เที่ยวเซนได 6 วัน 5 คืน กับโฟกัส จิระกุล (วันที่ 3)

น้องโฟกัสเที่ยวเซนไดมาเป็นวันที่ 3 แล้ว วันนี้น้องไปเที่ยวไหน ตามไปดูกัน !
(วันที่ 1 อ่านได้ที่ http://pantip.com/topic/33234099    วันที่ 2 อ่านได้ที่ http://pantip.com/topic/33277035 )
วันที่ 3 ในเซนไดของโฟกัส จิระกุล วันนี้น้องไปตลาดปลาแต่เช้าค่ะ ไปทานข้าวเช้ากันในตลาดเลย ทานข้าวหน้าปลาสดเสียด้วย !

ตลาดปลาชิโอะกะมะ (Shiogama Nakaoroshi Shijo) เปิดเช้าแต่เช้ามืดไปจนถีงบ่าย 1- 2โมง มีร้านย่อยกว่า 300 ร้านขายทั้งสดและปลีกในตลาดแห่งนี้

จะซื้อกลับบ้านหรือซื้อแล้วเอามานั่งทานกันในตลาดได้เลย มีมุมขายข้าวกับซุปมิโสะในราคาไม่แพงและที่ให้นั่งทาน มีบริการปิ้งสุกให้ด้วย (100 เยนต่อ 1 ครั้ง ดังนั้นอย่าส่งให้เขาปิ้งทีละนิดทีละหน่อยนะคะ ส่งไปพร้อมๆกันในปริมาณพอเหมาะ จะคิดค่าปิ้งครั้งละ 100 เยนค่ะ)

โฟกัสเอาอาหารทะเลสดๆที่ซื้อมาทำเป็นข้าวหน้าอาหารทะเลสด(My Kaisendon) ทาน
วิธีไป นั่งรถไฟJR สายSenseki ลงสถานี Higashi Shiogama แล้วเดิน15 นาที http://www.nakaoroshi.or.jp/lang/en

เมืองชิโอะกะมะ(Shiogama)นี่อยู่ไม่ไกลจากเมืองมัทซึชิมะ (Matsushima)ที่ลือชื่อในความงามของอ่าวเล็กๆนี้มีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่ 260 เกาะ
สองเมืองนี่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันและกันของอ่าวมัทซึชิมะ ดังนั้นนั่งเรือทัศนาจรข้ามฟากไปก็เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมทำค่ะ

เมืองMatsushima นี้มีวัดเก่าที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับตระกูลดาเตะที่น่าเข้าชมอยู่ 2 วัด คือวัดซุยกังจิ (Zuigan-ji) และวัดเอ็นทซึอิน (Entsu-in)
สองวัดนี้อยู่ติดๆกัน ตอนนี้วัดซุยกังจิอยู่ในระหว่างปฏิสังขรณ์ น้องโฟกัสจึงมุ่งตรงไปยังวัดเอ็นทซือิน เพราะที่นี่มีสวนญี่ปุ่นสวยๆ (จะสวยมากในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี) มีหอเก็บรูปหุ่นที่ระลึกหลานชายผู้มีความสามารถของดาเตะ มะซะมุเนะที่เสียชีวิตแต่ในวัยเยาว์ และภาพน้ำมันเก่าแก่ หอนี้ถูกปิดตายเป็นเวลานับร้อยปีด้วยเหตุผลทางการเมือง ภาพนี้ถ่ายช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ

ที่วัดนี้มีการทำกำไลร้อยลูกประคำ โดยเราเลือกวัสดุและสีของลูกประคำตามใจชอบได้ เช่นแก้ว หิน ไม้ต่างๆ สีและวัสดุนี้จะบ่งบอกความในใจและสิ่งสำคัญในชีวิตของผู้เลือก บางวันรองเจ้าอาวาสซึ่งเป็นภิกษุนีจะมาสอนวิธีทำให้ผู้มาด้วยตัวเอง ซึ่งท่านก็จะบอกว่ากำไลลูกประคำนี้ให้ใช้ใส่เป็นเครื่องเตือนใจ วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากสถานีJR Matsushima Kaigan ค่ะ


เสร็จจากทำลูกประคำ ชมบริเวณวัดแล้ว ก็ออกมาเดินชมเมือง ขมวิวอ่าว มีเกาะเล็กๆที่อยู่ใกล้นิดเดียวกับถนนเลียบทะเล ที่เป็นที่ตั้งวิหารโกะไดโด้ (Godaido) ต้องแวะถ่ายรูปกันหน่อยค่ะ เพราะวิหารนี้เหมือนกับเป็นไอคอนของอ่าวมัทซึชิมะเลยทีเดียว วิหารนี้สร้างเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 807 (กว่า 1200 ปีก่อนเชียวนะ) แต่วิหารที่เห็นปัจจุบันนี้เป็นหลังการสร้างเสริมขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1604 (400 ปีกว่า..) ข้างในเก็บเทวรูปศักสิทธิ์ที่จะเปิดให้เห็นได้ทุกๆ 33 ปี

มาเที่ยวมัทซึชิมะแล้ว อาหารกลางวันที่ไม่ควรพลาดคือหอยนางรมค่ะ เพราะที่อ่าวนี้มีชื่อเสียงไปทั่วญี่ปุ่นในเรื่องการเลี้ยงหอยนางรม ที่เมืองนี้เดินไปที่ไหนก็จะเห็นร้านขายหอยนางรม

เดินเที่ยวมัทซึชิมะกันจนเมื่อยขา ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังเมืองอื่น น้องโฟกัสแวะเรือนน้ำชา Kanrantei ริมอ่าวมัทซึชิมะ สั่งชาญี่ปุ่นมาทานพร้อมขนม จิบชาไปพร้อมชมวิวทะเล หายเหนื่อยไปได้เยอะเลยนะคะ Kanrantei เป็นเรือนเก่าแก่ที่เจ้าเมืองเซนได Date Masamune และตระกูลของท่านใช้เป็นที่พักร้อนดื่มน้ำชาพลางชมคลื่นชมดวงจ้นทร์กัน

ในเรือนมีภาพวาดผลงานจิตรกรสมัยก่อนที่มีชื่อเสียง

ข้างหลังเรือนมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆเก็บของใช้และอาวุธโบราณแสดงให้ชม หากเดินไปรอบบริเวณก็จะเห็นต้นไม้เก่าๆหินแปลกๆ Kanrantei อยู่ไม่ไกลจากสถานี Matsushima Kaigan หรือท่าขึ้นเรือทัศนาจรค่ะ

่บ่ายคล้อย ทีมน้องโฟกัสก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่บริเวณบ่อน้ำพุร้อนกินซัง (Ginzan) จ.ยะมะกะตะ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเซนได
เข้าพักที่โรงแรม Kosekiya http://www.kosekiya.jp/english.php

เที่ยววันที่ 3 ก็จบลงแค่นี้ พักก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้เที่ยวต่อ  ขอจบกระทู้นี้ด้วยรูป Ginzan Onsen อันแสนโรแมนติค
อ่านต่อเที่ยววันที่ 4 ได้ที่นี่ค่ะ http://pantip.com/topic/33331000
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่