สวัสดีค่ะ วันนี้เรากับแฟนไปทานอาหารที่ร้าน Sheep Village จรัญสนิทวงศ์ 86/1 ที่แต่เดิมเคยเป็นร้านระเบียงทะเล ครั้งนี้เพิ่งไปครั้งแรกหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ต
บรรยากาศร้านดีมากค่ะ ทำเป็นร้านเก๋ๆ แนวสวนผึ้งอะไรประมาณนั้น ก็คือมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะเลย มีสัตว์ต่างๆ ให้ดู สามารถซื้ออาหารเลี้ยงได้ ร้านอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยามีทั้งIndoor และ Outdoor ห้องน้ำก็สะอาด กว้างขวางค่ะ มีแอร์ มีสายฉีด มีทิชชู่ ครบทุกอย่าง
ราคาอาหารก็กลางๆ ไม่ถูกไม่แพง ส่วนรสชาติก็อร่อยดีค่ะ ไม่ใช่ดีที่สุด แต่ไม่มีอะไรต้องติ เพราะโดยรวมโอเค สั่งไปทั้งหมด 4 อย่าง ยกเว้นไส้กรอกรวมอยู่อย่างที่ค่อนข้างแตกต่างจากภาพในเมนู
แต่บอกตรงๆ นะคะสิ่งที่มีปัญหา คือ เด็กเสิร์ฟ
แต่ละคนที่พบเจอวันนี้ไม่ประทับใจเลยตั้งแต่แรกพบ สีหน้าไม่ค่อยยิ้มแย้ม เด็กเสิร์ฟคนแรกนี้เป็นผู้หญิงและเป็นคนที่บริการได้แย่ที่สุด
ตัวเราเองตั้งแต่ไปนั่งที่ร้าน เราเปลี่ยนที่นั่งทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งเหตุผลอยู่ในสปอยล์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ครั้งแรก เข้าไปนั่ง indoor พอลองนั่งแล้วรู้สึกไม่ค่อยถนัดเพราะโต๊ะมันเตี้ย พอนั่งแล้วมันเหมือนจะสอดขาเข้าใต้โต๊ะไม่ได้ เลยเปลี่ยนใจย้ายออกไปนั่งข้างนอก ระหว่างนี้ยังไม่มีใครมาบริการเพราะเค้าเดินไปหยิบเมนูให้อยู่ พอเค้าเดินกลับมาก็เลยขอเค้าย้าย
ครั้งที่สอง ที่ตรงนี้เป็นที่นั่งเดียวที่มีเก้าอี้ 2 ตัว อยู่มุมอับหน่อย นอกนั้นจะมี 4-6 ตัว เราเห็นว่ามากันแค่สองคน นั่งตรงนี้ก็ได้ แต่ระหว่างสั่งอาหารก็พบว่าลำโพงอยู่เหนือหัวข้างบน ถ้านั่งตรงกลางร้านเสียงเพลงจะกำลังดี แต่พอนั่งใกล้ลำโพงมันหนวกหูมาก สั่งอาหารเสร็จก็เลยบอกเด็กเสิร์ฟว่าขอโทษนะคะ ขอย้ายไปนั่งตรงนู้นละกัน ตรงนี้เสียงมันดังไปหน่อย เค้าก็บอกว่าได้ครับ ตอนนั้นเราก็เขินๆ เพราะเราก็คิดว่าเราเรื่องมากไปรึเปล่า แต่ให้นั่งจริงๆ มันคงหนวกหู
ครั้งที่สาม นั่งกลางร้านแล้วกินไปได้ซักพักฝนตก เลยต้องย้ายไปนั่งใต้หลังคา แต่มันเป็นขอบหลังคาพอดี พอฝนมันตกหนักๆ มันก็เอาไม่อยู่ ลมมันพัดฝนเข้ามาลงโต๊ะลงอาหารหมด หันไปดูโต๊ะข้างๆ ตลกมาก เค้าเอาร่มออกมากางปิดหน้าปิดตัวเค้าหมดเลย ทีนี้จะย้ายไปไหนก็ไม่ได้แล้วเพราะว่าข้างในเต็มแล้ว โต๊ะข้างนอกว่างบานเบอะ แต่วางจองไว้เกือบหมด สุดท้ายพนักงานก็จำเป็นต้องเอาป้ายจองบางโต๊ะออก เพื่อให้เรากับแขกท่านอื่นๆ เข้าไปนั่งก่อน และนั่นคือครั้งที่ 4
