http://pantip.com/topic/31332119 จากกระทู้ที่แล้วนะครับ
หลังจากนั่งกันเมื่อยแล้วเมื่อยอีกบน AirasiaX(ก็ตามราคานะครับตั๋วถูกก็แบบนี้แหละครับทนๆเอา) ก็มาถึง Haneda Airport ระหว่างเดินไปตามทางคิดไปโน่นว่า จะผ่าน ตม.ไหม ไม่ผ่านทำไงเนี่ยค่าโรงแรม ค่าJrpass ค่าตั๋วเครื่องบิน โอ๊ยไม่ผ่านนี่หน้ามืดเลยนนะนั่น หลังจากประสาทกินซักพักก็มาคิดแง่ดีมั่งว่า เฮ้ยฮ่องกงไปมา2รอบ สิงค์โปร์ 3รอบ ตราประทับเยอะแยะ Jrpass ก็มีใบจองโรงแรมก็printมา ใบขับขี่interก็ทำมาถ้ามันไม่ให้ผ่านชั่งหัวมันแล้วไม่เที่ยวก็ได้วะ มัวแต่คิดบ้าๆบอๆไม่ได้ถ่ายรูปอีกตามเคย ที่ไหนได้พอถึงตม.คำเดียวก็ไม่ถาม แต่พอดีลืมใส่ชื่อโรงแรมในใบผ่าน เจ้าหน้าที่พูดภาษาไทย(แบบไม่ชัด)เลยว่า ใส่ชื่อโรงแรมด้วยครับ ฮากระจายเลยผม
ออกจากเกทมาก็5ทุ่มกว่าแล้วพุ่งไปตามลายแทงของพันทิปเลยว่าชั้น1ข้างๆLawson คือสวรรค์ของคนนอนสนามบิน

ที่นอนคืนนี้ตามเก้าอี้เลยครับผม

มีปลั๊กไฟให้ชาร์จพร้อม wifi ฟรีอีกตะหาก

เริ่มหิวข้าวเลยไปชอปของในLawsonมากินอาหารมื้อแรกในญี่ปุ่นนนน

ราคา 398เยนคิดเป็นเงินไทยก็พอๆกะกิน Oishi Express รสชาติก็พอๆกันถือว่าokแล้วสำหรับข้าวกล่องจาก Lawson
นั่งชาร์จแบตอุปกรณ์ต่างอยู่เจอลุงคนนึงเดินมาจะชาร์จโทรศัพท์แต่ปลั๊กเต็ม ผมเอาปลั๊กรางไปเลยบอกแกว่ามาชาร์จด้วยกันก็ได้แกยิ้มดีใจ แหมก็เราคนไทยไม่มีน้ำใจได้ไงครับ
เลยนั่งคุยกันแกบอกว่าแกเป็นคนเวียดนามได้เมียคนญี่ปุ่นมาอยู่ญี่ปุ่น30ปีแล้ว เมื่อก่อนแกขับคอปเตอร์อยู่ฝั่งเวียดนามใต้รบกะเวียดนามเหนือ
พอเวียดนามใต้แตกแกเลยได้ไปนิวยอร์คเลยเจอกะเมียแกที่นั่น แกยังรู้เรื่องเสื้อเหลืองเสื้อแดงในบ้านเราเลย ผมบอกแกว่าไม่รู้ปัญหาในเมืองไทยไม่รู้จะจบได้ยังไงไม่เห็นทางออก แกพูดมาเล่นเอาผมอึ้งเลย แกว่าเมื่อก่อนเวียดนามฆ่ากันจะเป็นจะตายยิ่งกว่าบ้านเราอีกแล้วทุกวันนี้เป็นไง ปัญหาทุกอย่างเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมทางออกมันจะมาเองแหละใจเย็นๆเข้าไว้ เล่นเอาผมซึ้งเลย
สักพักแกขอตัวไปผมก็เลยเดินเล่นถ่ายรูปในสนามบินเล่น
อยู่ในสนามบินอุ่นดีเลยอยากรู้ว่าข้างนอกหนาวแค่ไหนเลยออกไปดูมันก็เย็นแต่พอทนอุณหภูมิถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 8องศา ผมใส่เสื้อHeattechของUniqloแขนสั้นกะเสื้อยืดแขนยาวกะสเว็ตเตอร์ตัวนึงผมว่ากะลังสบายๆไม่เย็นมากจะหนาวก็หนาวแต่มือ
รถราไม่มีเงียบสนิท

