ตอนที่ 10 Part 2
Phuket Airport

"ดีนะที่นนท์จองตั๋วเครื่องบินไว้ให้เราล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นมีหวังได้ขับรถจากกรุงเทพฯไปภูเก็ตแน่ๆ"
"เหนื่อยมั้ย หิวหรือเปล่า ตอนอยู่บนเครื่องไม่เห็นเธอทานอะไรเลย เอาแต่นอน"

"โห...ง่วงสิ! นี่ฉันทั้งง่วงทั้งเหนื่อย เมื่อคืนก็แทบจะไม่ได้นอนเลย แล้วนี่ยังต้องมาตื่นแต่เช้าอีก"

"ทางโรงแรมเอารถมาให้เราแล้ว เดี๋ยวเราจะขับรถกันไปนะ"

"งั้นก็รีบไปสิ ฉันเหนื่อย ง่วง อยากพักเต็มทีแล้ว"

"ไป งั้นเราก็รีบไปกันเถอะ"

"แล้วทำไมฉันถึงต้องมากับนายด้วยล่ะเนี่ย"
"ก็เพราะโรงแรมนั่นมันเป็นหุ้นส่วนของพ่อของเธอแล้วก็พ่อของฉันยังไงล่ะ แล้วพอพวกท่านวางมือผลมันก็เลยตกมาเป็นของเราสองคนไงล่ะ ความจริง เธอเองก็รู้ข้อนี้ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือห่ะ"

มหาสวัสดิ์ขับรถไปได้สักพักก็หันไปมองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ แต่ก็พบว่าหล่อนหลับไปแล้ว เพราะด้วยความเหนื่อยล้าที่ต้องเร่งทำงานให้เสร็จตั้งแต่เมื่อวาน ไหนจะงานเลี้ยงเมื่อคืน กว่าจะได้กลับบ้านก็ค่อนคืน แล้วยังต้องมาตื่นแต่เช้าอีก เมื่อเข้ามานั่งในรถณมนก็หลับไปทันที

มหาสวัสดิ์หันกลับมามองใบหน้าสวยได้รูป ที่เจ้าของยังคงหลับอยู่อีกครั้ง เขายอมรับว่าหล่อนสวยถูกใจเขามาก ตั้งแต่วันแรกที่เห็น แต่เพราะหล่อนถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จึงมีนิสัยดื้อรั้น เอาแต่ใจ และไม่ยอมคน หยิ่งทรนงและแสดงออกกับเขาว่าไม่ชอบเขาเอามากๆ เขาจึงต้องเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ข้างใน

มหาสวัสดิ์จอดรถสนิทแล้ว แต่ณมนก็ยังไม่ตื่น ชายหนุ่มจึงหันมาจ้องมองพิจารณาใบหน้าหญิงสาวนิ่ง

จนในที่สุดก็อดใจไม่ไหวโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้น แล้วจึงค่อยๆ ประกบปากอุ่นๆ ลงกับริมฝีปากบางสวยของหล่อน ค่อยๆจูบเบาๆ กระทั่งมันดูดดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ

"อื้อ...อื้อ...โอ้ย! นี่นายจะทำอะไร! อย่าเข้ามานะ! ไม่งั้นฉันชกหน้านายแน่..." ณมนร้องครางออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าถูกรบกวนการนอนหลับของหล่อน จนรู้สึกตัวว่าเขากำลังจูบหล่อนจึงแสร้งทำเป็นละเมอเพื่อกลบความเขินอาย แล้วหลังจากนั้นผลอยหลับไป
"โธ่เอ้ย... มาละเมออะไรกันตอนนี้ เสียมูดหมดเลย" เขาจึงต้องถอนจูบออกมาอย่างเสียดาย รู้สึกว่าจูบนี้มันแสนหวานยิ่งนัก อยากก้มลงไปจูบลิ้มลองความหอมอีกแต่ก็กลัวหล่อนจะรู้สึกตัวขึ้นมา จึงนั่งมองใบหน้าสวยตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจปลุกหล่อน
"อ้าว...ถึงแล้วหรอเนี่ย ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" ณมนพูดเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา
"ถึงแล้ว เราขึ้นไปห้องพักกันเถอะ เธอจะได้พักผ่อน" เขาบอกหล่อนอย่างห่วงใย
พอมาถึงณมนก็เดินดูรอบๆ ห้องอย่างสนอกสนใจ

