สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาขอรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ใจกลางเมืองกันเลย
นั่นก็คือนิทรรศการที่ชื่อว่า Dialogue in the Dark ค่ะ ซึ่งเป็นนิทรรศการที่จัดในหลายๆประเทศ รวมถึงไทยด้วย
ประวัติความเป็นมายังไงไม่ขอเล่าแล้วกัน เพราะหาได้ตาม google
สาเหตุที่มาทำรีวิววันนี้ คือ อยากจะมาประชาสัมพันธ์โครงการด้วยส่วนหนึ่ง สาเหตุ ติดตามได้ตอนท้ายค่ะ
(บางส่วนในรีวิวนี้ จะขออนุญาตนำภาพของท่ายอื่นมาด้วยนะคะ แล้วจะใส่เครดิตให้ แต่ถ้าไม่มีเครดิตคือถ่ายเองค่ะ)
Facebook ของนิททรศการ --
https://www.facebook.com/didthailand
สถานที่ตั้ง : ชั้น 4 อาคารจามจุรี สแควร์ สามย่าน
สามารถเดินทางมาได้หลายทาง ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน(ลงสถานีสามย่าน) รถเมล์ แต่วันที่ไป เราเลือกนั่ง Taxi กันไปค่ะ เพราะราคาเท่าค่ารถไฟฟ้า 2 คนเลย
พอมาถึงก็ขึ้นไปชั้น 4 ค่ะ ถ้าขึ้นไปเจอกับศูนย์หนังสือจุฬา ไม่ต้องตกใจ ให้เดินเข้าไปเลยค่ะ จะมีทางทะลุไป
ด้านหน้าทางเข้าค่ะ ไม่มีคนเลย จำไม่ได้ว่าเขาเรียกว่า จตุรัสวิทยาศาสตร์รึเปล่า เพราะจะมีอะไรเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ให้เล่นเต็มเลยด้วยค่ะ
จริงๆส่วนนี้ก็เหมาะที่จะพาเด็กๆไปนะคะ (เราเองก็ชอบเล่น) คล้ายๆพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ขนาดย่อมๆ มีของเล่น มีสัตว์สต๊าฟ ฯลฯ
พอเราเดินเข้าไปเขาก็จะให้แปะสติ๊กเกอร์ (ไม่รู้จะแปะทำไม)
แล้วก็ต้องไปซื้อตั๋วตรงเค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ภายในนั้นค่ะ
ตั๋วเด็ก 50 บาท
ตั๋วผู้ใหญ่ 90 บาท
นักเรียน - นักศึกษา แสดงบัตร ตั๋ว 50 บาทค่ะ ใช้สิทธิได้ถึงแค่นักศึกษาปริญญาตรีเท่านั้นนะคะ ป.โท ป.เอก ใช้ไม่ได้
เลือกรอบที่จะเข้าค่ะ เข้าได้รอบละไม่เกิน 8 คน แต่ละรอบห่างกัน 15 นาที
ชะวิ้ง ได้ตั๋วมาแล้ว 2 ใบ
เจ้าหน้าที่จะแนะนำว่า พอใกล้ถึงเวลาให้ขึ้นไปข้างบน ทางขึ้นตามนี้เลย อย่ามาสายน้า
ส่วนนี้เป็นกติกาค่ะ ภาพจาก
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12384674/E12384674.html
เมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่ก็จะมาอธิบายกติกาให้ฟังอีกที พร้อมแจกไม้เท้าให้ คนละอัน และอธิบายวิธีการใช้อีกที
แต่วันที่เราไป คือวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2556 ขนาดเป็นวันหยุด รอบบ่าย 2 ยังมีแค่เรา 2 คนเองค่ะ รอบนี้เลยไม่ต้องเกรงใจใคร
อ้อ ก่อนเข้าไป ให้เตรียมเงินไว้สัก 20 บาทด้วยนะคะ เพราะข้างในจะมีสถานการณ์จำลองให้เราซื้อของค่ะ
เมื่อเข้าไปก็จะมีไกด์พาเราเดินข้างใน และคอยอธิบายเราในหลายๆเรื่องค่ะ ตอนที่เราไป เจอกับพี่อุดม ค่ะ ^^
พี่ไกด์ที่นี่ สามารถสื่อสารได้หลายภาษาค่ะ ทั้งไทย อังกฤษ และ ภาษาถิ่นนี่ถนัดค่ะ ฮ่าๆ
ข้างในมีอะไรบ้าง ?? ถ้าอยากลุ้นเอง อย่าเพิ่งอ่านค่ะ เดี๋ยวจะหมดสนุก ไปแบบมึนๆจะตื่นเต้นกว่า