กลับเข้ามาข้างในเดินผ่าน นี่ห้องอะไรเนี่ย?อิอิ

เดินเล่นไปเรื่อยๆเจอป้ายนี้เขียนอะไรมั่งไม่รู้ๆแต่หมาใส่หมวกตำรวจเท่ห์ดีใครเก่งญี่ปุ่นช่วยแปลให้ฟังทีนะค้าบๆๆ

เคยดูรีวิวว่าชั้น4เป็นร้านอาหารสวยๆกลางคืนขึ้นไปนอนได้เลยขึ้นไปถ่ายรูปเล่นฝึกวิชา

เดินไปเดินมาข้าศึกบุกงั้นก็ได้เวลาพิสูจน์แล้วว่าส้วมญี่ปุ่นเปนไงจะเหมือนที่เฮียโน๊ตอุดมว่าไว้ไหม
แล้วก็พบว่าโอ้วพระเจ้าจอร์จมันยอดมากน้ำล้างก้นก็อุ่นปรับความแรงน้ำได้อีกผมถ่ายมาแต่ปุ่มคอนโทรลมาส้วมอย่าดูเลยครับเหมือนๆกันแหละ

หลังจากหลับๆตื่นกันจนตี5กว่าคนเริ่มมากันแล้ว อ้อลืมเล่าไปแผนตอนแรกคือรอตี5จะนั่งรถไฟไปชินจูกุแล้วต่อรถไฟไปคาวากูชิโกะ แต่ก่อนเดินทางสัก2อาทิตย์คู่หูผมมันถามว่าขับรถในญี่ปุ่นยากไหมวะ เลยมาหาข้อมูลในพันทิปพบว่าไม่ยากนี่หว่าทำใบขับขี่interมาค่าทำ500ก็ขับได้แล้ว ค่าเช่ารถก็พอทนวันละ5000กว่าเยน เลยเปลี่ยนแผนเป็นเช่ารถขับจากฮาเนดะไปคาวา แพงกว่านั่งรถไปเองไม่มากเลยจัดการจองเลย ทีแรกเพื่อนผมมันยุส่งเฮ้ยขับMx5เปิดประทุนกันเลยดีกว่าบรรยากาศสุดๆ ผมก็ตาลุกวาวแจ๋ววะอยู่เมืองไทยไม่มีปัญญาฝซื้อขับมาเช่าขับอยู่ญี่ปุ่นสัก2วันกันดีกว่า
แต่พอมาทำการบ้านดูพบว่า
1.Mx5 ค่าเช่าวันละ15000เยน
2.ค่าทางด่วนไปกลับประมาณ7พันเยน
3.ค่าน้ำมันยังไม่รู้ๆแต่ลิตรละประมาณ50บาท
เลยถอดใจ Mx5เลยกลายร่างเป็น Mazda2ไปซะ555
หลังจากจองเรียบร้อยผ่าน www2.toocoo.jp ต้องขอบคุณข้อมูลจากพันทิปอีกครั้งที่ทำให้การขับรถในญี่ปุ่นประสพความสำเร็จด้วยดี
ตกลงการเช่ารถได้ใช้บริการของ Times car rental ทางโน่นเมล์มาบอกให้ไปที่เคาน์เตอร์ที่ Domestic terminal1 แปดโมง ผมก็ขึ้นShuttle Bus ในสนามบินไปรอที่หน้าเคาน์เตอร์ตั้งแต่6โมงเช้า

Terminal1 ชั้น1จะดูโทรมๆแต่ชั้น2 เป็นร้านขายของฝากกะร้านอาหารตบแต่งใหม่สวยงาม แล้วผมก็เดินเพลินลืมถ่ายรูปมาอีก คู่หูผมเห็นโตเกียวบานานา เอาวะมาถึงแล้วลองกันดู

