ดูดาวง่ายๆ เริ่มได้จากดาวจระเข้

กระทู้สนทนา
ดูดาวง่ายๆ เริ่มได้จากดาวจระเข้

รีบมาเขียนตอนต่อไปในฉับพลัน เพราะกลัวเมฆฝนจะปกคลุมท้องฟ้าไปเสียก่อน  บทความนี้อาจเป็นบทความสุดท้ายก่อนที่โจสเลนจะขอพักยาวก่อนจะชวนดูกลุ่มดาวสามเหลี่ยมฤดูร้อน - วีกา, อัลแตร์, เดเนบ ตอนปลายเดือนตุลาคม (ความจริงสามดวงนี้จะดูช่วงนี้ก็ได้ แต่มันต้องรอตีหนึ่งตีสอง ซึ่งโจสเลนง่วงนอนแร้ววว)


      สักวาดาวจรเข้ก็เหหก
ศีรษะตกหันหางขึ้นกลางหาว
เป็นวันแรมแจ่มแจ้งด้วยแสงดาว
น้ำค้างพราวปรายโปรยโรยละออง
ลมเรื่อยเรื่อยเฉื่อยฉิวต้องผิวเนื้อ
ความหนาวเหลือทานทนกมลหมอง
สกุณาดุเหว่าก้เร่าร้อง
พอแสงทองส่องฟ้าขอลาเอย


ความส่วนตัวคิดว่ากลุ่มดาวนายพรานเป็นกลุ่มดาวที่ดูง่ายที่สุด ส่วนดาวจระเข้ดูง่ายลองลงมา

ดาวจระเข้รูปร่างเป็นแบบนี้ครับ



ลากเส้นให้ดู



คนไทยมองว่าเป็นจระเข้



ส่วนฝรั่งมองเป็นหมี เรียกว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa major)



แบะ! แบะ! (เอ้ย ต้องเป็น แบร์! แบร์! สิ แบะ แบะ นั่นมันเสียงแกะ)

*หมายเหตุ ถ้าดูบนท้องฟ้าจริงจะให้ความรู้สึกว่ามันใหญ่มาก

ดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่ ไม่มีดาวฤกษ์ที่ติดอันดับยี่สิบอันดับดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดเลยสักดวงเดียว (แป่ว)

ดาวที่น่าสนใจที่สุดสำหรับโจสเลนในกลุ่มดาวนี้ก็คือ ดาวที่อยู่ดวงกลางของหางหมี (หรือหางจระเข้ก็แล้วแต่จะเรียก)

มองดีๆ จะเห็นเป็นสองดวง

ดวงที่สว่างกว่าชื่อมิซาร์ (Mizar) ดวงที่สว่างน้อยกว่าชื่ออัลคอร์ (Alcor)

เล่ากันว่าชาวอาหรับโบราณใช้ดาวสองดวงนี้ทดสอบสายตานะนายจ๋า ถ้านายสายตาดีล่ะก็จะเห็นเป็นสองดวง คนสายตาแย่ๆ มองเห็นแค่ดวงเดียวเองหละนายจ๋า (สำเนียงแขกมาเชียว)

เร็วๆ นี้ (ก็หลายปีแล้วนะ) นักดาราศาสตร์ได้พบว่าดาวสองดวงนี้ (และดาวอีกหลายดวงในกลุ่มดาวหมีใหญ่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน ก็เลยสงสัยว่ามันอาจจะเคยเกิดขึ้นมาในกระจุดดาวเปิดเดียวกัน (หรืออีกนัยหนึ่ง คือ เกิดจากเนบิวลาอันเดียวกัน) ก่อน แล้วก็ค่อยกระตัวออกจากกัน

หากนายสนใจเรื่องนี้ละก็ ลองเซิร์ชคำว่า Ursa Major Moving Groups ดูได้นะนายจ๋า



กลุ่มดาวหมีใหญ่นี่เป็นกลุ่มดาวที่สำคัญ เพราะช่วยในการหาดาวเหนือได้ เรื่องของเรื่องก็ คือ ดาวเหนือเนี่ย เป็นดาวที่สำคัญสุดบนท้องฟ้าแล้วเพราะช่วยในการบอกทิศ แต่ว่าตัวดาวเหนือเองมันไม่สว่างเอาเท่าไหร่ เวลาหาเลยต้องใช้ดาวดวงอื่นช่วย

วิธีหาดาวเหนือจากกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็ง่ายๆ ด้วยการลากเส้นตรงจากดาวสองดวงหน้าสุด (ขาหน้าของจระเข้) ตรงลงมาทางเส้นของฟ้า (เมืองไทยลากลงมา แต่ถ้าไปอะลาสกาบางเดือนอาจต้องลากขึ้น) จนพบกับดาวดวงหนึ่ง



ดาวดวงนี้ก็คือดาวเหนือ (Polaris) นั่นเอง



ดาวเหนืออยู่ในกลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa minor) ลองลากดูก็หน้าตาคล้ายๆ กลุ่มดาวหมีใหญ่ แต่ตัวเล็กกว่า (และหางยาวกว่าด้วย)





แบร์!

