ถอดทีละนิดพิชิตใจตอนที่สิบห้ามมาแล้วค่า หวังว่าคนอ่านจะชอบนะคะ
ถอด...ชิ้นที่สิบห้า คนหมอช่างเอาใจกับยัยลูกแมวจอมอัพแวลู
ยังไม่ทันที่ธีรักษ์จะเดินตามคน ‘งอน’ ไปนั่งที่โต๊ะ เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับ”
“โอนสายมาได้เลยขอบคุณครับ”
“สวัสดีครับจันทร์เจ้า”
“พอดีพี่ติดผ่าตัดเลยปิดเครื่องครับ มีอะไรหรือเปล่า”
คราวนี้คนที่ประกาศตัวปาวๆว่างอนเลยยิ่งเชิดคอสูง เพื่อให้หูเอียงพอได้มุมที่จะได้ยินชัดมากที่สุด แต่ไม่สำเร็จ จึงได้แต่ขัดใจที่โต๊ะอาหารอยู่ไกลเกินรัศมีได้ยินเสียง
“เรื่องหาทุนเข้ามูลนิธิโรคหัวใจหรือครับ สักครู่นะครับ” ธีรักษ์กดปิดเสียง ก่อนจะหันมาบอกสมาชิกที่รออยู่บนโต๊ะอาหาร
“ทานกันไปก่อนเลยไม่ต้องรอผม”
ครู่ใหญ่ธีรักษ์จึงวางสายแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ
“เดี๋ยวอีกสักพักจะมีแขกมาคุยธุระกับผมเรื่องงานนะ”
ให้เราไปส่งหนูมิลค์ที่บ้านก่อนก็ได้นะ” กรเทพเสนออย่างมีน้ำใจ
“ไม่เป็นไรจันทร์เจ้าแค่จะเอาของมาฝากแล้วคุยเรื่องทุนนิดหน่อย” คุณหมอหนุ่มปฏิเสธเรียบเรื่อยแบบไม่ต้องคิดให้มากความ
“ยัยพระจันทร์จอมเชิดนะเหรอ”
“ไปเรียกน้องเค้าแบบนั้น เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีกหรอก”
ธีรักษ์ส่ายหัวเบาๆกับนิสัยช่างยั่วประสาทของเพื่อน แต่พอเห็นจานข้าวของลูกแมวที่นั่งคอเชิดหน้ายู่ยังไม่พร่องก็หน้านิ่งเสียงเย็นหันไปไล่เบี้ยเอากับกรเทพ
“อ้าวทำไมไม่ทานก่อน”
กรเทพไม่ตอบแต่บุ้ยปากเป็นเชิงให้ถามคนที่นั่งหน้าเชิดอยู่ข้างตัวของเขาแทน นั่นแหละธีรักษ์จึงหันไปทำเสียงดุตัวการที่ไม่ยอมกินข้าว
“ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องรอผม เกิดผมคุยนาน พอดีคุณไม่ต้องรอผมจนดึกหรือ”
“หงึ คุณธีขาดุหนูมิ้ลค์” ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็สลัดบทลูกแมวจอมเชิด ทำหน้าม่อยช้อนสายตาที่ฉ่ำโบ๊ะด้วยน้ำตาสั่งได้ของเจ้าหล่อนมองคนพูดด้วยท่าทางราวกับช้ำใจเหลือแสน แล้วเรียกร้องความสนใจด้วยการก้มหน้าเขี่ยข้าวไปมาให้ดูน่าสงสาร
เห็นแล้วคนดุก็อ่อนใจ แม้จะรู้ล่ะว่าคนที่นั่งข้างตัวนี่ท่ามากเจ้าลีลาและ “เยอะ” แต่สุดท้ายแล้วคุณหมอหนุ่มอดรู้สึกผิดที่ดุคน “เยอะ” ที่นั่งข้างตัวไม่ได้อยู่ดี จึงตักปลากะพงทอดน้ำปลาของโปรดของลูกแมวขี้ใจน้อยวางแหมะบนจานของเจ้าหล่อน
คนที่ก้มหน้าน้ำตาจะหยดแหล่ไม่หยดแหล่พอเห็นปลาทอดน้ำปลาวางแหมะบนจาน แถมด้วยเสียงทุ้มอ่อนโยนของคนข้างตัว
“ปลาทอดน้ำปลาของโปรดคุณเห็นคุณชอบผมเลยสั่งมาให้”