กล่องนึงเป็นโตเกียวบานานาอีกกล่องนึงผมเรียกกันขนมกุ๊กไก่ตราTokyo Skytree แพงกว่าโตเกียวบานาน่าอีกราคาเท่าไหร่จำไม่ได้เพราะคู่หูผมมันซื้อผมแค่ขอชิม555
ผมไม่สันทัดของหวานแต่เห็นคู่หูบอกไอ้หนมกุ๊กไก่ไม่เวิร์คเลย อันนี้คงแล้วแต่ลิ้นใครลิ้นมันละกันครับ
นั่งรอเคาน์เตอร์เปิดจน7โมง45 เคาน์เตอร์ข้างๆก็ทยอยมาเปิดกันแล้วของเราไหงไม่เห็นมีใครมาเลย แต่ได้ยินว่าญี่ปุ่นเค้าตรงเวลามากเอาวะเด้ว8โมงคงมีคนมา ไปเดินเล่นหน้าเคาน์เตอร์มีโทรศัพท์อยู่เครื่องเขียนไว้ว่า ถ้าต้องการจองรถหรือมีปัญหาให้ยกหูโทรศัพท์ จะต่อหาเจ้าหน้าที่ให้อัตโนมัติ ในใจนึกไว้ว่าตรูคงไม่ต้องใช้ไอ้โทสับเครื่องนี้นะ
และแล้ว8โมงผ่านไปไม่เห็นญี่ปุ่นสักคนที่เคาน์เตอร์ งานเข้าแล้วตรูเดินไปยกหูโทรศัพท์ สักพักมีเจ้าหน้าที่ผู้ชายรับพูดญี่ปุ่นมาเป็นชุดไอ้เราญี่ปุ่นไม่กระดิกเลยบอก(ภาษาอังกฤษ)ไปว่าผมชื่อนี่ๆๆๆนะจองรถไว้ ทางคุณนัดมาที่Terminal1 แต่ไม่เห็นมีใครเลย ได้ยินทางโน่นเปิดกระดาษแล้วพูดกะเพื่อนอีกคนว่า"...หายแล้วลูกค้ามาเอารถ ดันไม่ได้เตรียมไว้ให้"

เดานะครับฟังจากน้ำเสียง)
คุยไปคุยมาเจ้าหน้าที่บอกว่าให้มาที่เคาน์เตอร์ที่ Terminal2 เด้วจะพาไปส่งที่รับรถ แล้วมันไม่บอกในเมล์แต่แรกวะให้ไป Terminal2 ด้วยความใจร้อนดูแผนที่เสร็จลากกระเป๋ามุดอุโมงค์ไปครึ่งกิโลสุดๆเลย ไปเจอเจ้าหน้าที่ยังมาถามเราว่า Can you speak japanese? นี่ถ้าพูดญี่ปุ่นได้คงได้ด่ากันแล้วมั่งเนี่ย คุยไปคุยมาบอกว่าให้เรารอตรงนี้20นาที พอได้นั่งรอใจเย็นๆที่ของขึ้นก็ค่อยๆเบาลง เลยคิดว่าเอาวะคิดว่าเป็นคราวซวยละกันใครจะไปคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในประเทศอย่างญี่ปุ่น ถ้าเป็นบ้านเราก็ว่าไปอย่าง
รอสักพักมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงมาพูดอังกฤษพอได้(ผมก็พูดได้ประมาณคุณเธอแหละครับ555) เป็นสาวแว่นอายุสัก30นิดๆ พอเจอสาวๆมาคุยแปลกแหะหายโมโหเลย555 คราวนี่เธอบอกว่าเอารถมาให้ที่สนามบินเลยไม่ต้องไปรับรถที่ Outlet แล้ว แล้วก็บอกให้เราซื้อประกันด้วยวันละ1050เยน แกก็พยายามอธิบายว่ามีความแตกต่างกันยังไง แต่สื่อสารกันยากเพราะอังกฤษแค่พอได้ทั้ง2ฝั่ง ผมเลยบอกให้แกกดเครื่องคิดเลขมาว่าเท่าไหร่ แกกดมาเช่ารถ2วันบวกประกัน 11000เยนนิดๆ ผมเลยยิ้มแล้วบอกแกว่า ยังงี้ดีกว่าง่ายกว่าอธิบายตั้งเยอะ
ตกลงผมรับรถ 9.30ช้ากว่าที่นัดชั่วโมงครึ่งเอามาคืน19.00ของพรุ่งนี้คิดในใจเอาเถอะทางโน่นขอโทษขอโพยเราเยอะแล้วคิดว่าฟาดเคราะห์แล้วกัน แต่ไม่ยังงั้นซิครับผมจอง Mazda2 Demioไว้ แต่รถที่ได้กลับเป็นนนนน