ช่วงที่เรานั่งกลางร้าน ระหว่างรออาหารเราเห็นในเมนูเขียนไว้ใต้ ข้าวเปล่า/ข้าวโถ ว่าเพิ่มไข่เจียว 20 บาท ไข่ดาว 10 บาท
เราก็เลยบอกพนักงาน ผช ว่าขอสั่งไข่เจียวอันที่มัน 20 บาทหน่อยมีมั้ย เค้าบอกว่ามีครับ
ก็โอเคพอกินอย่างอื่นไปซักพัก ไข่เจียวก็มา
ทีนี้ไข่มันดูอลังการเกินราคา 20 บาทไปหน่อย คือใบค่อนข้างใหญ่ใส่ต้นหอม แต่ไม่มีหมูสับ มีซอสพริกให้
เราไม่แน่ใจเลยถามพนักงาน (ไม่ใช่คนที่สั่ง) ว่าอันนี้ใช่ไข่ที่ว่าเพิ่ม 20 บาทรึเปล่า
ตอนแรกเค้าบอก ใช่ แต่เค้าดูไม่แน่ใจ เราก็ไม่แน่ใจ ก็เลยยังไม่กิน
ซักพักเด็กคนเดิมก็เดินมาเอาเมนูมาให้แล้วให้เราชี้ให้ดูว่าอันไหน เราก็เปิดหาหน้านั้นให้เค้าดู
พอหันไปจะชี้ให้ดู อ้าว.. พนักงานหาย หายไปไหนคะ
ทิ้งเราเวิ้งว้างซักครู่ก็เดินกลับมา “คร๊าบ..อันไหนนะครับ” อ่ะ เราก็ชี้ ว่าเนี่ยเราสั่งแบบนี้
เค้าก็เลยบอกว่า อันนั้นมันสำหรับข้าวราดจานเดียว เราก็เลยถามว่าแล้วแบบที่เราได้นี่มันเท่าไหร่
เค้าก็บอกว่า 60 เราก็คิดว่ามันเกินไปอ่ะ ไข่เปล่าๆ ไม่มีหมูสับ จะมาคิด 60 แล้วนี่มันก็ไม่ใช่ที่เราต้องการด้วย
แฟนก็เลยบอกขอคืนละกัน เพราะไม่ใช่อย่างที่สั่ง เค้าก็บอกว่าได้ครับ ยกไปเก็บ
ซักพักพนักงาน ผญ คนแรกที่หน้าไม่รับแขกก็เดินกลับมาพร้อมไข่เจียว แล้วบอกว่า
“อาหารสั่งแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะคะ”
“ก็ที่สั่งไว้ไม่ใช่แบบนี้ ถามเด็กเสิร์ฟแล้วว่ามีมั้ยเค้าบอกว่ามี”
“แต่อันนี้สั่งมาแล้วก็คืนไม่ได้ค่ะ”
“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ ก็ตอนสั่งถามว่ามีมั้ยก็บอกว่ามี”
“สั่งกับคนไหนคะ”
“สั่งกับพนักงานชื่อ..... ถามเค้าแล้วว่ามีมั้ย เค้าบอกว่ามี”
“อ๋อ คือพนักงานผิดใช่มั้ยคะ”
“อ้าว พนักงานไม่ผิดแล้วใครผิดล่ะ ก็ถามก่อนแล้วว่ามีมั้ย ถ้าไม่มีก็ไม่คิดจะสั่งอยู่แล้วไข่แบบเนี๊ย 60 บาทเนี่ย”
หลังจากนั้น ผญ คนนี้ก็แสดงอาการทางมุมปากเล็กน้อย พยักหน้า แล้วก็เอาไข่เจียวไปเก็บ
ต่อมา ตอนนั่งกินซักพักแล้วฝนลงเม็ดต้องย้ายโต๊ะ เลยตะโกนเรียกพนักงานที่จับกลุ่มคุยกันอยู่ให้มาช่วยย้ายโต๊ะหน่อย
มีคนนึงเดินมาถึงก็หยิบนู่นหยิบนี่ เสร็จแล้วหันมาสั่งเรากับแฟนบอกว่า “ช่วยหยิบแก้วหน่อย”
เรางงมากว่าเด็กเสิร์ฟนี่เค้าสั่งแขกให้หยิบนู่นนี่เดินตามเค้าไปได้ด้วยหรอ??
