สวัสดีปีใหม่ 2567 ครับ

เพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน จากกระทู้ ชวนเที่ยว Hiraizumi นะครับ 

วันนี้จะพาเที่ยว Matsushima และงาน Light up ที่วัด Entsuin และ Zuiganji ครับ
ซึ่งมีชื่อว่า เป็นหนึ่งในงานประดับไฟ ที่สวยที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ เลยครับ 
แต่สำหรับผม ที่นี่ ถือว่าเป็นงาน illumination ที่สวยที่สุด
ในการเดินทางของผมในปี 2023 นี้เลยครับ



รีวิวนี้ อาจจะยาวนิดหนึ่งครับ 
ผมจะพยายามเล่าให้ระเอียดขึ้นกว่า การรีวิวที่อื่นๆ นิดหนึ่งครับ

เพราะประทับใจกับ งาน Light up ที่ Matsushima มากๆครับ 
ทริปนี้ มีเรื่อง ตื่นเต้น ตลก และน่าประทับใจตลอด 3 วัน 2 คืน ที่ Matsushima ครับ 
 ( เป็นวันที่ 8, 9, และ 10 ของการเดินทางครับ )

แผนการท่องเที่ยว ที่วางแผนไว้คราวๆ คือ ตามนี้ครับ

วันที่ 8 
08.00 รถไฟขบวนเช้า Senseki Line ไป จาก Senseki to Matsushimakaiga Station
08.45 เก็บแสงเช้าที่วัด Entsuin
11.00 เก็บบรรยากาศที่ วัด Zuiganji
13.00 อาหารกลางวัน ที่อ่าว Matsushima
15.00 เข้าที่พัก ที่โรงแรม Matsushima
17.00 ออกจากโรงแรม เพื่อ ชมงาน illumination ที่วัด Entsuin & Zuiganji
17.30 เดินชมงาน Light up ที่วัด เอ็นซืออิน
19.30 เดินชมงาน Light up ที่วัด ซุยกันจิ
21.00 เดินทางกลับโรงแรม 

วันที่ 9
6.30 เก็บแสงเช้าที่ Matsushima Bay
8.30 เก็บแสงเช้าที่ วัด Entsuin ( รอบเก็บตก )
11.00 นั่งรถไฟจาก Matshushima to Hon-Shiogama
11.30 เก็บบรรยากาศ ใบไม้แดงที่ Shiogama Shrine 
14.00 อาหารกลางที่ Shiogama
15.00 นั่งรถไฟกลับมาที่ Matshushima Station
16.00 Sunset Cruise at Matsushima Bay
17.30 เดินกลับมางาน illumination at Entsuin (รอบเก็บตก)
20.00 กลับโรงแรมที่ Matsushima

วันที่ 10
7.19 ออกจาก Matsushima to Sendai Station
8.01 JR Senzan Train from Sendai station to Sakunami ( Yamadera)
9.30  เดินไปวัด Rissyakuji Temple ( Yamadera )
13.00  อาหารกลางวัน ที่ Yamadera
14.00  นั่งรถไฟจาก Yamadera to Sendai Station.
15.15  Sendai Castle
16.30  Tohoku University 
21.00 Check-in at Sendai Hotel. 

รอบนี้จัดโปรแกรมไว้แน่นพอสมควรครับ
เรามาดูกันครับ ว่ารอบนี้จะไปได้ครบ ตามที่วางแผนไว้ไหม  

>> ไปครับ ไปเที่ยวต่อกันเลยครับ

1.เริ่มต้นเดินทางกันที่ สถานีรถไฟเซนได ครับ 



โดยใช้รถไฟ JR Senseki Line จาก JR Sendai Station to Matsushimakaiga Station 
ใช้เวลาเพียง 33 นาทีครับ 

เพื่อนๆ ที่มี JR East Pass และ JR Pass สามารถใช้เดินทางรถไฟสาย JR Senseki Line ได้ฟรีครับ
ใครไม่มีบัตร สามารถซื้อตั๋วรายเที่ยวได้ครับ ค่าธรรมเนียม ประมาณ  418 Yen ครับ

2. แผนที่ Sendai Area Railway System ครับ



3. ตารางการเดินรถไฟครับ



4. มีเรื่องตลกนิดนึ่ง สำหรับทริปนี้ ครับ 
เพราะระหว่างทางจะเดิน เข้าไปสถานีรถไฟเซนได
ดันเจอเพื่อนเก่า ที่ไม่ได้เจอกันมาเป็น 10 ปีอะครับ 
โลกมันกลมจริงๆครับ!!! 