ในใจก็ตีปีกพับๆแสนดีใจที่คุณหมอหนุ่มงอนง้อ แต่มนต์อัปสรยังทำตัวน่าสงสารอัพแวลูต่อไม่ยอมกินง่ายๆ แม้ท้องจะเริ่มหิวก็ตาม แต่.......นิ่งไม่เสียงคะยั้นคะยอให้ทานอาหารแบบที่หวังไว้ มีเพียงเสียงช้อนกับจานดังเบาๆเป็นสัญญาณว่าคุณหมอหนุ่มเริ่มทานอาหารแล้ว
ขณะที่คนท่ามากกำลังจะถอดใจ มือเรียวสวยของคุณหมอหนุ่มก็วางถ้วยที่ตักแบ่งต้มยำรสจัดมาตรงหน้า แถมเห็นแวบๆด้วยว่ากุ้งในถ้วยพร้อมหม่ำไม่มีหัวหางให้รำคาญใจ เพราะหัวกับหางนั้นคุณธีขาจัดการแกะออกให้เรียบร้อยแล้วเมื่อครู่
“จะไม่ทานก็ได้นะ” ว่าแล้วธีรักษ์ก็เตรียมจะยกถ้วยแบ่งต้มยำอุดมกุ้งของมนต์อัปสรกลับมาทานเอง แต่มนต์อัปสรไม่ปล่อยโอกาสรีบตะครุบมือคุณหมอหนุ่ม
“แหม ทานซิคะคุณธีขาตักให้หนูมิลค์หนูมิลค์จะไม่ทานได้อย่างไร” ไม่พูดเปล่าเจ้าหล่อนยังพยายามจะยืดคอไปไถหน้ากับแขนแข็งแรงของคนข้างตัว
ธีรักษ์มองลูกแมวข้างตัวอย่างอ่อนใจ กระบวนการเยอะและหาเศษหาเลยกับเขาไม่ใครเกิน จนชายหนุ่มต้องปราม
“คุณหยุดเยอะ ทานข้าวได้แล้ว” นั่นแหละเจ้าหล่อนถึงยอมลามือ เลิกหาเศษหาเลยยอมกินข้าวแต่โดยดี
กรเทพที่นั่งอยู่ด้วยแต่เหมือนไม่มีตัวตนในสายตาของสองคนนี้ อดไม่ได้ที่จะกระแอมเบาๆเพื่อเรียกร้องความสนใจ
“อะไรติดคอหรือกร”
“เปล่าแค่อยากกินปลาทอดน้ำปลาบ้าง”
มาค่ะหนูมิลค์ตักให้” คนชอบเอาใจเสนอตัวทันที
แค่นึกภาพว่าเจ้าหล่อนต้องทั้งเอื้อมทั้งก้มในขณะที่ชุดแม่เจ้าประคุณก็นะคว้านซะขนาดนั้น คุณหมอหนุ่มก็รู้สึกทนไม่ได้ จึงเป็นฝ่ายเสนอตัวแทน“แขนสั้นเอื้อมถึงหรือคุณ”
คนแขนสั้นทำหน้ายู่สะบัดค้อนให้คนช่างว่าหนึ่งที เตรียมจะเอื้อมมือไปตักแต่ก็ไม่ทันคุณหมอโรคหัวใจที่ชิงตักปลาไปวางในจานของกรเทพก่อน “ผมจัดการเองดีกว่า”
ก่อนจะหน้าบานเป็นจานเชิงเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของคุณหมอหนุ่มที่พูดลอยๆด้วยสีหน้านิ่งแต่ตาดุตามปกติ “คุณนั่งเฉยๆดีแล้ว แต่จะให้ดีช่วยติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยด้วย” และจากจานเชิงก็บานเป็นใบบัววิกตอเรียเมื่อต่อจากนั้นมนต์อัปสรก็แทบไม่ต้องเอื้อมตักอะไร เพราะจะมีมือสวยของคุณหมอหนุ่มคอยตักนั่นตักนี่ให้ตลอดเวลา แค่นี้คนชอบตีความเข้าข้างความสวยตัวเองก็ตีปีกพั่บๆในใจ ‘คุณธีขาหึงเค้า แอร๊ย หนูมิลค์ฟินมั้กๆ แถมเอาใจหนูมิลค์ด้วย หลงเค้าแล้วชิมิล่ะ อิอิ เสน่ห์หนูมิลค์เกินห้ามใจ’





ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ ว่าแแต่อ่านแล้วเป็นอย่างไรอย่าลืมบอกกันบ้างนะคะ