โดยปกติแล้วเราก็ช่วยถือเท่าที่เราถือได้อยู่แล้ว ทุกร้านที่มีการย้ายโต๊ะ ไม่เคยมีพนักงานมาสั่ง หรือขอให้ช่วย
หรือแม้แต่ร้านนี้ที่ย้ายโต๊ะครั้งแรก เราก็ช่วยหยิบจาน ช้อน กับข้าวอะไรมาให้
ทีนี้ตอนที่เราเดินตามเค้ามาโต๊ะใหม่เราก็ถือพวกกับข้าว กระเป๋า สัมภาระอยู่
พอพนักงานวาง
ให้เสร็จเราก็นึกว่าเค้าจะเดินไปหยิบแก้วกะชามที่โต๊ะเก่าให้ แต่ไม่ค่ะ
สรุป เราต้องเดินกลับไปหยิบเอง ชีเดินไปที่อื่นละ
ระหว่างที่นั่งกินมาตลอดก็แทบจะต้องบริการตัวเอง น้ำขงน้ำแข็งไม่ค่อยมีใครสนใจ
มีช่วงใกล้ๆ เช็คบิลอาหารเริ่มหมด ถึงเดินมาเติม เอาบิลมาวางให้พร้อมรอยยิ้ม
เช็คบิลเสร็จกำลังเดินไปที่รถ เด็กรับรถเดินตามมาส่องไฟให้ มีรถสวนเข้ามาพอดีแล้วเค้าคงบีบแตรเรียกให้เด็กมาช่วยโบก
เด็กคนนี้ก็หันรีหันขวาง แต่ก็เลือกเดินตามแฟนก่อนเพราะจะกลับต้องได้เงินอยู่แล้ว
เค้าไปส่งด้านคนขับ แฟนให้ติ๊บไป 20 บาท เค้าขอบคุณแล้ววิ่งสี่คูณร้อยไปหารถคันเมื่อกี๊เลย ไม่มีมาส่องฟงไฟไรให้เราละ
ฝั่งแฟนไม่เท่าไหร่ฝั่งเราทั้งมืดทั้งแอ่งน้ำขัง รถเราก็สูง ต้องมาระวังไม่ให้น้ำเข้ารองเท้าอีก
แต่ถามว่าตรงนี้ซีเรียสมากมั้ย ก็ไม่ เพราะรู้อยู่แล้วให้เงินปุ๊บไปปั๊บ เป็นเรื่องปกติ
แต่พอออกรถปุ๊บเด็กรับรถอีกคนวิ่งเข้ามาอย่างไว ฉีกยิ้มยกมือไหว้
พอเห็นเหมือนแฟนเราไม่เปิดกระจกก็ทำหน้าเหวอเอามือลงหน้าตาเหมือนไม่พอใจ
แฟนก็เปิดกระจกบอกว่าให้อีกคนนึงไปละ เค้าก็พยักหน้าทำหน้านิ่งๆ
ตอนแรกกะจะไม่มาเขียนลง แต่จุดสุดท้ายที่ทำให้เปลี่ยนใจคือ เด็กรับรถ
เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องเล็กๆ ที่พบเจอได้ตามร้านอาหาร แต่พอมันเจอบ่อยๆ เจอกับหลายๆ คนในที่เดียวกัน มันเลยทำให้รู้สึกหงุดหงิดใจ ยอมรับเลยว่าอาหารดี บรรยากาศดีแค่ไหน เด็กเสิร์ฟมีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการจริงๆ ความจริงเราชอบร้านนี้นะ แต่ให้กลับไปอีกก็ไม่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทางร้านมีป้ายติดหน้าห้องน้ำว่าพนักงานคนไหนบริการไม่สุภาพให้แจ้งชื่อหรือลักษณะกับ ผจก.