"อืม...ห้องน้ำก็แบ่งออกเป็นสองโซน แยกกันได้สัดส่วนดีมากเลย เก่งจริงๆเลยคนที่ออกแบบเนี่ย ดีไซน์ออกมาได้เก๋จริงๆ"

"อืม...วางดีไซน์ได้ดี" ณมนกล่าวขณะเดินดูรอบๆ ห้อง

"มุมระเบียงนี้มองเห็นวิวทะเลด้วย สวยมากเลย ฉันชอบมุมนี้ที่สุดเลย คนออกแบบนี่เยี่ยมจริงๆเลย"

คำพูดของเธอทำให้เขาถึงกับอมยิ้ม เพราะคนออกแบบคือเขาทั้งหมด นอกจากที่เขามีความจำเป็นที่จะต้องเรียนด้านบริหารเพื่อที่จะมาบริหารกิจการของครอบครัวแล้ว เขายังแบ่งเวลาไปเรียนด้านสภาปัตย์และวิศวะอีกด้วย เพราะเป็นสิ่งที่เขาชอบ

"ว้าว! มีสปาด้วยล่ะ!" ณมนอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้น เพราะเธอชอบสปาที่สุดเลย
"โอ้ยตายแล้ว! มันสวยถูกใจฉันจริงๆ ใครกันนะเป็นคนออกแบบ อย่างกับเข้ามานั่งในใจฉันเลย"

ณมนไม่รู้เลยว่าแต่ละคำกล่าวของเธอทำเอาคนที่เดินตามหลังอย่างเงียบๆ ถึงกับยิ้มแกล้มปริไม่หุบเลยทีเดียว

"เธอจะลองไปแช่ก็ได้นะ เธอจะได้ผ่อนคลายไง หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งสัปดาห์"

"โอ้โห! นี่ฉันไม่ได้มาที่นี่แค่ 3 ปี มันเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้เลยเชียวเหรอ สวยมากเลย สวยมากๆ วิวข้างนอกก็สวยมาก ใครเป็นคนออกแบบคะนี่ เหมือนอยู่บนสวรรค์เลย ดูเป็นส่วนตัวมากๆ" ณมนกล่าวออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความตื่นเต้น

"ก็แหงอยู่แล้ว นี่มันห้องเพนเฮ้าส์นี่นา จะให้ดูธรรมดาเหมือนห้องอื่นๆ ได้ยังไง นี่ห้องเธอ"

"ส่วนห้องฉันอยู่ทางโน้น"

"ห่ะ! นี่นายพักกับฉันด้วยหรอ!?" ณมนกล่าวออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

"ใช่ ทำไมล่ะ" เขาตอบสั้นๆ ทำสีหน้าเรียบเฉยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับอาการตื่นตะหนกของเธอ
"ห่ะ! ได้ยังไงล่ะ ฉันกับนายจะพักรวมกันได้ยังไง ไม่เอาหรอก ฉันจะไปพักห้องอื่น เชิญนายพักห้องนี้ไปคนเดียวเถอะ!" ณมนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฉุนเฉียว
"ตอนนี้โรงแรมเราไม่มีห้องว่างเหลือเลยสักห้องนะ ทุกห้องถูกจองเต็มหมดแล้ว เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล จะมีก็แต่ห้องพักสำหรับผู้บริหารเท่านั้นที่ยังว่างอยู่ ซึ่งก็คือห้องนี้ แต่เอ้...จริงๆ ก็ยังพอมีห้องว่างเหลืออยู่นะ..." เขาหยุดคำพูดไว้ชั่วครู่ ก่อนจะส่งสายตาอย่างมีเลศนัยมาที่เธอ
"ห้องไหนหรอ?"
"ห้องพักพนักงาน"
"ห่ะ! ห้องพักพนักงาน!"