^^ A Little Strip To Tease Your Heart...ถอดทีละนิดพิชิตใจ(ถอด...ชิ้นที่สิบห้า คุณหมอช่างเอาใจกับยัยลูกแมวจอมอัพแวลู)
ถอด...ชิ้นที่สิบห้า คนหมอช่างเอาใจกับยัยลูกแมวจอมอัพแวลู
ยังไม่ทันที่ธีรักษ์จะเดินตามคน ‘งอน’ ไปนั่งที่โต๊ะ เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับ”
“โอนสายมาได้เลยขอบคุณครับ”
“สวัสดีครับจันทร์เจ้า”
“พอดีพี่ติดผ่าตัดเลยปิดเครื่องครับ มีอะไรหรือเปล่า”
คราวนี้คนที่ประกาศตัวปาวๆว่างอนเลยยิ่งเชิดคอสูง เพื่อให้หูเอียงพอได้มุมที่จะได้ยินชัดมากที่สุด แต่ไม่สำเร็จ จึงได้แต่ขัดใจที่โต๊ะอาหารอยู่ไกลเกินรัศมีได้ยินเสียง
“เรื่องหาทุนเข้ามูลนิธิโรคหัวใจหรือครับ สักครู่นะครับ” ธีรักษ์กดปิดเสียง ก่อนจะหันมาบอกสมาชิกที่รออยู่บนโต๊ะอาหาร
“ทานกันไปก่อนเลยไม่ต้องรอผม”
ครู่ใหญ่ธีรักษ์จึงวางสายแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ
“เดี๋ยวอีกสักพักจะมีแขกมาคุยธุระกับผมเรื่องงานนะ”
ให้เราไปส่งหนูมิลค์ที่บ้านก่อนก็ได้นะ” กรเทพเสนออย่างมีน้ำใจ
“ไม่เป็นไรจันทร์เจ้าแค่จะเอาของมาฝากแล้วคุยเรื่องทุนนิดหน่อย” คุณหมอหนุ่มปฏิเสธเรียบเรื่อยแบบไม่ต้องคิดให้มากความ
“ยัยพระจันทร์จอมเชิดนะเหรอ”
“ไปเรียกน้องเค้าแบบนั้น เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีกหรอก”
ธีรักษ์ส่ายหัวเบาๆกับนิสัยช่างยั่วประสาทของเพื่อน แต่พอเห็นจานข้าวของลูกแมวที่นั่งคอเชิดหน้ายู่ยังไม่พร่องก็หน้านิ่งเสียงเย็นหันไปไล่เบี้ยเอากับกรเทพ
“อ้าวทำไมไม่ทานก่อน”
กรเทพไม่ตอบแต่บุ้ยปากเป็นเชิงให้ถามคนที่นั่งหน้าเชิดอยู่ข้างตัวของเขาแทน นั่นแหละธีรักษ์จึงหันไปทำเสียงดุตัวการที่ไม่ยอมกินข้าว
“ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องรอผม เกิดผมคุยนาน พอดีคุณไม่ต้องรอผมจนดึกหรือ”
“หงึ คุณธีขาดุหนูมิ้ลค์” ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็สลัดบทลูกแมวจอมเชิด ทำหน้าม่อยช้อนสายตาที่ฉ่ำโบ๊ะด้วยน้ำตาสั่งได้ของเจ้าหล่อนมองคนพูดด้วยท่าทางราวกับช้ำใจเหลือแสน แล้วเรียกร้องความสนใจด้วยการก้มหน้าเขี่ยข้าวไปมาให้ดูน่าสงสาร
เห็นแล้วคนดุก็อ่อนใจ แม้จะรู้ล่ะว่าคนที่นั่งข้างตัวนี่ท่ามากเจ้าลีลาและ “เยอะ” แต่สุดท้ายแล้วคุณหมอหนุ่มอดรู้สึกผิดที่ดุคน “เยอะ” ที่นั่งข้างตัวไม่ได้อยู่ดี จึงตักปลากะพงทอดน้ำปลาของโปรดของลูกแมวขี้ใจน้อยวางแหมะบนจานของเจ้าหล่อน
คนที่ก้มหน้าน้ำตาจะหยดแหล่ไม่หยดแหล่พอเห็นปลาทอดน้ำปลาวางแหมะบนจาน แถมด้วยเสียงทุ้มอ่อนโยนของคนข้างตัว