แบร์!

แบร์!

(???)

แบร์!

แบร์!

แบ่ร์ร์ร์ร์ร์ร์ร์ร์ร์!!!!!!!!





ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย

โจสเลนกับลังถูกหมี ทั้งหมีดำ หมีกริสลีย์ หมีขั้วโลก และหมีแพนด้า ประท้วงกันยกใหญ่เลยครับ



เรื่องที่เค้าประท้วงกันเนี่ย ก็มีอยู่ว่า

ดาวหมีใหญ่ ดาวหมีเล็กเนี่ย ทำเสียชาติหมีหมดเลย

ก็หมีบ้านไหน หางยาวเป็นวาแบบนั้นล่ะ





ความจริงเรื่องนี้มีที่มาอยู่ครับ

เรื่องก็มีอยู่ว่า จอมเทพซุส ราชาแห่งเทพเจ้าทั้งปวง เป็นเทพประเภทหลายใจ มีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ที่นั่นที่นี่ไปทั่ว

อนุภรรยาคนหนึ่งของท่านชื่อว่า คัลลิสโต (ถ้าใครนึกคุ้นๆ ว่า เป็นชื่อดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีละก็ ถูกแล้วล่ะครับ ชื่อดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีจะถูกตั้งตามภริยาของเทพซุส หรืออีกชื่อหนึ่งคือ จูปิเตอร์

เทพซุสมีลูกกับคัลลิสโตอยู่คนหนึ่ง ชื่อว่า อาร์คัส ประกอบอาชีพเป็นนายพราน

วันหนึ่งเทพีเฮรา มุขยภริยา หรือ เมียหลวง ของเทพซุสรู้เรื่องเข้าก็โกรธมาก สาปคัลลิสโตให้เป็นหมีเสียเลย

อาร์คัสก็บังเอิญล่าสัตว์อยู่พอดี ไปเจอแม่ของตัวในร่างหมีก็เตรียมจะฆ่าทิ้ง

เทพซุสเห็นว่านั่นจะกลายเป็นอนันตริยกรรม ก็เลยเปลี่ยนอาร์คัสเป็นหมีอีกคน (ทำไมไม่เปลี่ยนคัลลิสโตเป็นคนนะ) แล้วก็จับหางของหมีสองแม่ลูกเหวี่ยงขึ้นฟ้า

เพราะเหวี่ยงแรงมากหางหมีก็เลยยืดยาวออก

คัลลิสโตจึงกลายเป็นกลุ่มดาวหมีใหญ่ และอาร์คัสจึงกลายเป็นกลุ่มดาวหมีเล็กด้วยประการฉะนี้



นอกจากใช้หาดาวเหนือแล้ว กลุ่มดาวหมีใหญ่ยังใช้หาดาวฤกษ์ได้อีกหลายกลุ่ม



เช่น ถ้าลากตามแนวเส้นทะแยงมุมของขาจระเข้ไปข้างหน้าดังรูปก็จะเจอกลุ่มดาวคนคู่





ส่วนถ้าลากเส้นโค้งไปตามแนวหาง เริ่มแรกก็จะเจอกับดาวฤกษ์สีแดงสว่างดวงหนึ่ง ชื่อว่า อาร์ทูรุส (Arcturus)  เรียกเป็นภาษาไทยว่า ดาวดวงแก้ว หรือถ้านั่นยังหรูหราไม่พอ ก็มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ดาวยอดมหาจุฬามณี




ชื่อภาษาอังกฤษของดาวดวงนี้มาจากคำในภาษากรีกที่แปลว่า คนเลี้ยงหมี เพราะเป็นดาวที่เคลื่อนตามกลุ่มดาวหมีทั้งสองอยู่ตลอดเวลานั่นเองครับ

และกลุ่มดาวที่อาร์คทูรุสอยู่ก็เรียกว่ากลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ด้วย