ที่แน่ๆ ข้างในปลอดภัยแน่นอน (ถ้าเราไม่ทำอะไรผิดแปลกๆนะ)
อธิบายคร่าวๆเล็กน้อย คือ จะเป็นสถานการณ์จำลองในการใช้ชีวิตประจำวันเหมือนคนทั่วไปนี่ล่ะค่ะ แค่เราจะมองไม่เห็น สมมติว่าเราเป็นคนตาบอด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เตือนแล้วนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เข้ามาก็จะเจอกับสถานที่จำลองต่างๆ เช่น ห้องรับแขก สวนสาธารณะ ริมถนน ตลาดนัด บาร์ โดยพี่ไกด์จะคอยถามเราว่าที่นี่ที่ไหน เวลาเจอรูปปั้น จะให้เราคลำๆ ถามว่านี่รูปปั้นอะไร กำลังทำอะไรอยู่ ต้องใช้จินตนาการสูงมากกกกก ส่วนโซนตลาด ก็จะมีผักผลไม้ให้เราดม และคลำ รวมถึงพวกของชำต่างๆด้วย พี่ไกด์ก็จะถามเราว่า นี่อะไร ได้ยินเสียงอะไรไหม แต่ที่ชอบที่สุด จะมีโซนนึง ให้เราได้ลองนั่งรถค่ะ เป็นรถอะไรก็ไปเดาเองนะคะ ถ้าตาเห็นจะเรียกว่า 4D เลยก็ว่าได้ นี่ตาไม่เห็น แต่สัมผัสได้อย่างเต็มๆ ชอบๆๆโซนนี้มาก เราก็จะได้เล่นๆคลำๆไปจนถึงโซนสุดท้าย โซนขายของ ก็จะมีขนมขาย ราคารับได้ คือ น้ำอัดลมกระป๋อง 15 บาท ป๊อกกี้ 20 ขนมอื่นๆ 5 บาท น้ำเปล่า 10 บาท ถ้าใครอยากทดลองนับเงินทอนในที่มืด แนะนำให้เอาแบงค์ 100 หรือ 50 เข้าไป แต่ถ้าใครไม่กล้า ก็เตรียมหรือซื้อให้พอดี พอซื้อเสร็จพี่ไกด์ก็จะพาเรามานั่งกินขนม และให้ถามคำถามต่างๆค่ะ ซึ่งถามได้ทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องของโครงการ
ข้อมูลต่างๆคร่าวๆที่เราได้ถามพี่ไกด์ก่อนออกจากห้อง ถ้าอยากถามอะไรเอง ก็อย่าเพิ่งอ่านนะ เพราะเราอ่านก่อนไป บางข้อก็ไม่กล้าถาม เพราะรู้มาแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พี่ไกด์ในนี้ตาบอดหมดทุกคน มีอยู่ประมาณ 20 คน คอยหมุนเวียนกันมาทำงาน บางทีคนไม่รู้ ก็แกล้งซน ไม่เชื่อฟัง พี่ไกด์ก็ลำบาก แต่พอมารู้ทีหลังว่าตาบอด ก็สำนึกผิด บางกลุ่มก็ช่วยกันสวดอ้อนวอนพระเจ้าให้ พี่ไกด์จำทางได้หมด คือเดินไม่มีทางชน (ถ้าจำไม่ได้จะเป็นไกด์ได้ไง ถามแปลก 55) สำหรับพี่อุดม เมื่อก่อนเป็นคนปกติ แต่เกิดอุบัติเหตุจึงทำให้สูญเสียการมองเห็นไป แรกๆก็ทำใจไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับ การใช้ชีวิตช่วงแรก ต้องเข้าโรงเรียนสอนการใช้ชีวิตของคนตาบอด
ทำไมคนตาบอดชอบใส่แว่นตาดำ ?? คนตาบอดก็อยากดูดี บางคนลูกตาผิดปกติก็ไม่อยากให้ใครเห็น หรืออาจมีขี้ตาไหล ใส่แว่นซะดีกว่า
แล้วคนตาบอดต้องเลือกสีเสื้อไหมล่ะ ?? คนตาบอดก็เลือกเหมือนกันนะ เพราะก็อยากดูดีทั้งนั้นแหละ โดยจะเลือกจำสีจากเนื้อผ้าของเสื้อแต่ละตัว เป็นต้น คือเราคุยกะพี่อุดมเยอะมาก จนขี้เกียจพิมพ์ ฮาๆ ต้องลองเองค่ะ แล้วจะอิน ซึ้ง เศร้า T T มากๆๆ