“ปลาทอดน้ำปลาของโปรดคุณเห็นคุณชอบผมเลยสั่งมาให้”
ในใจก็ตีปีกพับๆแสนดีใจที่คุณหมอหนุ่มงอนง้อ แต่มนต์อัปสรยังทำตัวน่าสงสารอัพแวลูต่อไม่ยอมกินง่ายๆ แม้ท้องจะเริ่มหิวก็ตาม แต่.......นิ่งไม่เสียงคะยั้นคะยอให้ทานอาหารแบบที่หวังไว้ มีเพียงเสียงช้อนกับจานดังเบาๆเป็นสัญญาณว่าคุณหมอหนุ่มเริ่มทานอาหารแล้ว
ขณะที่คนท่ามากกำลังจะถอดใจ มือเรียวสวยของคุณหมอหนุ่มก็วางถ้วยที่ตักแบ่งต้มยำรสจัดมาตรงหน้า แถมเห็นแวบๆด้วยว่ากุ้งในถ้วยพร้อมหม่ำไม่มีหัวหางให้รำคาญใจ เพราะหัวกับหางนั้นคุณธีขาจัดการแกะออกให้เรียบร้อยแล้วเมื่อครู่
“จะไม่ทานก็ได้นะ” ว่าแล้วธีรักษ์ก็เตรียมจะยกถ้วยแบ่งต้มยำอุดมกุ้งของมนต์อัปสรกลับมาทานเอง แต่มนต์อัปสรไม่ปล่อยโอกาสรีบตะครุบมือคุณหมอหนุ่ม
“แหม ทานซิคะคุณธีขาตักให้หนูมิลค์หนูมิลค์จะไม่ทานได้อย่างไร” ไม่พูดเปล่าเจ้าหล่อนยังพยายามจะยืดคอไปไถหน้ากับแขนแข็งแรงของคนข้างตัว
ธีรักษ์มองลูกแมวข้างตัวอย่างอ่อนใจ กระบวนการเยอะและหาเศษหาเลยกับเขาไม่ใครเกิน จนชายหนุ่มต้องปราม
“คุณหยุดเยอะ ทานข้าวได้แล้ว” นั่นแหละเจ้าหล่อนถึงยอมลามือ เลิกหาเศษหาเลยยอมกินข้าวแต่โดยดี
กรเทพที่นั่งอยู่ด้วยแต่เหมือนไม่มีตัวตนในสายตาของสองคนนี้ อดไม่ได้ที่จะกระแอมเบาๆเพื่อเรียกร้องความสนใจ
“อะไรติดคอหรือกร”
“เปล่าแค่อยากกินปลาทอดน้ำปลาบ้าง”
มาค่ะหนูมิลค์ตักให้” คนชอบเอาใจเสนอตัวทันที
แค่นึกภาพว่าเจ้าหล่อนต้องทั้งเอื้อมทั้งก้มในขณะที่ชุดแม่เจ้าประคุณก็นะคว้านซะขนาดนั้น คุณหมอหนุ่มก็รู้สึกทนไม่ได้ จึงเป็นฝ่ายเสนอตัวแทน“แขนสั้นเอื้อมถึงหรือคุณ”
คนแขนสั้นทำหน้ายู่สะบัดค้อนให้คนช่างว่าหนึ่งที เตรียมจะเอื้อมมือไปตักแต่ก็ไม่ทันคุณหมอโรคหัวใจที่ชิงตักปลาไปวางในจานของกรเทพก่อน “ผมจัดการเองดีกว่า”
ก่อนจะหน้าบานเป็นจานเชิงเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของคุณหมอหนุ่มที่พูดลอยๆด้วยสีหน้านิ่งแต่ตาดุตามปกติ “คุณนั่งเฉยๆดีแล้ว แต่จะให้ดีช่วยติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยด้วย” และจากจานเชิงก็บานเป็นใบบัววิกตอเรียเมื่อต่อจากนั้นมนต์อัปสรก็แทบไม่ต้องเอื้อมตักอะไร เพราะจะมีมือสวยของคุณหมอหนุ่มคอยตักนั่นตักนี่ให้ตลอดเวลา แค่นี้คนชอบตีความเข้าข้างความสวยตัวเองก็ตีปีกพั่บๆในใจ ‘คุณธีขาหึงเค้า แอร๊ย หนูมิลค์ฟินมั้กๆ แถมเอาใจหนูมิลค์ด้วย หลงเค้าแล้วชิมิล่ะ อิอิ เสน่ห์หนูมิลค์เกินห้ามใจ’
ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ ว่าแแต่อ่านแล้วเป็นอย่างไรอย่าลืมบอกกันบ้างนะคะ