= = = กลเทวา บทที่ 3 = = =

กระทู้สนทนา
บทนำ และบทที่ 1 : http://pantip.com/topic/33291401

บทที่ 2 : http://pantip.com/topic/33336819

================================

บทที่ 3

แพรจ๊ะ
            

เป็นยังไงบ้าง? หายตัวไปเลย เมล์ก็ไม่ตอบ ช่วงนี้ยุ่งอยู่ใช่ไหม? ถ้าว่างเมื่อไหร่อย่าลืมตอบเมล์ด้วยนะ คิดถึงแพรอย่างแรงเลย มีเรื่องอยากเม้าด้วย
            

จำเรื่องที่ไนท์เคยเล่าให้ฟังได้มั้ย? เรื่องลานเทวาน่ะ วันนี้ไนท์หลงเข้าไปในนั้นล่ะ (สาบานว่าไม่ได้ตั้งใจจะเดินเข้าไปจริงๆ) ข้างในสวยอย่างที่คิดเลยล่ะ แต่ว่าเจอผู้ชายพิลึก แต่งตัวประหลาดเหมือนออกมาจากหนังจักรๆวงศ์ๆเลยล่ะ ท่าทางจะรู้จักคุณยาย แต่พอไปถามท่านก็ไม่ตอบแฮะ สงสัยคงเป็นคนแถวนี้
            

ยังไงถ้าว่างแล้วก็เมล์มาด้วยนะ นัดวันคุยสไกป์[1]กันก็ได้ มีเรื่องอยากคุยเต็มไปหมด
            
ไนท์เอง
           
ป.ล. คนอื่นๆเป็นยังไงบ้าง พอออนไลน์ไม่ได้นี่รู้สึกตกข่าวอย่างแรงเลย
            
ป.ล.2 อยู่แบบไม่มีเน็ทไปสักพักก็เริ่มชินๆเหมือนกันนะ

            

อินทุภากดส่งจดหมายอิเล็กโทรนิกส์ฉบับล่าสุดจากคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่หอบหิ้วมาต่ออินเตอร์เน็ทที่ออฟฟิศ หลังจากภูเบศวร์ทราบว่าหล่อนอยากจะต่ออินเตอร์เน็ทกับแล็บท็อปของตัวเอง เขาก็ไปหาสายสำหรับเชื่อมต่อระบบแลน[2]มาให้ หญิงสาวจึงสามารถใช้งานเครื่องของตนได้
            

หล่อนเหลือบมองหน้าจอเฟซบุ๊คที่เปิดหราอยู่อีกหน้าต่างหนึ่งก่อนกดปิดลงด้วยความเซ็ง ดูเหมือนเพื่อนที่กรุงเทพฯต่างสนุกสนานกับการไปเที่ยว ซื้อของ และรับประทานอาหารที่ร้านต่างๆ ทุกคนต่างอัพเดทชีวิตของตนเองกันอย่างสนุกสนาน
            

ไม่มีใครคิดถึงหล่อนสักคน...


อินทุภาถอนหายใจ ดูเหมือนทุกคนจะพร้อมใจกันลืมเพื่อนคนนี้เสียสิ้น ต่างคนต่างสนุกสนานกับชีวิตการทำงาน เพื่อนใหม่ และอะไรใหม่ๆ ความจริงหล่อนจะเป็นฝ่ายติดต่อไปหาทุกคนก็ได้ แต่หญิงสาวก็หงุดหงิดเกินกว่าจะทำอย่างนั้น จึงตัดสินใจส่งอีเมล์หาเพื่อนสนิทที่สุดที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งแทน
            

คนที่ถูกลืมเท้าคางมองหน้าจอว่างเปล่าพลางถอนใจ หวนนึกถึงบทสนทนายามเย็นวาน เมื่อหล่อนถูกสอบสวนจากคุณนายอุมาว่าเหตุใดจึงเข้าไปในลานเทวาทั้งๆที่ไม่ได้รับอนุญาต


หญิงสาวนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นไม้ที่ขัดเรียบ ขณะที่ผู้สูงวัยอยู่บนตั่งไม้ที่ใช้เอนหลังบ่อยๆในห้องนั่งเล่น ห้องนี้นั้นเป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวของคุณนายอุมา ภายในห้องจึงมีเพียงโทรทัศน์ ตั่งไม้ และข้าวของส่วนตัวบางอย่างเท่านั้น ความเงียบสงบในห้องทำให้อินทุภารู้สึกอึดอัดจนทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวก้มหน้านิ่งรอรับคำตำหนิที่จะสาดซัดมายังหล่อน สมองเริ่มคิดหาคำแก้ตัวที่จะทำให้หลุดรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้


ทว่า...คำแรกที่คุณนายอุมาเอ่ยปากนั้นสร้างความประหลาดใจให้อย่างมาก


“ไนท์เข้าไปทำอะไรในลานเทวาน่ะลูก?”


น้ำเสียงปรานีที่ถามไถ่นั้นกระทบความรู้สึกของอินทุภาอย่างประหลาด เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่มีคนถามหล่อนก่อนจะตำหนิ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นยาย ความเมตตาของผู้สูงวัยทำให้หล่อนตัดสินใจตอบไปตามความจริง


“คือ...ไนท์ไม่ทราบค่ะว่าตรงนั้นคือลานเทวา” หล่อนตอบจริงจัง “ไนท์ได้ยินเสียงดนตรี คิดว่าเป็นดนตรีไทยนะคะ มันเพราะมาก ไนท์อยากรู้ว่าใครเล่น ก็เลยเดินตามเสียงไปค่ะ”


คุณนายอุมาชะงักไปเพราะคำตอบนั้น นางมองหลานสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ชรา
“อย่างนั้นเองหรอกหรือ?”


อินทุภามองอาการแปลกๆของผู้เป็นยายอย่างไม่เข้าใจนัก หากไพล่ไปคิดว่าคงเป็นเพราะคุณนายอุมาไม่ชอบใจที่หล่อนขัดคำสั่ง หญิงสาวจึงรีบเอ่ยขอโทษในทันที


“ไนท์ขอโทษนะคะ ไนท์ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” หล่อนละล่ำละลัก “คุณยายอย่าโกรธไนท์เลยนะคะ”


“ยายไม่ได้โกรธไนท์หรอกลูก” คุณนายอุมาส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงปฏิเสธ “เพียงแต่...”


นางเอ่ยเบาๆคล้ายรำพึงกับตัวเองก่อนจะเงียบเสียงลง อินทุภาขยับตัวยุกยิกด้วยความอึดอัด หล่อนกำลังทำตัวไม่ถูกกับความเงียบเช่นนี้ ปกติแล้วถ้าทำอะไรไม่ถูกใจสราญรัตน์ หล่อนก็ทำแค่เตรียมใจรับคำตำหนิใหญ่โตที่จะตามมา หากอดทนเงียบเสียงจนแม่เลี้ยงอารมณ์เย็นได้ หล่อนก็จะผ่านเรื่องนั้นไปได้ด้วยดี แต่ถ้าอดปากไม่ไหวเอ่ยตอบโต้ก็จะโดนดุว่าตามด้วยการตัดเบี้ยเลี้ยง ความใจเย็นของคุณนายอุมาจึงเป็นสิ่งที่อินทุภาไม่คุ้นชิน


เจ้าของไร่สูงวัยไตร่ตรองอยู่นานก่อนตัดสินใจเอ่ยปากถามเบาๆ
“แล้ว... ไนท์เจอใครในนั้นไหมลูก?”


“ใคร?” หล่อนทวนคำถามนั้นอย่างงงๆ ภาพชายหนุ่มผู้กำลังร่ายรำกับเสียงดนตรีผุดขึ้นมาในความคิดทันที “เจอค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าด้วยความมั่นใจ “เจอคนแปลกๆคนหนึ่งค่ะ แต่งตัวประหลาด พูดจาพิลึกด้วยค่ะ”


“ประหลาด? พิลึก?”