ข่าวร้ายคือ นิทรรศการนี้จะปิดตัวลงในเดือน ตุลาคม โดยพี่อุดมฝากมาให้ช่วยประชาสัมพันธ์ค่ะ บอกว่า อายุของนิทรรศการจะต่อไปได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ชม อยากให้มาชมกันเยอะๆค่ะ ชวนเพื่อน ชวนลูกหลาน ครอบครัวมากันค่ะ คุ้มมากๆกับราคาไม่ถึง 100 บาท ได้เรียนรู้ ได้รู้จักการเห็นใจคนอื่น ทำให้รู้สึกตัวเองเป็นคนดีมากขึ้นค่ะ ฮ่าๆๆ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ เพราะอยากให้มีนิทรรศการดีๆแบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ และถ้าไม่มาเจอในพันทิป ก็จะไม่รู้จักนิรรศการนี้เลยด้วยซ้ำ
เพิ่มเติม จากความคิดเห็นที่ 53 นะคะ -- จากการสนับสนุนของหลายๆฝ่ายตอนนี้ได้ต่อสัญญาไปอีก 3 ปีเรียบร้อยแล้วค่ะ
สำหรับเด็ก เจ้าหน้าที่จะพาเข้าไปทดลองก่อนว่ากลัวความมืดไหม และสำหรับเด็กต่ำกว่า 10 ขวบ ผู้ปกครองต้องเข้าไปด้วยค่ะ
ถ้าสมมติน้องๆเกิดกลัวความมืดขึ้นมา ก็จะไม่ได้เข้าค่ะ แต่ที่นั่นก็ยังพอมีอะไรเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ให้ได้เล่นกันอยู่ เลยคิดว่า คงไม่เสียเที่ยวค่ะ ยังไงก็ได้รับความรู้แน่นอน
ขอบคุณค่ะ
ตอนนี้ได้เป็นกระทู้แนะนำ (มาสักระยะหนึ่งแล้ว) ก็อยากขอบคุณเพื่อนๆอีกครั้งที่ช่วยกันโหวตนะคะ + เพิ่มเติมข้อมูลบางอย่างที่คิดว่าเป็นประโยชน์ลงไปค่ะ
[CR] Dialogue in the Dark @ จามจุรี สแควร์ : 50 บาท แห่งความสุข ในกรุงเทพฯ
นั่นก็คือนิทรรศการที่ชื่อว่า Dialogue in the Dark ค่ะ ซึ่งเป็นนิทรรศการที่จัดในหลายๆประเทศ รวมถึงไทยด้วย
ประวัติความเป็นมายังไงไม่ขอเล่าแล้วกัน เพราะหาได้ตาม google
สาเหตุที่มาทำรีวิววันนี้ คือ อยากจะมาประชาสัมพันธ์โครงการด้วยส่วนหนึ่ง สาเหตุ ติดตามได้ตอนท้ายค่ะ
(บางส่วนในรีวิวนี้ จะขออนุญาตนำภาพของท่ายอื่นมาด้วยนะคะ แล้วจะใส่เครดิตให้ แต่ถ้าไม่มีเครดิตคือถ่ายเองค่ะ)
Facebook ของนิททรศการ -- https://www.facebook.com/didthailand
สถานที่ตั้ง : ชั้น 4 อาคารจามจุรี สแควร์ สามย่าน
สามารถเดินทางมาได้หลายทาง ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน(ลงสถานีสามย่าน) รถเมล์ แต่วันที่ไป เราเลือกนั่ง Taxi กันไปค่ะ เพราะราคาเท่าค่ารถไฟฟ้า 2 คนเลย
พอมาถึงก็ขึ้นไปชั้น 4 ค่ะ ถ้าขึ้นไปเจอกับศูนย์หนังสือจุฬา ไม่ต้องตกใจ ให้เดินเข้าไปเลยค่ะ จะมีทางทะลุไป
ด้านหน้าทางเข้าค่ะ ไม่มีคนเลย จำไม่ได้ว่าเขาเรียกว่า จตุรัสวิทยาศาสตร์รึเปล่า เพราะจะมีอะไรเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ให้เล่นเต็มเลยด้วยค่ะ
จริงๆส่วนนี้ก็เหมาะที่จะพาเด็กๆไปนะคะ (เราเองก็ชอบเล่น) คล้ายๆพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ขนาดย่อมๆ มีของเล่น มีสัตว์สต๊าฟ ฯลฯ
พอเราเดินเข้าไปเขาก็จะให้แปะสติ๊กเกอร์ (ไม่รู้จะแปะทำไม)
แล้วก็ต้องไปซื้อตั๋วตรงเค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ภายในนั้นค่ะ
ตั๋วเด็ก 50 บาท
ตั๋วผู้ใหญ่ 90 บาท
นักเรียน - นักศึกษา แสดงบัตร ตั๋ว 50 บาทค่ะ ใช้สิทธิได้ถึงแค่นักศึกษาปริญญาตรีเท่านั้นนะคะ ป.โท ป.เอก ใช้ไม่ได้
เลือกรอบที่จะเข้าค่ะ เข้าได้รอบละไม่เกิน 8 คน แต่ละรอบห่างกัน 15 นาที
ชะวิ้ง ได้ตั๋วมาแล้ว 2 ใบ