Toyota Prius ครับผม ผมก็ตกใจพรีอุสมันค่าเช่าวันละหมื่นเยนได้มั่ง ไหงเอามาให้ผมขับ ทางน้องแว่นบอกว่าเป็นความผิดพลาดของเราๆเลยอัพเกรดให้ โอ้วญี่ปุ่นนี่เค้ารับผิดชอบดีมากกกกเลย จริงๆเค้าขอโทษผมก็ไม่ว่าอะไรแล้วคนเราผิดพลาดกันได้ แต่เรื่องนี้คงเป็นเรื่องใหญ่ในญี่ปุ่น อาริงาโตะกันสักพักก็ได้เวลาเดินทางแล้วก็นึกออกว่าทำไมไม่ขอถ่ายรูปน้องแว่นไว้วะแบบว่าชอบบบบบบฮือๆๆๆ
ตกลงผมเช่าพรีอุสขับ2วันพร้อมประกันในราคา11000เยน โอ้วเจ็บเท้าส้มหล่นใส่
แล้วการเดินทางด้วยพรีอุสจะเป็นยังไงขอมาต่อตอนหน้านะครับ ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่าน รูปอาจจะน้อยเขียนเยอะขออภัยด้วยครับผม
โปรดติตดตามตอนต่อไป
ญี่ปุ่นครั้งแรกกับ12วันแห่งการผจญภัยและอยากกล่าวคำว่าขอบคุณมากครับกับทุกๆข้อมูลในพันทิป(Japan Day1.1)
หลังจากนั่งกันเมื่อยแล้วเมื่อยอีกบน AirasiaX(ก็ตามราคานะครับตั๋วถูกก็แบบนี้แหละครับทนๆเอา) ก็มาถึง Haneda Airport ระหว่างเดินไปตามทางคิดไปโน่นว่า จะผ่าน ตม.ไหม ไม่ผ่านทำไงเนี่ยค่าโรงแรม ค่าJrpass ค่าตั๋วเครื่องบิน โอ๊ยไม่ผ่านนี่หน้ามืดเลยนนะนั่น หลังจากประสาทกินซักพักก็มาคิดแง่ดีมั่งว่า เฮ้ยฮ่องกงไปมา2รอบ สิงค์โปร์ 3รอบ ตราประทับเยอะแยะ Jrpass ก็มีใบจองโรงแรมก็printมา ใบขับขี่interก็ทำมาถ้ามันไม่ให้ผ่านชั่งหัวมันแล้วไม่เที่ยวก็ได้วะ มัวแต่คิดบ้าๆบอๆไม่ได้ถ่ายรูปอีกตามเคย ที่ไหนได้พอถึงตม.คำเดียวก็ไม่ถาม แต่พอดีลืมใส่ชื่อโรงแรมในใบผ่าน เจ้าหน้าที่พูดภาษาไทย(แบบไม่ชัด)เลยว่า ใส่ชื่อโรงแรมด้วยครับ ฮากระจายเลยผม
ออกจากเกทมาก็5ทุ่มกว่าแล้วพุ่งไปตามลายแทงของพันทิปเลยว่าชั้น1ข้างๆLawson คือสวรรค์ของคนนอนสนามบิน
ที่นอนคืนนี้ตามเก้าอี้เลยครับผม
มีปลั๊กไฟให้ชาร์จพร้อม wifi ฟรีอีกตะหาก
เริ่มหิวข้าวเลยไปชอปของในLawsonมากินอาหารมื้อแรกในญี่ปุ่นนนน
ราคา 398เยนคิดเป็นเงินไทยก็พอๆกะกิน Oishi Express รสชาติก็พอๆกันถือว่าokแล้วสำหรับข้าวกล่องจาก Lawson
นั่งชาร์จแบตอุปกรณ์ต่างอยู่เจอลุงคนนึงเดินมาจะชาร์จโทรศัพท์แต่ปลั๊กเต็ม ผมเอาปลั๊กรางไปเลยบอกแกว่ามาชาร์จด้วยกันก็ได้แกยิ้มดีใจ แหมก็เราคนไทยไม่มีน้ำใจได้ไงครับ