"ทำไม เธอกลัวอะไรหรอ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ หรือเธอกลัวว่า...พอตกดึก เธอเกิดอารมณ์เปลี่ยวอดใจไม่ไหว ห้ามใจไม่อยู่ลุกขึ้นมาปล้ำฉันกลางดึกขึ้นมาห่ะ" เขาแกล้งแหย่หล่อนเล่น
"บ้า! ทุเรศ! นี่ฉันจะบอกอะไรให้นะ ต่อให้นายมาโชว์แมนหุ่นล่ำโชว์ซิกแพคให้ฉันดู ฉันยังไม่สนใจเลยย่ะ! อย่ามาหลงตัวเองไปหน่อยเลย"
"เธอแน่ใจนะ" เขาพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ๆหล่อน แล้วมองจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวยของหล่อน จนเธอต้องหลบสายตาคมเข้มคู่นั้นด้วยความรู้สึกวาบหวิวพิกล

"เอ่อ... คือ... แล้วถ้าเกิดว่ามีใครรู้ว่าฉันพักห้องเดียวกันกับนาย มีหวังฉันต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านแน่ๆ ไหนจะพวกพนักงานในโรงแรมนี่อีก"
"นี่...คุณหนูณมนครับ นี่มันโรงแรมระดับห้าดาวนะครับ แล้วนี่ก็เป็นห้องเพนเฮ้าส์นะครับ ตาสีตาสาจะได้เข้ามาได้ง่ายๆ ห้องพักระดับนี้มันมีความเป็นส่วนตัวสูงนะครับ แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาพักก็ระดับ VIP ทั้งนั้น เราปิดเป็นความลับพนักงานระดับล่างๆ จะไม่รู้แม้กระทั้งชื่อผู้เข้าพักด้วยซ้ำ จะมีก็แต่ผู้บริหารอย่างเราๆ เท่านั้นถึงจะรู้ เข้าใจไหมครับคุณหนูณมน แล้วอีกอย่างนะ อีกหน่อยเธอกับฉันก็ต้องแต่งงานกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วเธอจะโวยวายตีโพยตีพายไปทำไมห่ะ ยุคนี้สมัยนี้ เขาไม่ถือสากันแล้วแม่คุณ"
"บ้า! อย่ามาโมเมมั่วนิ่มนะ ใครจะไปแต่งงานกับนายกันห่ะ นั่นมันเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาจัดการกันเอง ฉันไม่ยอมรับ ไม่รู้ ไม่เห็น และไม่เอาด้วย รู้ไว้ซะ ฉันเป็นคนนะย่ะ ไม่ใช่หมูหมากาไก่ที่ไหน จะได้มาจับผสมพันธุ์กับใครก็ได้" ณมนกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์นัก

"งั้นหรอ... ไหนเธอลองบอกหน่อยซิว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ มีความรู้แค่เรื่องเสื้อผ้า ไม่มีความรู้ด้านบริหารจัดการสักนิดอย่างเธอ แถมยังเป็นลูกคนเดียวของตระกูลที่มีทรัพย์สมบัติและธุรกิจมากมายมหาศาล ทั้ง โรงแรม-รีสอร์ท สำนักพิมพ์ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในเครือไตรวิชญ์สกุลอยู่ทั่วประเทศ ไหนเธอบอกฉันซิว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะรับภาระในการบริหารกิจการของตระกูลไตรวิชญ์สกุลของเธออย่างไร ฉันบอกได้เลยว่าตอนนี้เธอมีทางเลือกอยู่สองทางคือ แต่งงานกับฉัน หรือเธอพิสูจน์ตัวเธอเองให้ได้ว่าเธอจะสามารถบริหารธุรกิจของไตรวิชญ์สกุลทั้งหมดได้ ภายใน 3 เดือน แล้วฉันจะยกเลิกการแต่งงานระหว่างเราสองคน แล้วคืนทุกอย่างให้เธอ"
"ห่ะ! 3 เดือน! จะบ้าหรอ มันไม่น้อยไปหน่อยหรือไง"
"ไม่น้อยหรอกสำหรับเธอ มันมากไปด้วยซ้ำ อย่างเธอ...ถ้าต้องมาลงมือทำจริงๆ แค่อาทิตย์เดียวเธอก็ไม่ไหวแล้วมั้ง"