เจ้าหน้าที่จะแนะนำว่า พอใกล้ถึงเวลาให้ขึ้นไปข้างบน ทางขึ้นตามนี้เลย อย่ามาสายน้า
ส่วนนี้เป็นกติกาค่ะ ภาพจาก http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12384674/E12384674.html
เมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่ก็จะมาอธิบายกติกาให้ฟังอีกที พร้อมแจกไม้เท้าให้ คนละอัน และอธิบายวิธีการใช้อีกที
แต่วันที่เราไป คือวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2556 ขนาดเป็นวันหยุด รอบบ่าย 2 ยังมีแค่เรา 2 คนเองค่ะ รอบนี้เลยไม่ต้องเกรงใจใคร
อ้อ ก่อนเข้าไป ให้เตรียมเงินไว้สัก 20 บาทด้วยนะคะ เพราะข้างในจะมีสถานการณ์จำลองให้เราซื้อของค่ะ
เมื่อเข้าไปก็จะมีไกด์พาเราเดินข้างใน และคอยอธิบายเราในหลายๆเรื่องค่ะ ตอนที่เราไป เจอกับพี่อุดม ค่ะ ^^
พี่ไกด์ที่นี่ สามารถสื่อสารได้หลายภาษาค่ะ ทั้งไทย อังกฤษ และ ภาษาถิ่นนี่ถนัดค่ะ ฮ่าๆ
ข้างในมีอะไรบ้าง ?? ถ้าอยากลุ้นเอง อย่าเพิ่งอ่านค่ะ เดี๋ยวจะหมดสนุก ไปแบบมึนๆจะตื่นเต้นกว่า
ที่แน่ๆ ข้างในปลอดภัยแน่นอน (ถ้าเราไม่ทำอะไรผิดแปลกๆนะ)
อธิบายคร่าวๆเล็กน้อย คือ จะเป็นสถานการณ์จำลองในการใช้ชีวิตประจำวันเหมือนคนทั่วไปนี่ล่ะค่ะ แค่เราจะมองไม่เห็น สมมติว่าเราเป็นคนตาบอด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อมูลต่างๆคร่าวๆที่เราได้ถามพี่ไกด์ก่อนออกจากห้อง ถ้าอยากถามอะไรเอง ก็อย่าเพิ่งอ่านนะ เพราะเราอ่านก่อนไป บางข้อก็ไม่กล้าถาม เพราะรู้มาแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข่าวร้ายคือ นิทรรศการนี้จะปิดตัวลงในเดือน ตุลาคม โดยพี่อุดมฝากมาให้ช่วยประชาสัมพันธ์ค่ะ บอกว่า อายุของนิทรรศการจะต่อไปได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ชม อยากให้มาชมกันเยอะๆค่ะ ชวนเพื่อน ชวนลูกหลาน ครอบครัวมากันค่ะ คุ้มมากๆกับราคาไม่ถึง 100 บาท ได้เรียนรู้ ได้รู้จักการเห็นใจคนอื่น ทำให้รู้สึกตัวเองเป็นคนดีมากขึ้นค่ะ ฮ่าๆๆ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ เพราะอยากให้มีนิทรรศการดีๆแบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ และถ้าไม่มาเจอในพันทิป ก็จะไม่รู้จักนิรรศการนี้เลยด้วยซ้ำ
เพิ่มเติม จากความคิดเห็นที่ 53 นะคะ -- จากการสนับสนุนของหลายๆฝ่ายตอนนี้ได้ต่อสัญญาไปอีก 3 ปีเรียบร้อยแล้วค่ะ
สำหรับเด็ก เจ้าหน้าที่จะพาเข้าไปทดลองก่อนว่ากลัวความมืดไหม และสำหรับเด็กต่ำกว่า 10 ขวบ ผู้ปกครองต้องเข้าไปด้วยค่ะ
ถ้าสมมติน้องๆเกิดกลัวความมืดขึ้นมา ก็จะไม่ได้เข้าค่ะ แต่ที่นั่นก็ยังพอมีอะไรเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ให้ได้เล่นกันอยู่ เลยคิดว่า คงไม่เสียเที่ยวค่ะ ยังไงก็ได้รับความรู้แน่นอน
ขอบคุณค่ะ
ตอนนี้ได้เป็นกระทู้แนะนำ (มาสักระยะหนึ่งแล้ว) ก็อยากขอบคุณเพื่อนๆอีกครั้งที่ช่วยกันโหวตนะคะ + เพิ่มเติมข้อมูลบางอย่างที่คิดว่าเป็นประโยชน์ลงไปค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น