สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวพันทิปทุกคน นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกของเราเลย ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวการทำกิมจิแบบใช้โคชูจังซึ่งถามว่าทำไมใช้โคชูจัง 1.หาซื้อพริกเกาหลีไม่ได้(มีขายนะแต่อยู่ไกลเกินเดินทางลำบาก) 2.อร่อย555. ตอนแรกซื้อโคชูจังมาทำคิบิมบับหลายๆคนอาจจะรู้จัก ซึ่งเราทำไปแค่ครั้งเดียวมันก็เลยเหลือคาตู้เย็นไปหลายเดือน แล้วจู่ๆนึกอยากทำกิมจิขึ้นมา เลยหาวิธีทำแบบไม่ใช้พริกเกาหลีดูในพันทิปนี้แหละ ไปเจอกระทู้นึง เค้าใช้โคชูจัง ซึ่งที่บ้านเรามีอยู่แล้ว หาซื้อไม่ยากด้วย มีวางขายที่ท็อปไม่รู้ทุกสาขารึป่าวนะ เราซื้อที่สาขาเซนทรัลปิ่นเกล้า เราเลยลองทำดูตามสูตรนั้นเลยทำครั้งแรกออกมาดีเยี่ยมชอบเลยติดใจ เคยไปกินกิมจิหลายๆที่นะ แต่รู้สึกว่าชอบที่เราทำเองมากที่สุดแล้วอ่ะ(ขึ้นอยู่กับคนชอบด้วยนะ)เลยจะมาบอกต่อๆกันเผื่อมีคนชอบแบบเรา ^^
ปล.จำฃื่อกระทู้นั้นไม่ได้ขออภัยนะคะที่ไม่ได้ใส่เครดิต



เรามาดูวัตถุดิบกันดีกว่า...
1.ผักกาดขาว 2 หัว
2.หัวไชเท้า 1 หัว
3.ต้นหอม 3 ต้น
4.กระเทียมบด
5.ขิงบด
6.พริกชี้ฟ้า
7.เกลือ
8.น้ำตาล
9.น้ำปลา
10.โคชูจัง

ทีนี้มาเริ่มทำกันเลย...

ขั้นตอนแรกเลยเอาผักกาดขาวไปแช่น้ำ เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าใส่สารอะไรในผักไปรึป่าว ที่บ้านเราจะใส่น้ำส้มสายชูลงไปเล้กน้อยค่ะ แช่ทิ้งไว้สัก 15 นาที
พอครบ15นาทีแล้วเราก็นำผักกาดขาวใส่กะละมังใบใหญ่ๆ เอาหัวไชเท้ามาหั่นเป็นแผ่นวงกลมบางๆไม่ต้องถึงกับบางมากใส่ลงไปในกะละมัง แล้วใส่เกลือประมาน 3 กำตามลงไป ใส่น้ำพอดีๆกับผัก แล้วทิ้งไว้ประมาน 4 ชม.


ระหว่างรอผักนั้น เรามาเตรียมวัตถุดิบกัน เริ่มจากหั่นแครอทเป็นเส้นๆ หั่นต้นหอมเป็นท่อนยาวๆ เอาขิงกับกระเทียมไปโขลก แล้วเอาพริกชี้ฟ้าไปปั่นละเอียด


เราจะเอาขิงบดกับกระเทียมบดและพริกชี้ฟ้าลงไปปั่นเข้าด้วยกันเพื่อความละเอียด จะออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้ละเอียดสะใจดี 55555.


รอเวลาจนครบ4ชม. เราก็เอาผักมาล้างๆๆๆ ล้างสัก3น้ำ เอาให้หายเค็ม เด็ดใบผักกาดมาชิมดูนะ อาจจะหลงเหลือความเค็มนิดหน่อยไม่ว่ากัน


บีบน้ำออกให้หมด หดเหลือแค่นี้เอง 55555.


จากนั้นใส่แครอท ต้นหอม (ขิง กระเทียม พริกชี้ฟ้าปั่น) ลงไป ตามด้วย น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ, โคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะพูนๆ, น้ำปลาไม่ต้องใส่เยอะมากถ้าเค็มไปมันจะแก้ไม่ได้


เมื่อใส่ทุกอย่างครบแล้ว ก็คลุกเคล้าให้เข้ากันแนะนำคนที่มือแพ้ง่าย แสบง่ายให้หาถุงมือใส่ดีกว่านะคะ คลุกให้ทั่วๆ แล้วก็ชิมดูว่าขาดอะไรอยากเพิ่มเติมอะไรก็สามารถใส่เพิ่มได้ตามความต้องการ ถ้าไม่เผ็ดก็ใส่พริกป่นของไทยเรานี่แหละเพิ่มลงไป ถ้าไม่เข้มข้นก็ใส่โชูจังเพิ่ม


เสร็จแล้วววว หน้าตาออกมาเป็นแบบนี้ สีอาจจะดูไม่แซ่บไม่จี๊ดจ๊าดเหมือนพริกเกาหลี แต่รับรองว่าอร่อยนะฮ้าา~


จัดเก็บใส่กล่องทิ้งไว้นอกตู้เย็นประมานประมาน14-18ชม. จะเปรี้ยวพอดีๆ หรือพอ14ชม.แล้วเราก็ชิมก่อนว่าเปรี้ยวพอใจเราหรือยัง ถ้ายังไม่เปรี้ยวก็อย่าเพิ่งเอาเข้าตู้เย็นนะคะ จำได้ว่าเค้าบอกมันเป็นหลักการเดียวกับแหนม ถ้าเอาเข้าตู้เย็นแล้วจะหยุดเปรี้ยว อาจจะไม่ถึงกับหยุดสะทีเดียว กิมจิยิ่งถ้าเก็บไว้นานๆยิ่งอร่อยน้ำจะซึมเข้าถึงเนื้อผักเลย


โคชูจัง ซื้อจากท็อปสาขาเซนทรัลปิ่นเกล้าค่ะ


          ช่วงนี้ติดมากๆ กิมจิตลอด กินอะไรก็ต้องมีกิมจิด้วย ส่วนมากจะหมักหมูไว้ค่ะเอาไว้ทอด,ย่าง กินกับข้าวร้อนๆ แกล้มด้วยกิมจิ อร่อยเหาะเลยค่ะ บางทีทอดไข่เจียวก็กินคู่กับกิมจิ เอามาทำได้หลายอย่างค่ะ ข้าวผัดกิมจินี่แนะนำๆทำง่ายๆค่ะอร่อยด้วย สูตรนี้ต้องขอบคุณกระทู้นั้นมากๆ(จำไม่ได้จริงๆหาไม่เจอแล้วT^T) ที่ทำให้ค้นพบรสชาติของกิมจิที่เราต้องการ 555555. เดี๋ยวจะลองทำดูหลายๆเมนูแล้วจะมารีวิวให้ดูกันใหม่ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ขอบคุณคร่าาา ^^ #ต้องขออภัยมือใหม่หัดรีวิวผิดพลาดไปขออภัยจ้า