"นี่นายกำลังดูถูกความสามารถของฉันอยู่นะ! แล้วฉันจะพิสูจน์ให้นายเห็น ว่าฉันก็ทำได้ไม่แพ้นาย คอยดูซิ!"
"มาลองดูกันไหมล่ะ ว่าเธอจะทำได้อย่างที่พูดไหม นี่เธอคงไม่คิดนะว่าฉันจะดูแลธุรกิจของไตรวิชญ์สกุลทั้งหมดโดยที่ฉันไม่ได้อะไรเลยงั้นหรอ ห่ะ" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและเคร่งขรึมขึ้นมา
"ก็...ก็นายก็เป็นหุ้นส่วนตั้ง 50 เปอร์เซ็นต์แล้วไง นายยังจะเอาอะไรอีกล่ะ" ณมนพูดติดๆ ขัดๆ
"แค่นั้นมันไม่พอหรอกณมน นี่เธอรู้มั้ยว่าฉันต้องแบกภาระมากขนาดไหน ทั้งของครอบครัวฉัน แล้วไหนจะต้องมาดูแลธุรกิจต่างๆของครอบครัวเธออีกห่ะ" เขากล่าวพลางเดินเข้ามาใกล้ๆ หล่อนจนประชิดตัว ใบหน้าของเขาและหล่อนอยู่ใกล้กันมาก จนลมหายใจร้อนๆ เป่ารดใส่กัน
"นาย... นายจะทำอะไรน่ะ นายจะทำอะไรฉัน อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ" ณมนพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"ฮ่าๆๆ" เขาหลุดหัวเราะออกมา ยิ้มกว้างอย่างขบขัน
"นี่เธอกลัวฉันเหรอ ตกใจมากเลยหรือ"