“ใช่ค่ะ” อินทุภาผงกศีรษะยืนยันอีกครั้ง “แต่งตัวประหลาดมากเลย เขาไม่สวมเสื้อแต่นุ่งผ้าท่อนล่าง โจงกระเบนมั๊งคะ” หล่อนใช้ศัพท์ตามที่ตนเองเคยได้ยิน แต่ก็ไม่มั่นใจนัก “สวมเครื่องประดับด้วย เต็มตัวเลยค่ะ คล้ายๆลิเก ตอนที่ไนท์เดินเข้าไปในลานเทวา เขากำลังรำอะไรสักอย่างอยู่ไม่รู้”


“รำงั้นหรือ?”

“ค่ะ” หล่อนรับคำ เมื่อเห็นว่าคุณนายอุมาไม่เอ่ยปากตำหนิ หญิงสาวก็พรั่งพรูสิ่งที่ติดอยู่ในใจออกมาในทันที “รำเหมือนกำลังขอพรอะไรสักอย่าง เขาเรียกไนท์ว่านางน้อยด้วย พอถามว่าเขาเป็นใคร เขาก็บอกว่าให้มาถามคุณยาย” อินทุภาละประโยคที่ว่า เอาขนมมาให้บ่อยๆไว้ในใจเพราะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายอ้างไปเองหรือไม่ หญิงสาวมองผู้สูงวัยกว่าด้วยความหวังว่าจะไขข้อข้องใจที่ติดอยู่ในใจตั้งแต่ก้าวออกมาจากลานเทวาได้


หญิงชราฟังคำอธิบายของหลานสาวแล้วรู้สึกระคายหูกับคำอธิบายของอีกฝ่ายไม่น้อย หากก็พอเข้าใจว่าเด็กสมัยใหม่ไม่คุ้นชินกับอะไรแบบนั้น นางระบายลมหายใจยาว ใคร่ครวญว่าจะให้คำตอบกับอินทุภาที่กำลังเฝ้ามองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นอย่างไรดี


“เขาก็เป็นคนที่อยู่แถวนี้ล่ะลูก” นางเอ่ยเลี่ยงไปเสียแทน “อยู่มานานแล้วล่ะ แต่ไม่ค่อยออกมาให้ใครเห็น”


“อย่างนั้นเหรอคะ?” หญิงสาวขมวดคิ้ว อยู่มานานของคุณยายนี่นานแค่ไหนกัน เพราะมองอย่างไรอีกฝ่ายก็แก่กว่าหล่อนไม่กี่ปี เผลอๆจะรุ่นราวคราวเดียวกันเสียอีก ที่สำคัญกว่านั้น เขามาทำอะไรที่นี่ล่ะนั่น “เขาเป็นคนงานเหรอคะ?”


“ไม่ใช่ลูก” คุณนายอุมาปฏิเสธเสียงหลง ก่อนจะตัดบทในทันที “เอาเป็นว่าไนท์อย่าไปสนใจอะไรเลย รู้แค่ว่าเขาอยู่ที่นี่มานานก็พอ ไนท์อย่าเข้าไปในนั้นอีกแล้วกัน อย่าไปรบกวนท่านเลย...” ประโยคท้ายแผ่วเบาจนอินทุภาจับใจความไม่ได้


“ค่ะ”


หญิงสาวรับปากรับคำเป็นอย่างดี แม้หล่อนจะมีข้อสงสัยมากมายเต็มไปหมด หากก็ไม่กล้าขัดใจผู้เป็นเจ้าของไร่ด้วยเกรงว่าจะเกิดผลเสียกับผลประโยชน์ของตน!

[1] Skype – โปรแกรมติดต่อสื่อสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ท

[2] ระบบ LAN – ระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทแบบใช้สาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่