ลากต่อไปอีกเท่าตัวก็จะเจอกับดาวฤกษ์สว่างสีฟ้เข้ม ชื่อว่า ดาวสไปกา (Spica) หรือ ดาวรวงข้าว



ดาวรวงข้าวนี้อยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาว (Virgo) กลุ่มดาวประจำจักรราศีเดือนกันยายน



กลุ่มดาวหญิงสาวนี้เป็นกลุ่มดาวที่ใหญ่เป็นอันดับสองบนท้องฟ้า (ยังจำที่โจสเลนพูดได้ไหมครับ ว่า กลุ่มดาว ในทางดาราศาสตร์ หมายถึง อาณาเขตบนท้องฟ้า ทำนองเดียวกับอาณาเขตประเทศบนโล) และถ้าหากใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องไปในบริเวณนี้แล้วละก็ ก็จะมีดาราจักรจำนวนมากเลยทีเดียวครับ

และในบรรดาดาราจักรเหล่านี้ ดาราจักรที่โดดเด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ดาราจักรหมวกแม็กซิกัน (Sombrero galaxy)



ดาราจักรนี้เป็นดาราจักรที่อยู่ห่างออกไป 28 ล้านปีแสงจากโลก เป็นดาราจักรก้นห้อยไม่มีแกนที่มีลักษณะโดดเด่นคือ แถบฝุ่นดำที่คาดกลาง ทำให้ดูคล้ายหมวกของชาวแม็กซิกันที่เรียกว่า Sombrero นั่นเอง



ส่วนถ้าลากจากกลุ่มดาวหมีใหญ่ไปอีกแนวหนึ่ง ก็จะไปเจอกับดาวฤกษ์สีฟ้า อาจจะสว่างน้อยกว่าดาวรวงข้าวอยู่สักหน่อย ดาวดวงนี้มีชื่อว่าเรกิวลุส (Regulus) หรือ ดาวหัวใจสิงห์





ชื่อเป็นเช่นนี้ก็ย่อมแน่ว่าอยู่ในกลุ่มดาวสิงโต จักรราศีประจำเดือนสิงหาคม เพราะฉะนั้นเมื่อหาดาวเรกิวลุสเจอแล้ว ก็ลองหาดาวดวงอื่นๆ ในกลุ่มดาวสิงโตดู ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ดาวที่เรียงตัวกันโค้งเป็นรูปเคียวซึ่งประกอบเป็นส่วนหัวของสิงโตนี่เอง



ชื่อเสียงอย่างหนึ่งของกลุ่มดาวสิงโตก็คือฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต หรือ ฝนดาวตกลีโอนิดส์ (Leonids)

มีเรื่องต้องเล่าให้ฟังก่อนจะพูดถึงฝนดาวตกอยู่สองเรื่อง

เรื่องแรก ต้องบอกว่า ดาวตก คือ เศษหิน เศษน้ำแข็ง วัตถุในอวกาศที่ตกลงมาลุกไหม้ในชั้นบรรยากาศของโลก

เรื่องที่สอง ต้องบอกว่า ดาวหาง เวลาโคจรผ่านระบบสุริยะไปในแต่ละครั้ง ก็จะทิ้งเศษซากหินและน้ำแข็งไว้ตามทางที่ผ่านไป (ช่างเป็นดาวที่มักง่ายเสียนี่กระไร)

เมื่อใดก็ตามที่โลกโคจรเข้าไปในดงของ "ขยะ" ที่ดาวหางทิ้งเอาไว้ ตอนนั้น เศษหิน เศษน้ำแข็งก็จะตกลงมาสู่โลกเยอะเป็นพิเศษ



เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ฝนดาวตก หรือ Meteor Garden



เอ้ย

ไม่ใช่

Meteor Shower ต่างหาก



ฝนดาวตกลีโอนิดส์นี้เป็นเศษขยะจากดาวหางเทมเพล-ทัตเทิล (Comet Tempel-Tuttle ) ซึ่งถ้าไม่เคยได้ยินชื่อก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นดาวหางที่สว่างไม่มาก



ปรากฏการณ์ฝนดาวตกนี้เกิดขึ้นทุกปี แต่ที่บางปีมากบางปีน้อยขึ้นอยู่กับว่าตอนที่โลกผ่านเข้าไปในดง "ขยะ" นั้น มี "ขยะ" อยู่หนาแน่นแค่ไหน

ถ้าดาวหางเพิ่งมาทิ้ง "ขยะ" ไปเมื่อไม่นานก็จะมี "ขยะ" เยอะ เป็นธรรมดา

พูดเสียหมดความโรแมนติกไปเลยนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่