"นี่นายแกล้งฉันหรอ นายมันบ้าที่สุด! สนุกนักหรือไงที่แกล้งฉันแบบนี้" ณมนหน้าแดงด้วยความโกรธระคนอาย
"โกรธมากเลยหรอ ฉันแค่ล้อเธอเล่นนิดเดียวเอง ฉันชอบดูเวลาเธอโกรธ มันทำให้ฉันอารมณ์ดีและมีความสุขที่สุด แล้วอีกอย่างนะ ฉันขอบอกเธอไว้เลยว่า สำหรับเรื่องงานที่ฉันบอกเธอไปทั้งหมด ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันพูดจริง เธอเอาไปคิดดู ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะปฏิเสธฉัน ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วก็นอนพักผ่อนซะ เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะพาไปทานของอร่อยๆ แล้วพรุ่งนี้เช้าเราค่อยเข้าออฟฟิสกัน" พูดจบเขาก็เดินเข้าห้องไป ปล่อยให้ณมนยืนอึ้ง นิ่งเงียบอยู่ตรงนั้นเพราะเถียงเขาไม่ได้สักเรื่องเดียว
"อุบัติรัก สลัดลาย" (นิยายมโน) ตอนที่ 10 Part 2 นำแสดงโดย พี่ตุ้ย - ขวัญ
Phuket Airport
"ดีนะที่นนท์จองตั๋วเครื่องบินไว้ให้เราล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นมีหวังได้ขับรถจากกรุงเทพฯไปภูเก็ตแน่ๆ"
"เหนื่อยมั้ย หิวหรือเปล่า ตอนอยู่บนเครื่องไม่เห็นเธอทานอะไรเลย เอาแต่นอน"
"โห...ง่วงสิ! นี่ฉันทั้งง่วงทั้งเหนื่อย เมื่อคืนก็แทบจะไม่ได้นอนเลย แล้วนี่ยังต้องมาตื่นแต่เช้าอีก"
"ทางโรงแรมเอารถมาให้เราแล้ว เดี๋ยวเราจะขับรถกันไปนะ"
"งั้นก็รีบไปสิ ฉันเหนื่อย ง่วง อยากพักเต็มทีแล้ว"
"ไป งั้นเราก็รีบไปกันเถอะ"
"แล้วทำไมฉันถึงต้องมากับนายด้วยล่ะเนี่ย"
"ก็เพราะโรงแรมนั่นมันเป็นหุ้นส่วนของพ่อของเธอแล้วก็พ่อของฉันยังไงล่ะ แล้วพอพวกท่านวางมือผลมันก็เลยตกมาเป็นของเราสองคนไงล่ะ ความจริง เธอเองก็รู้ข้อนี้ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือห่ะ"
มหาสวัสดิ์ขับรถไปได้สักพักก็หันไปมองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ แต่ก็พบว่าหล่อนหลับไปแล้ว เพราะด้วยความเหนื่อยล้าที่ต้องเร่งทำงานให้เสร็จตั้งแต่เมื่อวาน ไหนจะงานเลี้ยงเมื่อคืน กว่าจะได้กลับบ้านก็ค่อนคืน แล้วยังต้องมาตื่นแต่เช้าอีก เมื่อเข้ามานั่งในรถณมนก็หลับไปทันที
มหาสวัสดิ์หันกลับมามองใบหน้าสวยได้รูป ที่เจ้าของยังคงหลับอยู่อีกครั้ง เขายอมรับว่าหล่อนสวยถูกใจเขามาก ตั้งแต่วันแรกที่เห็น แต่เพราะหล่อนถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จึงมีนิสัยดื้อรั้น เอาแต่ใจ และไม่ยอมคน หยิ่งทรนงและแสดงออกกับเขาว่าไม่ชอบเขาเอามากๆ เขาจึงต้องเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ข้างใน
มหาสวัสดิ์จอดรถสนิทแล้ว แต่ณมนก็ยังไม่ตื่น ชายหนุ่มจึงหันมาจ้องมองพิจารณาใบหน้าหญิงสาวนิ่ง
จนในที่สุดก็อดใจไม่ไหวโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้น แล้วจึงค่อยๆ ประกบปากอุ่นๆ ลงกับริมฝีปากบางสวยของหล่อน ค่อยๆจูบเบาๆ กระทั่งมันดูดดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ
"อื้อ...อื้อ...โอ้ย! นี่นายจะทำอะไร! อย่าเข้ามานะ! ไม่งั้นฉันชกหน้านายแน่..." ณมนร้องครางออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าถูกรบกวนการนอนหลับของหล่อน จนรู้สึกตัวว่าเขากำลังจูบหล่อนจึงแสร้งทำเป็นละเมอเพื่อกลบความเขินอาย แล้วหลังจากนั้นผลอยหลับไป
"โธ่เอ้ย... มาละเมออะไรกันตอนนี้ เสียมูดหมดเลย" เขาจึงต้องถอนจูบออกมาอย่างเสียดาย รู้สึกว่าจูบนี้มันแสนหวานยิ่งนัก อยากก้มลงไปจูบลิ้มลองความหอมอีกแต่ก็กลัวหล่อนจะรู้สึกตัวขึ้นมา จึงนั่งมองใบหน้าสวยตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจปลุกหล่อน
"อ้าว...ถึงแล้วหรอเนี่ย ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" ณมนพูดเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา
"ถึงแล้ว เราขึ้นไปห้องพักกันเถอะ เธอจะได้พักผ่อน" เขาบอกหล่อนอย่างห่วงใย
พอมาถึงณมนก็เดินดูรอบๆ ห้องอย่างสนอกสนใจ
"อืม...ห้องน้ำก็แบ่งออกเป็นสองโซน แยกกันได้สัดส่วนดีมากเลย เก่งจริงๆเลยคนที่ออกแบบเนี่ย ดีไซน์ออกมาได้เก๋จริงๆ"
"อืม...วางดีไซน์ได้ดี" ณมนกล่าวขณะเดินดูรอบๆ ห้อง
"มุมระเบียงนี้มองเห็นวิวทะเลด้วย สวยมากเลย ฉันชอบมุมนี้ที่สุดเลย คนออกแบบนี่เยี่ยมจริงๆเลย"
คำพูดของเธอทำให้เขาถึงกับอมยิ้ม เพราะคนออกแบบคือเขาทั้งหมด นอกจากที่เขามีความจำเป็นที่จะต้องเรียนด้านบริหารเพื่อที่จะมาบริหารกิจการของครอบครัวแล้ว เขายังแบ่งเวลาไปเรียนด้านสภาปัตย์และวิศวะอีกด้วย เพราะเป็นสิ่งที่เขาชอบ
"ว้าว! มีสปาด้วยล่ะ!" ณมนอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้น เพราะเธอชอบสปาที่สุดเลย
"โอ้ยตายแล้ว! มันสวยถูกใจฉันจริงๆ ใครกันนะเป็นคนออกแบบ อย่างกับเข้ามานั่งในใจฉันเลย"
ณมนไม่รู้เลยว่าแต่ละคำกล่าวของเธอทำเอาคนที่เดินตามหลังอย่างเงียบๆ ถึงกับยิ้มแกล้มปริไม่หุบเลยทีเดียว
"เธอจะลองไปแช่ก็ได้นะ เธอจะได้ผ่อนคลายไง หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งสัปดาห์"
"โอ้โห! นี่ฉันไม่ได้มาที่นี่แค่ 3 ปี มันเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้เลยเชียวเหรอ สวยมากเลย สวยมากๆ วิวข้างนอกก็สวยมาก ใครเป็นคนออกแบบคะนี่ เหมือนอยู่บนสวรรค์เลย ดูเป็นส่วนตัวมากๆ" ณมนกล่าวออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความตื่นเต้น
"ก็แหงอยู่แล้ว นี่มันห้องเพนเฮ้าส์นี่นา จะให้ดูธรรมดาเหมือนห้องอื่นๆ ได้ยังไง นี่ห้องเธอ"
"ส่วนห้องฉันอยู่ทางโน้น"
"ห่ะ! นี่นายพักกับฉันด้วยหรอ!?" ณมนกล่าวออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"ใช่ ทำไมล่ะ" เขาตอบสั้นๆ ทำสีหน้าเรียบเฉยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับอาการตื่นตะหนกของเธอ
"ห่ะ! ได้ยังไงล่ะ ฉันกับนายจะพักรวมกันได้ยังไง ไม่เอาหรอก ฉันจะไปพักห้องอื่น เชิญนายพักห้องนี้ไปคนเดียวเถอะ!" ณมนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฉุนเฉียว
"ตอนนี้โรงแรมเราไม่มีห้องว่างเหลือเลยสักห้องนะ ทุกห้องถูกจองเต็มหมดแล้ว เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล จะมีก็แต่ห้องพักสำหรับผู้บริหารเท่านั้นที่ยังว่างอยู่ ซึ่งก็คือห้องนี้ แต่เอ้...จริงๆ ก็ยังพอมีห้องว่างเหลืออยู่นะ..." เขาหยุดคำพูดไว้ชั่วครู่ ก่อนจะส่งสายตาอย่างมีเลศนัยมาที่เธอ
"ห้องไหนหรอ?"
"ห้องพักพนักงาน"
"ห่ะ! ห้องพักพนักงาน!"
"ทำไม เธอกลัวอะไรหรอ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ หรือเธอกลัวว่า...พอตกดึก เธอเกิดอารมณ์เปลี่ยวอดใจไม่ไหว ห้ามใจไม่อยู่ลุกขึ้นมาปล้ำฉันกลางดึกขึ้นมาห่ะ" เขาแกล้งแหย่หล่อนเล่น
"บ้า! ทุเรศ! นี่ฉันจะบอกอะไรให้นะ ต่อให้นายมาโชว์แมนหุ่นล่ำโชว์ซิกแพคให้ฉันดู ฉันยังไม่สนใจเลยย่ะ! อย่ามาหลงตัวเองไปหน่อยเลย"
"เธอแน่ใจนะ" เขาพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ๆหล่อน แล้วมองจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวยของหล่อน จนเธอต้องหลบสายตาคมเข้มคู่นั้นด้วยความรู้สึกวาบหวิวพิกล
"เอ่อ... คือ... แล้วถ้าเกิดว่ามีใครรู้ว่าฉันพักห้องเดียวกันกับนาย มีหวังฉันต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านแน่ๆ ไหนจะพวกพนักงานในโรงแรมนี่อีก"