เลยนั่งคุยกันแกบอกว่าแกเป็นคนเวียดนามได้เมียคนญี่ปุ่นมาอยู่ญี่ปุ่น30ปีแล้ว เมื่อก่อนแกขับคอปเตอร์อยู่ฝั่งเวียดนามใต้รบกะเวียดนามเหนือ
พอเวียดนามใต้แตกแกเลยได้ไปนิวยอร์คเลยเจอกะเมียแกที่นั่น แกยังรู้เรื่องเสื้อเหลืองเสื้อแดงในบ้านเราเลย ผมบอกแกว่าไม่รู้ปัญหาในเมืองไทยไม่รู้จะจบได้ยังไงไม่เห็นทางออก แกพูดมาเล่นเอาผมอึ้งเลย แกว่าเมื่อก่อนเวียดนามฆ่ากันจะเป็นจะตายยิ่งกว่าบ้านเราอีกแล้วทุกวันนี้เป็นไง ปัญหาทุกอย่างเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมทางออกมันจะมาเองแหละใจเย็นๆเข้าไว้ เล่นเอาผมซึ้งเลย
สักพักแกขอตัวไปผมก็เลยเดินเล่นถ่ายรูปในสนามบินเล่น
อยู่ในสนามบินอุ่นดีเลยอยากรู้ว่าข้างนอกหนาวแค่ไหนเลยออกไปดูมันก็เย็นแต่พอทนอุณหภูมิถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 8องศา ผมใส่เสื้อHeattechของUniqloแขนสั้นกะเสื้อยืดแขนยาวกะสเว็ตเตอร์ตัวนึงผมว่ากะลังสบายๆไม่เย็นมากจะหนาวก็หนาวแต่มือ
รถราไม่มีเงียบสนิท
กลับเข้ามาข้างในเดินผ่าน นี่ห้องอะไรเนี่ย?อิอิ
เดินเล่นไปเรื่อยๆเจอป้ายนี้เขียนอะไรมั่งไม่รู้ๆแต่หมาใส่หมวกตำรวจเท่ห์ดีใครเก่งญี่ปุ่นช่วยแปลให้ฟังทีนะค้าบๆๆ
เคยดูรีวิวว่าชั้น4เป็นร้านอาหารสวยๆกลางคืนขึ้นไปนอนได้เลยขึ้นไปถ่ายรูปเล่นฝึกวิชา
เดินไปเดินมาข้าศึกบุกงั้นก็ได้เวลาพิสูจน์แล้วว่าส้วมญี่ปุ่นเปนไงจะเหมือนที่เฮียโน๊ตอุดมว่าไว้ไหม
แล้วก็พบว่าโอ้วพระเจ้าจอร์จมันยอดมากน้ำล้างก้นก็อุ่นปรับความแรงน้ำได้อีกผมถ่ายมาแต่ปุ่มคอนโทรลมาส้วมอย่าดูเลยครับเหมือนๆกันแหละ
หลังจากหลับๆตื่นกันจนตี5กว่าคนเริ่มมากันแล้ว อ้อลืมเล่าไปแผนตอนแรกคือรอตี5จะนั่งรถไฟไปชินจูกุแล้วต่อรถไฟไปคาวากูชิโกะ แต่ก่อนเดินทางสัก2อาทิตย์คู่หูผมมันถามว่าขับรถในญี่ปุ่นยากไหมวะ เลยมาหาข้อมูลในพันทิปพบว่าไม่ยากนี่หว่าทำใบขับขี่interมาค่าทำ500ก็ขับได้แล้ว ค่าเช่ารถก็พอทนวันละ5000กว่าเยน เลยเปลี่ยนแผนเป็นเช่ารถขับจากฮาเนดะไปคาวา แพงกว่านั่งรถไปเองไม่มากเลยจัดการจองเลย ทีแรกเพื่อนผมมันยุส่งเฮ้ยขับMx5เปิดประทุนกันเลยดีกว่าบรรยากาศสุดๆ ผมก็ตาลุกวาวแจ๋ววะอยู่เมืองไทยไม่มีปัญญาฝซื้อขับมาเช่าขับอยู่ญี่ปุ่นสัก2วันกันดีกว่า
