด้วยซ้ำ

                หญิงสาวพยายามกลบเกลื่อนสีหน้าที่เปลี่ยนไปก่อนเชิดหน้าขึ้นตอบซาการ์ท

                “เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่ตราบใดที่ข้ายังไม่ได้พบท่านเลอา ข้าก็จะติดตามเจ้าต่อไปอย่างนี้แหละ”

                “เจ้าคิดจริงหรือ ว่าจะตามข้าได้ตลอดไป” ปีศาจหนุ่มเอ่ยเสียงเยียบเย็น แต่หญิงสาวก็ตอบเสียงยวนกลับ

                “แล้วเจ้าคิดจริงหรือ ว่าจะหนีข้าได้ตลอดไป”

                ซากร์ทพ่นลมหายใจ นึกหน่ายที่จะต่อล้อต่อเถียงกับโรสอีก จึงหมุนตัวหันหลังเดินต่อไปโดยไม่เอ่ยอะไร ปล่อยให้หญิงสาวข้างหลังเดินตามด้วยท่าทางภูมิใจที่เถียงชนะ

                โรสอดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นปีศาจเหยี่ยวเดินไปบนถนนซึ่งทอดยาวเข้าสู่ใจกลางเมือง มันเป็นแหล่งที่มีมนุษย์พลุกพล่าน เธอนึกว่าเจ้าปีศาจตนนั้นกับเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติไปแล้วเสียอีก อย่างน้อยก็ตั้งแต่แปดปีก่อนนั่นแหละ

                ราชาแห่งมิเนอร์เวี่ยนประกาศกร้าวว่าอาณาจักรของเขาจะต้องปราศจากอสูรใด จึงสั่งสมกำลังพลมากมายไว้ล่าล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจโดยเริ่มจากพวกเหยี่ยวดำ

                หลังออกจากบ้านอุปถัมภ์เด็กกำพร้า โรสสมัครเป็นทหารรับจ้างอยู่กองกำลังเสริมช่วงหนึ่งก่อนออกมาเป็นนักล่าค่าหัวอย่างเต็มตัว ในช่วงนั้นได้มีโอกาสพบและประมือกับซาการ์ทหลายครั้ง แต่ไม่ได้ใสใจว่าทำไมจึงพบเขาในแต่ละสถานที่

                ครั้งนี้โรสคอยสังเกต จึงเห็นว่าเจ้าปีศาจมักแวะเวียนเข้าร้านขายยาและสมุนไพร สงสัยนักว่าเขาจะเอามันไปทำอะไร มีใครป่วยมากมายนักหรือ

                ทว่าหญิงสาวก็ไม่ได้คิดจะไถ่ถาม และความรำคาญจากสิ่งอื่นก็มีมากกว่า โรสรู้สึกถึงสายตาหลายคู่จ้องมองมาตลอดทาง มันเป็นสายตาของสตรีหลายนางซึ่งจับจ้องไปยังปีศาจเหยี่ยวอย่างชื่นชมและเคลิ้มฝัน พวกนางเหล่านั้นพาลมองอย่างทิ่มแทงมาที่เธอซึ่งเดินตามติดอยู่ด้านหลังของเขาด้วย

                แม้โรสจะชิงชังเจ้าปีศาจตนนี้เพียงใด ทว่าหากมองในมุมมนุษย์ธรรมดาอย่างไร้อคติแล้วก็ต้องยอมรับ ว่าจะเห็นซาการ์ทเป็นเพียงมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งมีหน้าตาคมคายหล่อเหลา เส้นผมสีดำสลวยยาวระแผ่นหลังและข้างแก้ม กระนั้นก็ยังไม่อาจบดบังนัยน์ตาสีอำพันทอประกายคมปลาบคู่นั้นได้ ร่างสูงสมส่วนภายใต้อาภรณ์สีดำสนิทซึ่งตัดแต่งอย่างภูมิฐานตามแบบสมัยนิยมของมนุษย์ หากเขาได้อยู่ในสังคมของมนุษย์จริง ๆ ก็คงเป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่มากมายได้อย่างไม่ต้องสงสัย

                คิดไปแล้วโรสก็นึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก

                “อยากรู้นัก ถ้าแม่พวกนั้นรู้ว่าเจ้าเป็นปีศาจและฆาตกรจะทำหน้ายังไง”

                */*/*/*/*

            

                “นี่! เจ้าว่าโรสกำลังตามผู้ชายคนนั้นอยู่หรือเปล่า” บุรุษคนหนึ่งเอ่ยถามบุรุษอีกคนแข่งกับเสียงจอแจรอบข้าง พวกเขานั่งอยู่ในร้านอาหารข้างถนนเพื่อรับประทานมื้อเช้าและเห็นโรสเพิ่งเดินผ่านหน้าร้านไป

                คนถูกถามจำต้องกลืนชิ้นเนื้อซึ่งยังเคี้ยวได้ไม่ละเอียดดีลงคอเพื่อตอบคำ

                “ถ้าหมายถึงเจ้าหนุ่มหล่อชุดดำคนนั้นล่ะก็ คงใช่”

                “ยายนั่นบอกว่ามาทำธุระ แต่ดูท่าทางแบบนั้นคงไม่ได้มาล่าเหยื่อไปขึ้นค่าหัวหรอกนะ” ชายหนุ่มคนแรกเปรย เขายกมือชึ้นลูบปลายคางอย่างใช้ความคิด