"นี่...คุณหนูณมนครับ นี่มันโรงแรมระดับห้าดาวนะครับ แล้วนี่ก็เป็นห้องเพนเฮ้าส์นะครับ ตาสีตาสาจะได้เข้ามาได้ง่ายๆ ห้องพักระดับนี้มันมีความเป็นส่วนตัวสูงนะครับ แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาพักก็ระดับ VIP ทั้งนั้น เราปิดเป็นความลับพนักงานระดับล่างๆ จะไม่รู้แม้กระทั้งชื่อผู้เข้าพักด้วยซ้ำ จะมีก็แต่ผู้บริหารอย่างเราๆ เท่านั้นถึงจะรู้ เข้าใจไหมครับคุณหนูณมน แล้วอีกอย่างนะ อีกหน่อยเธอกับฉันก็ต้องแต่งงานกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วเธอจะโวยวายตีโพยตีพายไปทำไมห่ะ ยุคนี้สมัยนี้ เขาไม่ถือสากันแล้วแม่คุณ"
"บ้า! อย่ามาโมเมมั่วนิ่มนะ ใครจะไปแต่งงานกับนายกันห่ะ นั่นมันเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาจัดการกันเอง ฉันไม่ยอมรับ ไม่รู้ ไม่เห็น และไม่เอาด้วย รู้ไว้ซะ ฉันเป็นคนนะย่ะ ไม่ใช่หมูหมากาไก่ที่ไหน จะได้มาจับผสมพันธุ์กับใครก็ได้" ณมนกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์นัก
"งั้นหรอ... ไหนเธอลองบอกหน่อยซิว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ มีความรู้แค่เรื่องเสื้อผ้า ไม่มีความรู้ด้านบริหารจัดการสักนิดอย่างเธอ แถมยังเป็นลูกคนเดียวของตระกูลที่มีทรัพย์สมบัติและธุรกิจมากมายมหาศาล ทั้ง โรงแรม-รีสอร์ท สำนักพิมพ์ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในเครือไตรวิชญ์สกุลอยู่ทั่วประเทศ ไหนเธอบอกฉันซิว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะรับภาระในการบริหารกิจการของตระกูลไตรวิชญ์สกุลของเธออย่างไร ฉันบอกได้เลยว่าตอนนี้เธอมีทางเลือกอยู่สองทางคือ แต่งงานกับฉัน หรือเธอพิสูจน์ตัวเธอเองให้ได้ว่าเธอจะสามารถบริหารธุรกิจของไตรวิชญ์สกุลทั้งหมดได้ ภายใน 3 เดือน แล้วฉันจะยกเลิกการแต่งงานระหว่างเราสองคน แล้วคืนทุกอย่างให้เธอ"
"ห่ะ! 3 เดือน! จะบ้าหรอ มันไม่น้อยไปหน่อยหรือไง"
"ไม่น้อยหรอกสำหรับเธอ มันมากไปด้วยซ้ำ อย่างเธอ...ถ้าต้องมาลงมือทำจริงๆ แค่อาทิตย์เดียวเธอก็ไม่ไหวแล้วมั้ง"
"นี่นายกำลังดูถูกความสามารถของฉันอยู่นะ! แล้วฉันจะพิสูจน์ให้นายเห็น ว่าฉันก็ทำได้ไม่แพ้นาย คอยดูซิ!"
"มาลองดูกันไหมล่ะ ว่าเธอจะทำได้อย่างที่พูดไหม นี่เธอคงไม่คิดนะว่าฉันจะดูแลธุรกิจของไตรวิชญ์สกุลทั้งหมดโดยที่ฉันไม่ได้อะไรเลยงั้นหรอ ห่ะ" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและเคร่งขรึมขึ้นมา
"ก็...ก็นายก็เป็นหุ้นส่วนตั้ง 50 เปอร์เซ็นต์แล้วไง นายยังจะเอาอะไรอีกล่ะ" ณมนพูดติดๆ ขัดๆ
"แค่นั้นมันไม่พอหรอกณมน นี่เธอรู้มั้ยว่าฉันต้องแบกภาระมากขนาดไหน ทั้งของครอบครัวฉัน แล้วไหนจะต้องมาดูแลธุรกิจต่างๆของครอบครัวเธออีกห่ะ" เขากล่าวพลางเดินเข้ามาใกล้ๆ หล่อนจนประชิดตัว ใบหน้าของเขาและหล่อนอยู่ใกล้กันมาก จนลมหายใจร้อนๆ เป่ารดใส่กัน
"นาย... นายจะทำอะไรน่ะ นายจะทำอะไรฉัน อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ" ณมนพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"ฮ่าๆๆ" เขาหลุดหัวเราะออกมา ยิ้มกว้างอย่างขบขัน
"นี่เธอกลัวฉันเหรอ ตกใจมากเลยหรือ"
"นี่นายแกล้งฉันหรอ นายมันบ้าที่สุด! สนุกนักหรือไงที่แกล้งฉันแบบนี้" ณมนหน้าแดงด้วยความโกรธระคนอาย
"โกรธมากเลยหรอ ฉันแค่ล้อเธอเล่นนิดเดียวเอง ฉันชอบดูเวลาเธอโกรธ มันทำให้ฉันอารมณ์ดีและมีความสุขที่สุด แล้วอีกอย่างนะ ฉันขอบอกเธอไว้เลยว่า สำหรับเรื่องงานที่ฉันบอกเธอไปทั้งหมด ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันพูดจริง เธอเอาไปคิดดู ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะปฏิเสธฉัน ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วก็นอนพักผ่อนซะ เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะพาไปทานของอร่อยๆ แล้วพรุ่งนี้เช้าเราค่อยเข้าออฟฟิสกัน" พูดจบเขาก็เดินเข้าห้องไป ปล่อยให้ณมนยืนอึ้ง นิ่งเงียบอยู่ตรงนั้นเพราะเถียงเขาไม่ได้สักเรื่องเดียว