ร้าน หรือเบอร์ .... ได้เลย ก่อนกลับเราก็เลยจะไปเอาชื่อของ พนักงานไข่เจียว คือในร้านนี้ทุกคนมีป้ายชื่อติดที่เสื้อหมด ยกเว้นคนนี้ แฟนก็เลยจะไปเอาชื่อ แต่รู้ว่าถ้าขอตรงๆ คงไม่ได้ชื่อจริง หรือไม่ก็คงไม่บอก ก็เลยบอกประมาณว่าครั้งหน้าถ้าจะมาจองต้องทำไง ขอชื่อไว้หน่อยได้มั้ยจะได้โทรมาจอง ชีก็ยิ้มๆ แล้วบอกว่าปกติจะจองกับคุณ....ได้เลยค่ะ สงสัยอาจจะรู้เพราะเห็นเราทำหน้าหงิกๆ หรืออาจจะไม่ได้คิดอะไรแล้วเราคิดไปเอง
พนักงานร้านนี้ส่วนใหญ่ค่อนข้างวัยรุ่น เลยบริการแบบวัยรุ่นไปหน่อย
เรื่องสุดท้ายไม่เกี่ยวกับพนักงาน เรื่องระบบการจองโต๊ะ ปกติแล้วเวลาไปทานที่ไหนถ้าเราโทรจอง ร้านจะฟิกซ์เวลาเลยว่าต้องมาถึงภายในกี่โมงจะตัดโต๊ะ เพราะที่ดีๆ ใครก็อยากนั่ง แต่ร้านนี้ตั้งป้ายจองเรี่ยราดมากที่ริมๆ ติดแม่น้ำจองหมด ไม่ติดก็จองเกือบหมด indoor ก็จองอีกสามสี่โต๊ะ เราไปถึงร้านประมาณ 5 โมงกว่าเกือบ 6 ออกจากร้าน เกือบสองทุ่ม โต๊ะที่จองยังมาไม่ถึงครึ่งที่วางจองเลย
ครั้งนี้ที่เล่า เราถือว่าเราแชร์ประสบการณ์นะคะ เพราะเวลาเราหาข้อมูลร้านอาหาร เราก็อยากอ่านทั้งติและชม นี่เป็นครั้งแรกที่พิมพ์ยาวขนาดนี้ ไม่รู้จะย่อตรงไหนจริงๆ ละเอียดยิบ ขอบคุณมากค่ะ
[CR] ร้านอาหาร Sheep Village กับบริการที่ไม่ประทับใจ
บรรยากาศร้านดีมากค่ะ ทำเป็นร้านเก๋ๆ แนวสวนผึ้งอะไรประมาณนั้น ก็คือมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะเลย มีสัตว์ต่างๆ ให้ดู สามารถซื้ออาหารเลี้ยงได้ ร้านอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยามีทั้งIndoor และ Outdoor ห้องน้ำก็สะอาด กว้างขวางค่ะ มีแอร์ มีสายฉีด มีทิชชู่ ครบทุกอย่าง
ราคาอาหารก็กลางๆ ไม่ถูกไม่แพง ส่วนรสชาติก็อร่อยดีค่ะ ไม่ใช่ดีที่สุด แต่ไม่มีอะไรต้องติ เพราะโดยรวมโอเค สั่งไปทั้งหมด 4 อย่าง ยกเว้นไส้กรอกรวมอยู่อย่างที่ค่อนข้างแตกต่างจากภาพในเมนู
แต่บอกตรงๆ นะคะสิ่งที่มีปัญหา คือ เด็กเสิร์ฟ
แต่ละคนที่พบเจอวันนี้ไม่ประทับใจเลยตั้งแต่แรกพบ สีหน้าไม่ค่อยยิ้มแย้ม เด็กเสิร์ฟคนแรกนี้เป็นผู้หญิงและเป็นคนที่บริการได้แย่ที่สุด
ตัวเราเองตั้งแต่ไปนั่งที่ร้าน เราเปลี่ยนที่นั่งทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งเหตุผลอยู่ในสปอยล์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่วงที่เรานั่งกลางร้าน ระหว่างรออาหารเราเห็นในเมนูเขียนไว้ใต้ ข้าวเปล่า/ข้าวโถ ว่าเพิ่มไข่เจียว 20 บาท ไข่ดาว 10 บาท