เหมือนเป็นอะไรที่ตลกมาอะครับ คือ 
อยู่กรุงเทพ ไม่เคยเจอกัน เป็น 10 ปี
แต่ดันมาเจอกัน ที่สถานีรถไฟเซนได้ ซะงั้น

หลังจากนั้น ก็ทักทาย พูดคุยกัน 
ขอไลน์อัดเดต กันนิดหน่อย 
แต่ดันคุยกัน เพลินครับ 
ก็ตกรถไฟสายด่วน ที่วางแผนจะนั่งไว้  ตอนเวลา 8 โมง
ส่วนเพื่อนที่วางแผน ไปเที่ยว Yamadera
ก็ตกรถไฟเที่ยวที่วางแผนจะขึ้นไว้ เหมือนครับ

สรุปว่าถ้าเจอเพื่อนเก่า อย่าคุยกันเพลิน 
จนเลยเวลารถไฟครับ 555

เริ่มออกทะเล!! กลับมาเดินทาง ไปมัตสึซิมะ กันต่อครับ

5. หลังจากที่พลาดรถไฟ เที่ยวที่วางแผนจะขึ้นไว้ 
ก็เลยต้องรอ รถไฟขบวนถัดไปอีกนิดหน่อย 
และนั่งรถไฟขบวนธรรมดา ที่ไม่ใช่รถด่วนครับ 

>> บรรยากาศ ด้านข้างรถไฟสาย Senseki ครับ



แต่ความน่าตื่นเต้นของเดินทางวันนี้ ยังไม่จบเท่านั้นครับ
พอรถไฟวิ่งไปซักพัก ถึงสถานี  Takasago
รถไฟก็หยุด พักที่นานเป็นผิดปกติครับ
ตอนแรก รถไฟมีประกาศ เป็นภาษาญี่ปุ่น อะครับ
ซึ่งผมไม่ได้ตั่งใจฟังมาก เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
และมั่วแต่ใส่หูฟัง ฟังเพลงไปเรื่อยๆ ครับ
จนผ่านไปซัก 5 นาที แล้วรถไฟยังไม่ออกจาก สถานี Takasago

จึงเริ่มหาข้อมูลจากกูเกิล และประกาศ ต่างๆ ของรถไฟครับ
ปรากฏว่า รถไฟขบวนก่อนหน้านี้ เกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ 

เราก็คิดในใจ "อีกแล้วเหรอนี่" 
คือรอบที่แล้ว ที่อยู่ที่โตเกียว ผมก็ติดในรถไฟหลายชั่วโมง
จากอุบัติเหตุ "คนกระโดดฆ่าตัวตายบนทางรถไฟ" ครับ 
รอบนี้ เจออุบัติเหตุ รถไฟชน กับรถยนต์อีกแล้ว 
แต่โชคยังดี ว่า ไม่ใช่ขบวนที่ผมขึ้นอะครับ 

หลังจากนั้นอีกประมาณ 15 นาที คนญี่ปุ่น ที่เป็นคนท้องถิ่น 
ก็เริ่มลงจากรถไฟ กันไปเรื่อยๆ ครับ 
จนเหลือแต่นักท่องเที่ยว และคนญี่ปุ่นที่อยู่บนขบวน ไม่ถึง 50% ครับ

จนเราเริ่มสังเกตุว่า อุบัติเหตุ น่าจะรุนแรงมากอะครับ 
และน่าจะใช้เวลา นานพอสมควร กว่ารถไฟจะกลับมาวิ่งได้

สรุปวันนี้ ต้องติดอยู่ในขบวนรถไฟ กว่า 3 ชั่วโมงครับ
เพราะสถานี Takasago เป็น สถานีขนาดเล็ก แทบจะหาทางเลือก 
อื่นๆ เดินทางไป จุดหมายปลายทางแทนยากพอสมควรเลยครับ 
สำหรับนักท่องเที่ยวแบบเราๆ 

อย่างไรก็ตามถือว่าโชคดี ได้เจอเพื่อนเก่า ที่ไม่เคยเจอกันมา 10 ปี
และพลาดการขึ้นรถไฟ ในขบวนที่เกิดอุบัติเหตุ นะครับ 

แม้ว่าจากการที่จะใช้เวลาเดินทางเพียง 33-39 นาที
และน่าจะไปถึงสถานีปลายทางประมาณ 08.33
ปรากฎว่าวันนี้ ใช้เวลาเดินทางรวมเกือบ 3 ชั่วโมงครับ กว่ารถไฟ
จะกลับมาเดินทางได้ก็เกือบๆ เที่ยงเลยครับ
และกว่าจะมาเดินทางถึงสถานี Matsushima ก็เกือบบ่ายโมงเลยครับ 



6. หลังจากถึงสถานี Matsushima 
เลยรีบเดินไป วัดเอ็นซืออิน (Entsuin) ก่อนครับ
เพราะกลัวว่า จะมีเวลาไม่พอ สำหรับ เดินถ่ายรูปใบไม้แดงในจุดต่างๆ ครับ 



ก่อนเข้าไปเที่ยววัด เรามาดูประวัติ วัดนี้ซักเล็กน้อยครับ 

วัดเอ็นซืออิน เป็นวัดพุทธเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองมัตสึชิมะ จังหวัดมิยางิ
ก่อตั้งในปี 1647 โดยดาเตะ ทาดามูเนะ น้องชายของดาเตะ มาซามุเนะ 
ซึ่งเป็นขุนนางศักดินาที่มีอำนาจในสมัยเอโดะ 

วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ดาเตะ มุเนะมุระ 
ลูกชายของดาเตะ มาซามุเนะ 
ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยครับ

จุดเด่นที่สำคัญเกี่ยวกับวัดเอ็นซืออิน:

1.สถาปัตยกรรม: เอนซืออินมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่ 
ที่ผสมผสานสไตล์ต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น โมโมยามะ อะซึจิ-โมโมยามะ 
และองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะตอนต้น 
ห้องโถงใหญ่ (ฮอนเด็น) และโครงสร้างอื่นๆ ที่สร้างอย่างปราณีตมากๆ ครับ 

2. สวน: หนึ่งในไฮไลท์ของวัด เอนซืออิน คือสวนสวย
ที่เรียกว่า "คิริซึมิโนะนิวะ" 
หรือ "สวนหงอนเพาโลเนีย" สวนแห่งนี้มีมอสสีเขียวสด โคมไฟหิน 
และพืชพรรณที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน 
ให้บรรยากาศอันผ่อนคลาย และเงียบสงบสำหรับผู้มาเยือน

3. สุสานดาเตะ มาซามุเนะ: ภายในบริเวณวัด 
เป็นสุสานที่อุทิศให้ ดาเตะ มาซามุเนะ 
สุสานเป็นสถานที่สวยงามมากครับ 
และประดับประดาด้วยงานแกะสลักและการตกแต่งอันวิจิตรบรรจง 

4. โรงน้ำชา: เอนซืออินมีโรงน้ำชา
ในบริเวณวัด เผื่อให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสประสบการณ์
พิธีชงชาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมได้ 
เป็นการเพิ่มประสบการณ์ทางวัฒนธรรมดังเดิมของญี่ปุ่น 
ที่ทางวัดจัดไว้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียวครับ

แค่อ่านประวัติ ของวันนี้ ก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมครับ

>> >> ไปครับ ไปเดินดูภายในวัดกันเลย

เริ่มจาก จ่ายค่าธรรมเนียม ค่าเข้าก่อนครับ น่าจะ 500 เยนครับ ถ้าจำไม่ผิด

7. เพียงผ่านประตูวัด เราก็พบกับใบไม้แดง ที่กำลังเปลี่ยนสีเลยครับ 
ไม่บรรยายเยอะนะครับ ไปดูรูปบรรยากาศจริงๆ กันดีกว่าครับ 





เดินหนี จากมูมมหาชน มานิดหน่อยครับ
ในจุดถ่ายรูปที่ 2



จุดที่ 3 ครับ ใบไม้แดงมาก
ใครได้มาช่วง พีค ช่วงต้นเดือน น่าจะฟินกว่านี้ 



อีกซักรูป กับจุดนี้ครับ 



ที่วัด มีการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น ให้ชมด้วยครับ
สวยมากเลยครับ 



ที่วัดจัดจุด นั่งถ่ายรูปให้ด้วยครับ 
คนจะเยอะหน่อยครับ ต้องรอจังหวะ ถ่ายรูป นานเหมือนกันครับ  



เดินผ่านมา แล้วมองกลับไปก็สวยอยู่นะครับ 
ใบไม้แดง ร่วงไปพอสมควรครับ เมื่อคืนน่าจะมีฝนตกครับ 



เดินมาอีกซักพัก จะเจอกับ Sankeiden 
ที่เป็นสุสานของ Date Misumune ครับ



บรรยากาศของสุสานในจุดอื่นๆ ครับ



มีการตกแต่งสุสาน ในจุดต่างๆ ที่สวยงามมากครับ



บรรยากาศใบไม้แดง ในสวน ในจุดต่างๆ ของวัดครับ



เดินมาอีกซักพัก เราจะพบกับ Daihitei (the main hall) ครับ
กลับบรรยากาศที่เงียบสงบ ภายในสวนครับ



มองไปทางไหน ก็เจอแต่ใบไม้แดงครับ 
ถ้าใครมาช่วงต้นๆ ของเดือน น่าจะฟิน กว่านี้ครับ



บรรยากาศทางเดินไปอาคาร อื่นๆ ของวัด และโรงน้ำชา ครับ 




บรรยากาศ อาคารต่างๆ ภายในวัดครับ 



8. หลังจากเดินชมวัดเสร็จ ก็หิวเล็กน้อยครับ
แวะทานอาหารกลางวันกันก่อนที่ร้าน 
อยู่ใกล้ๆ กับทางเข้า วัดซุยกันจิ ครับ 



9. บรรยากาศ อาหารกลางวัน
เป็นชุดลิ้นวัวสุดนุ่ม เมนูดังของ Sendai และ Matsushima ครับ 
ค่าเสียหาย 1,700 เยน ครับ แต่วิว ที่ประเมินค่าไม่ได้ครับ 





10. หลังจากนั้นก็ไปสำรวจ วัดซุยกันจิ ก่อนบรรยากาศ งาน light up ซักเล็กน้อย



>> >> >> ไปเที่ยวต่อกัน ในข้อความนะครับ รู้สึกใกล้จะเกิน 10,000 ตัวอักษรครับ 

....   つづく .....