แต่พอมาทำการบ้านดูพบว่า
1.Mx5 ค่าเช่าวันละ15000เยน
2.ค่าทางด่วนไปกลับประมาณ7พันเยน
3.ค่าน้ำมันยังไม่รู้ๆแต่ลิตรละประมาณ50บาท
เลยถอดใจ Mx5เลยกลายร่างเป็น Mazda2ไปซะ555
หลังจากจองเรียบร้อยผ่าน www2.toocoo.jp ต้องขอบคุณข้อมูลจากพันทิปอีกครั้งที่ทำให้การขับรถในญี่ปุ่นประสพความสำเร็จด้วยดี
ตกลงการเช่ารถได้ใช้บริการของ Times car rental ทางโน่นเมล์มาบอกให้ไปที่เคาน์เตอร์ที่ Domestic terminal1 แปดโมง ผมก็ขึ้นShuttle Bus ในสนามบินไปรอที่หน้าเคาน์เตอร์ตั้งแต่6โมงเช้า
Terminal1 ชั้น1จะดูโทรมๆแต่ชั้น2 เป็นร้านขายของฝากกะร้านอาหารตบแต่งใหม่สวยงาม แล้วผมก็เดินเพลินลืมถ่ายรูปมาอีก คู่หูผมเห็นโตเกียวบานานา เอาวะมาถึงแล้วลองกันดู
กล่องนึงเป็นโตเกียวบานานาอีกกล่องนึงผมเรียกกันขนมกุ๊กไก่ตราTokyo Skytree แพงกว่าโตเกียวบานาน่าอีกราคาเท่าไหร่จำไม่ได้เพราะคู่หูผมมันซื้อผมแค่ขอชิม555
ผมไม่สันทัดของหวานแต่เห็นคู่หูบอกไอ้หนมกุ๊กไก่ไม่เวิร์คเลย อันนี้คงแล้วแต่ลิ้นใครลิ้นมันละกันครับ
นั่งรอเคาน์เตอร์เปิดจน7โมง45 เคาน์เตอร์ข้างๆก็ทยอยมาเปิดกันแล้วของเราไหงไม่เห็นมีใครมาเลย แต่ได้ยินว่าญี่ปุ่นเค้าตรงเวลามากเอาวะเด้ว8โมงคงมีคนมา ไปเดินเล่นหน้าเคาน์เตอร์มีโทรศัพท์อยู่เครื่องเขียนไว้ว่า ถ้าต้องการจองรถหรือมีปัญหาให้ยกหูโทรศัพท์ จะต่อหาเจ้าหน้าที่ให้อัตโนมัติ ในใจนึกไว้ว่าตรูคงไม่ต้องใช้ไอ้โทสับเครื่องนี้นะ
และแล้ว8โมงผ่านไปไม่เห็นญี่ปุ่นสักคนที่เคาน์เตอร์ งานเข้าแล้วตรูเดินไปยกหูโทรศัพท์ สักพักมีเจ้าหน้าที่ผู้ชายรับพูดญี่ปุ่นมาเป็นชุดไอ้เราญี่ปุ่นไม่กระดิกเลยบอก(ภาษาอังกฤษ)ไปว่าผมชื่อนี่ๆๆๆนะจองรถไว้ ทางคุณนัดมาที่Terminal1 แต่ไม่เห็นมีใครเลย ได้ยินทางโน่นเปิดกระดาษแล้วพูดกะเพื่อนอีกคนว่า"...หายแล้วลูกค้ามาเอารถ ดันไม่ได้เตรียมไว้ให้"