                “ว่าแต่ผู้ชายคนนั้น ข้าว่าหน้าตาคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน...” เขานิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปสั่งเจ้าคนตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม “เกร็ก เจ้าเอารายชื่อค่าหัวมาให้ข้าหน่อยสิ”

                เกร็กหยิบสมุดเล่มหนึ่งออกจากกระเป๋าแล้วรีบส่งมันให้กับอาร์กก่อนที่ไส้กรอกชิ้นสุดท้ายในจานจะถูกคนที่นั่งข้าง ๆ แย่งไป อาร์กรับสมุดมาแล้วพลิกไปยังหน้าที่มีประกาศจากมิเนอร์เวี่ยน ครู่หนึ่งบุรุษหนุ่มก็ยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ

                “เยี่ยม! เจอเหยื่อดีเข้าแล้ว”

                */*/*/*/*

            

                ในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่าน โรสยังคงติดตามซาการ์ทไปไม่ห่าง แต่ไม่ได้เข้าใกล้ไปวุ่นวายมากนัก ปีศาจเองก็ทำตัวเหมือนไม่รู้ว่ามีเธอติดตามอยู่ข้างหลัง

                ไม่สิ! เจ้านั่นรู้ แต่ไม่ใส่ใจ มันคิดว่าเธอไม่อาจจะเป็นหนามทิ่มตำอะไรได้ ประมาทเข้าไว้เถอะ

                ขณะหญิงสาวจ่ายเงินซื้ออาหารว่างริมทางอย่างรีบร้อน สายตาคอยมองปีศาจเหยี่ยวไม่ละไป มือของใครคนหนึ่งก็มาสะกิดจากด้านหลัง

                “ไง! โรส กำลังตามตื้อหนุ่มอยู่เหรอ ใช่ท่านชายผู้นี้หรือเปล่า”

                อาร์กเอ่ยพลางหงายสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมา โรสหรี่ตามองใบประกาศนำจับจากมิเนอร์เวี่ยนแล้วก็ถอนหายใจ

                มาจนได้...ตัวยุ่งยาก

                “ข้าไม่ถือสาหรอกนะที่เจ้าโกหก แต่ยังคิดว่าไม่อยากจะร่วมมือกันอยู่อีกหรือ”

                “ใช่ ข้าไม่คิดจะร่วมมือกับเจ้าหรือใครทั้งนั้น” โรสตอบอย่างไม่ลังเล “เป้าหมายของข้าไม่ใช่แค่ค่าหัวของเจ้านั่น แต่จะด้วยเหตุผลอะไรนั้นข้าไม่มีความจำเป็นต้องบอกเจ้า”

                “อ้อ! ใช่แล้ว เจ้าเป็นชาวมิเนอร์เวี่ยน” อาร์กทำท่าว่านึกอะไรออก แต่โรสเดาว่าเขาคงเข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากสิ่งที่เธอคิด...เยอะ

                “เจ้าคงเป็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เมื่อแปดปีก่อนครั้งนั้นด้วย”

                “ก็ทำนองนั้น” หญิงสาวรับเสียงเนือย เมื่ออาร์กทำท่าเห็นใจและตบไหล่เธอเบา ๆ

                “อย่างนั้นก็ตามใจ แต่ในเมื่อเรามีเป้าหมายคนเดียวกัน หากพวกข้าชิงตัดหน้าไปก่อนก็อย่าว่ากันเลยนะ”

                “ข้าไม่ได้คิดจะดูถูกพวกเจ้า” เธอกล่าวจริงจังพลางจ้องตาอีกฝ่ายนิ่ง “แต่ค่าหัวห้าสิบล้านของเจ้านั่นไม่ได้มีไว้เพื่ออวดความร่ำรวยของมิเนอร์เวี่ยนหรอกนะ”

                “โอ้! ถึงเป็นเช่นนั้น เจ้าเองก็ยังไม่หวั่นเลยมิใช่หรือ” อาร์กแสยะยิ้มอย่างท้าทาย “แต่ก็ขอบใจนะที่เตือน ข้าไปก่อนล่ะ”

                อาร์กเอ่ยลาแล้วก้าวถอยเข้าไปในฝูงชนเมื่อเห็นว่าซาการ์ทออกมาจากประตูร้านที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา หญิงสาวมองตามอดีตเพื่อนร่วมงานพลางถอนหายใจ รู้ดีว่าพวกเขาคงไม่เลิกราง่าย ๆ แน่

                “ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ อาร์ก”

                หลังจากติดตามซาการ์ทซึ่งเดินลัดเลาะไปทั่วเมืองจนเย็นย่ำ โรสอดคิดไม่ได้ว่าเจ้าปีศาจตนนี้ทำไมชำนิชำนาญการซื้อของในเมืองมนุษย์นัก หล่อนเดินตามจนเริ่มเหนื่อยแล้วแท้ ๆ

                ปีศาจหนุ่มปรายหางตามองโรสซึ่งเดินลากขาทิ้งช่วงอยู่ไม่ไกลก่อนจะหมุนปลายเท้ามุ่งหน้าออกนอกเมือง อีกไม่นานจะพลบค่ำ เขาตั้งใจจะบินกลับในยามนั้นเพื่ออำพรางตนจากสายตามนุษย์ช่างสังเกต ซาการ์ทรู้ดีว่านอกจากตัวยุ่งขาประจำแล้วตอนนี้ยังมีเพิ่มมาอีกสี่ เห็นทีจะหลีกหนีความยุ่งยากไม่ได้เสียแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่