เราก็เลยบอกพนักงาน ผช ว่าขอสั่งไข่เจียวอันที่มัน 20 บาทหน่อยมีมั้ย เค้าบอกว่ามีครับ
ก็โอเคพอกินอย่างอื่นไปซักพัก ไข่เจียวก็มา
ทีนี้ไข่มันดูอลังการเกินราคา 20 บาทไปหน่อย คือใบค่อนข้างใหญ่ใส่ต้นหอม แต่ไม่มีหมูสับ มีซอสพริกให้
เราไม่แน่ใจเลยถามพนักงาน (ไม่ใช่คนที่สั่ง) ว่าอันนี้ใช่ไข่ที่ว่าเพิ่ม 20 บาทรึเปล่า
ตอนแรกเค้าบอก ใช่ แต่เค้าดูไม่แน่ใจ เราก็ไม่แน่ใจ ก็เลยยังไม่กิน
ซักพักเด็กคนเดิมก็เดินมาเอาเมนูมาให้แล้วให้เราชี้ให้ดูว่าอันไหน เราก็เปิดหาหน้านั้นให้เค้าดู
พอหันไปจะชี้ให้ดู อ้าว.. พนักงานหาย หายไปไหนคะ
ทิ้งเราเวิ้งว้างซักครู่ก็เดินกลับมา “คร๊าบ..อันไหนนะครับ” อ่ะ เราก็ชี้ ว่าเนี่ยเราสั่งแบบนี้
เค้าก็เลยบอกว่า อันนั้นมันสำหรับข้าวราดจานเดียว เราก็เลยถามว่าแล้วแบบที่เราได้นี่มันเท่าไหร่
เค้าก็บอกว่า 60 เราก็คิดว่ามันเกินไปอ่ะ ไข่เปล่าๆ ไม่มีหมูสับ จะมาคิด 60 แล้วนี่มันก็ไม่ใช่ที่เราต้องการด้วย
แฟนก็เลยบอกขอคืนละกัน เพราะไม่ใช่อย่างที่สั่ง เค้าก็บอกว่าได้ครับ ยกไปเก็บ
ซักพักพนักงาน ผญ คนแรกที่หน้าไม่รับแขกก็เดินกลับมาพร้อมไข่เจียว แล้วบอกว่า
“อาหารสั่งแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะคะ”
“ก็ที่สั่งไว้ไม่ใช่แบบนี้ ถามเด็กเสิร์ฟแล้วว่ามีมั้ยเค้าบอกว่ามี”
“แต่อันนี้สั่งมาแล้วก็คืนไม่ได้ค่ะ”
“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ ก็ตอนสั่งถามว่ามีมั้ยก็บอกว่ามี”
“สั่งกับคนไหนคะ”
“สั่งกับพนักงานชื่อ..... ถามเค้าแล้วว่ามีมั้ย เค้าบอกว่ามี”
“อ๋อ คือพนักงานผิดใช่มั้ยคะ”
“อ้าว พนักงานไม่ผิดแล้วใครผิดล่ะ ก็ถามก่อนแล้วว่ามีมั้ย ถ้าไม่มีก็ไม่คิดจะสั่งอยู่แล้วไข่แบบเนี๊ย 60 บาทเนี่ย”
หลังจากนั้น ผญ คนนี้ก็แสดงอาการทางมุมปากเล็กน้อย พยักหน้า แล้วก็เอาไข่เจียวไปเก็บ
ต่อมา ตอนนั่งกินซักพักแล้วฝนลงเม็ดต้องย้ายโต๊ะ เลยตะโกนเรียกพนักงานที่จับกลุ่มคุยกันอยู่ให้มาช่วยย้ายโต๊ะหน่อย
มีคนนึงเดินมาถึงก็หยิบนู่นหยิบนี่ เสร็จแล้วหันมาสั่งเรากับแฟนบอกว่า “ช่วยหยิบแก้วหน่อย”
เรางงมากว่าเด็กเสิร์ฟนี่เค้าสั่งแขกให้หยิบนู่นนี่เดินตามเค้าไปได้ด้วยหรอ??
