แฉ!!! ความจริงเบื้องหลังการถอดสติ๊กเกอร์ไลน์ของดีลเลอร์โตโยต้าชื่อดัง เมื่อการตลาด แพ้ความริษยา

กระทู้สนทนา
...คือ คห.ที่ 3 ในกระทู้นี้เองนะคะ http://pantip.com/topic/32319557
ต้องขอโทษทุกคนที่ทำให้ รอนานค่ะ พอดีเมื่อคืนออกไปปาร์ตี้จนดึกไปหน่อย เลยไม่ได้มาเขียนตอบ เห็นมีคนสนใจหลายคนเลยขอมา เขียนแยกเป็นประทู้ใหม่เลยละกันนะคะ

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่า จขกท. ไม่ใช่คนที่รู้เรื่องนี้มาละเอียดตั้งแต่ต้น หรือเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับ เรื่องนี้
จขกท. เป็นแค่ดีเลอลร์รถเจ้านึงในต่างจังหวัด ที่ได้ถูกเชิญให้เขาร่วมลงชื่อร้องเรียนในกรณีนี้ด้วย แต่ จขกท. ไม่ได้ร่วมลงชื่อไป เพราะไม่อยากมีปัญหากับดีลเลอร์เจ้าดังที่เป็นกรณีอยู่ตอนนี้
ฉะนั้นก็จะขอเล่าเฉพาะ ส่วนที่รู้มา ทั้งจากที่พยายามชักชวนให้ลงชื่อ และ ส่วนที่รู้จากโตโยต้าประเทศไทย!!

...เรื่องของเรื่องก็คือว่า หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า การแข่งขันในวงการของดีลเลอร์รถด้วยกันมันค่อนข้างจะรุนแรง เหมือนกันในช่วงหลังๆ ดีลเลอร์แต่ละเจ้าก็เร่งกันขยายสาขาลูกข่าย บ้างก็พัฒนาการให้บริการต่างๆให้ได้ มาตรฐาน และมากไปกว่านั้นก็คือการทำการตลาดด้วยรูปแบบต่างๆ เพื่อจะดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการและซื้อ รถกับศูนย์ตัวเองกันให้มากที่สุด ยิ่งปัจจุบันนี้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องซื้อรถกับศูนย์ใกล้บ้าน หรือ ศูนย์ในจังหวัดตัวเองอีกต่อไป การแข่งขันมันก็เลยดุเดือดมากขึ้น

จริงๆไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรหรอกค่ะ เพราะต่างคนก็ต่างทำการค้า มันก็ต้องแข่งกันเป็นเรื่องปกติ ใครคิดวิธี ไหนได้ ก็เอามาใช้ บางบริษัทก็เน้นทำกิจกรรม ออกบู๊ต ใช้พริตตี้ แจกของ ชิงโชค ทำ CSR ต่างๆ แล้วแต่ใคร จะสรรหามาได้ ส่วนลูกค้าจะซื้อรถกับศูนย์ไหนมันก็เป็นเรื่องของความพอใจ ความประทับใจของลูกค้า เราก็ ต้องแข่งขันและพัฒนากันไป

แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า มันมีดีลเลอร์เจ้าดังเจ้าหนึ่งที่ใช้รูปผึ้งเป็นโลโก้ของตัวเอง คิดวิธีแหวกแนวไปหน่อย เขาไป ลงทุนหมดทำ Offical Line เพื่อแจกสติ๊กเกอร์ (ได้ยินมาว่า เสียตังค์ไปเยอะค่ะ เป็นหลักล้านเลยทีเดียว) ทีแรกก็ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แต่มันเริ่มมีปัญหาก็ตอนที่ สติ๊กเกอร์ เริ่มมีคนโหลดเป็นหลักล้านคน 1 ล้าน 2 ล้าน 3 ล้าน 5 ล้าน 7 ล้าน ฯลฯ และทุกๆครั้งดีลเลอร์เจ้านี้ก็จะประกาศลงหน้าเพจว่าเรามีคนโหลดไปแล้วเท่านี้ๆ มันก็ทำให้
เริ่มมีการเคลื่อนไหวบางอย่างเกิดขึ้น...!!
———————————————————————————
ขอตัวออกไปทานข้าวสักครู่นะคะ เลทมากแล้ว ไม่รู้ประเด็นเล็กๆแบบนี้จะมีใครสนใจไหม ใครสนใจก็มารอ ฟังได้เลย ทานเสร็จแล้วจะมาเล่าต่อค่ะ อย่างน้อยๆ จขทก. ก็คิดว่ามันเป็นอุทาหรณ์ที่ดีของคนทำธุรกิจเลย

=================
มาต่อแล้วนะคะ อ่านต่อใน Comment ที่ 15 และ 25 เลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่