คุยไปคุยมาเจ้าหน้าที่บอกว่าให้มาที่เคาน์เตอร์ที่ Terminal2 เด้วจะพาไปส่งที่รับรถ แล้วมันไม่บอกในเมล์แต่แรกวะให้ไป Terminal2 ด้วยความใจร้อนดูแผนที่เสร็จลากกระเป๋ามุดอุโมงค์ไปครึ่งกิโลสุดๆเลย ไปเจอเจ้าหน้าที่ยังมาถามเราว่า Can you speak japanese? นี่ถ้าพูดญี่ปุ่นได้คงได้ด่ากันแล้วมั่งเนี่ย คุยไปคุยมาบอกว่าให้เรารอตรงนี้20นาที พอได้นั่งรอใจเย็นๆที่ของขึ้นก็ค่อยๆเบาลง เลยคิดว่าเอาวะคิดว่าเป็นคราวซวยละกันใครจะไปคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในประเทศอย่างญี่ปุ่น ถ้าเป็นบ้านเราก็ว่าไปอย่าง
รอสักพักมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงมาพูดอังกฤษพอได้(ผมก็พูดได้ประมาณคุณเธอแหละครับ555) เป็นสาวแว่นอายุสัก30นิดๆ พอเจอสาวๆมาคุยแปลกแหะหายโมโหเลย555 คราวนี่เธอบอกว่าเอารถมาให้ที่สนามบินเลยไม่ต้องไปรับรถที่ Outlet แล้ว แล้วก็บอกให้เราซื้อประกันด้วยวันละ1050เยน แกก็พยายามอธิบายว่ามีความแตกต่างกันยังไง แต่สื่อสารกันยากเพราะอังกฤษแค่พอได้ทั้ง2ฝั่ง ผมเลยบอกให้แกกดเครื่องคิดเลขมาว่าเท่าไหร่ แกกดมาเช่ารถ2วันบวกประกัน 11000เยนนิดๆ ผมเลยยิ้มแล้วบอกแกว่า ยังงี้ดีกว่าง่ายกว่าอธิบายตั้งเยอะ
ตกลงผมรับรถ 9.30ช้ากว่าที่นัดชั่วโมงครึ่งเอามาคืน19.00ของพรุ่งนี้คิดในใจเอาเถอะทางโน่นขอโทษขอโพยเราเยอะแล้วคิดว่าฟาดเคราะห์แล้วกัน แต่ไม่ยังงั้นซิครับผมจอง Mazda2 Demioไว้ แต่รถที่ได้กลับเป็นนนนน
Toyota Prius ครับผม ผมก็ตกใจพรีอุสมันค่าเช่าวันละหมื่นเยนได้มั่ง ไหงเอามาให้ผมขับ ทางน้องแว่นบอกว่าเป็นความผิดพลาดของเราๆเลยอัพเกรดให้ โอ้วญี่ปุ่นนี่เค้ารับผิดชอบดีมากกกกเลย จริงๆเค้าขอโทษผมก็ไม่ว่าอะไรแล้วคนเราผิดพลาดกันได้ แต่เรื่องนี้คงเป็นเรื่องใหญ่ในญี่ปุ่น อาริงาโตะกันสักพักก็ได้เวลาเดินทางแล้วก็นึกออกว่าทำไมไม่ขอถ่ายรูปน้องแว่นไว้วะแบบว่าชอบบบบบบฮือๆๆๆ
ตกลงผมเช่าพรีอุสขับ2วันพร้อมประกันในราคา11000เยน โอ้วเจ็บเท้าส้มหล่นใส่
แล้วการเดินทางด้วยพรีอุสจะเป็นยังไงขอมาต่อตอนหน้านะครับ ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่าน รูปอาจจะน้อยเขียนเยอะขออภัยด้วยครับผม
โปรดติตดตามตอนต่อไป