โดยปกติแล้วเราก็ช่วยถือเท่าที่เราถือได้อยู่แล้ว ทุกร้านที่มีการย้ายโต๊ะ ไม่เคยมีพนักงานมาสั่ง หรือขอให้ช่วย
หรือแม้แต่ร้านนี้ที่ย้ายโต๊ะครั้งแรก เราก็ช่วยหยิบจาน ช้อน กับข้าวอะไรมาให้
ทีนี้ตอนที่เราเดินตามเค้ามาโต๊ะใหม่เราก็ถือพวกกับข้าว กระเป๋า สัมภาระอยู่
พอพนักงานวาง
สรุป เราต้องเดินกลับไปหยิบเอง ชีเดินไปที่อื่นละ
ระหว่างที่นั่งกินมาตลอดก็แทบจะต้องบริการตัวเอง น้ำขงน้ำแข็งไม่ค่อยมีใครสนใจ
มีช่วงใกล้ๆ เช็คบิลอาหารเริ่มหมด ถึงเดินมาเติม เอาบิลมาวางให้พร้อมรอยยิ้ม
เช็คบิลเสร็จกำลังเดินไปที่รถ เด็กรับรถเดินตามมาส่องไฟให้ มีรถสวนเข้ามาพอดีแล้วเค้าคงบีบแตรเรียกให้เด็กมาช่วยโบก
เด็กคนนี้ก็หันรีหันขวาง แต่ก็เลือกเดินตามแฟนก่อนเพราะจะกลับต้องได้เงินอยู่แล้ว
เค้าไปส่งด้านคนขับ แฟนให้ติ๊บไป 20 บาท เค้าขอบคุณแล้ววิ่งสี่คูณร้อยไปหารถคันเมื่อกี๊เลย ไม่มีมาส่องฟงไฟไรให้เราละ
ฝั่งแฟนไม่เท่าไหร่ฝั่งเราทั้งมืดทั้งแอ่งน้ำขัง รถเราก็สูง ต้องมาระวังไม่ให้น้ำเข้ารองเท้าอีก
แต่ถามว่าตรงนี้ซีเรียสมากมั้ย ก็ไม่ เพราะรู้อยู่แล้วให้เงินปุ๊บไปปั๊บ เป็นเรื่องปกติ
แต่พอออกรถปุ๊บเด็กรับรถอีกคนวิ่งเข้ามาอย่างไว ฉีกยิ้มยกมือไหว้
พอเห็นเหมือนแฟนเราไม่เปิดกระจกก็ทำหน้าเหวอเอามือลงหน้าตาเหมือนไม่พอใจ
แฟนก็เปิดกระจกบอกว่าให้อีกคนนึงไปละ เค้าก็พยักหน้าทำหน้านิ่งๆ
ตอนแรกกะจะไม่มาเขียนลง แต่จุดสุดท้ายที่ทำให้เปลี่ยนใจคือ เด็กรับรถ
เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องเล็กๆ ที่พบเจอได้ตามร้านอาหาร แต่พอมันเจอบ่อยๆ เจอกับหลายๆ คนในที่เดียวกัน มันเลยทำให้รู้สึกหงุดหงิดใจ ยอมรับเลยว่าอาหารดี บรรยากาศดีแค่ไหน เด็กเสิร์ฟมีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการจริงๆ ความจริงเราชอบร้านนี้นะ แต่ให้กลับไปอีกก็ไม่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องสุดท้ายไม่เกี่ยวกับพนักงาน เรื่องระบบการจองโต๊ะ ปกติแล้วเวลาไปทานที่ไหนถ้าเราโทรจอง ร้านจะฟิกซ์เวลาเลยว่าต้องมาถึงภายในกี่โมงจะตัดโต๊ะ เพราะที่ดีๆ ใครก็อยากนั่ง แต่ร้านนี้ตั้งป้ายจองเรี่ยราดมากที่ริมๆ ติดแม่น้ำจองหมด ไม่ติดก็จองเกือบหมด indoor ก็จองอีกสามสี่โต๊ะ เราไปถึงร้านประมาณ 5 โมงกว่าเกือบ 6 ออกจากร้าน เกือบสองทุ่ม โต๊ะที่จองยังมาไม่ถึงครึ่งที่วางจองเลย
ครั้งนี้ที่เล่า เราถือว่าเราแชร์ประสบการณ์นะคะ เพราะเวลาเราหาข้อมูลร้านอาหาร เราก็อยากอ่านทั้งติและชม นี่เป็นครั้งแรกที่พิมพ์ยาวขนาดนี้ ไม่รู้จะย่อตรงไหนจริงๆ ละเอียดยิบ ขอบคุณมากค่ะ