
TITLE: **"ชัยภีม" หนังอินเดียที่ดูแล้วน้ำตาไหล หัวใจบีบคั้น ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า! (สปอยล์นิดๆ นะครับ)**
สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังอินเดียเรื่องนึงมาแนะนำครับ ชื่อเรื่อง "ชัยภีม" (Jai Bhim) ครับ เป็นหนังที่เข้าฉายในปี 2021 แต่ผมเพิ่งมีโอกาสได้ดูเมื่อไม่นานมานี้เองครับ บอกเลยว่าดูจบแล้วอึ้ง ทึ่ง เสียวสันหลังวาบไปหมด ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นบู๊ล้างผลาญแบบที่เราคุ้นเคยนะครับ แต่มันคือหนังดราม่าที่เข้มข้น บีบคั้นหัวใจ จนแทบจะสำลักน้ำตาออกมาเลยครับ
เรื่องย่อๆ เลยนะครับ "ชัยภีม" ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงครับ เล่าถึงคดีของ "ราจากันนู" ชายหนุ่มชนเผ่าคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยของในบ้านของเจ้าของที่ดินที่ร่ำรวย แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ทำครับ เป็นการใส่ร้ายป้ายสีจากเจ้าของที่ดินที่ต้องการจะกลั่นแกล้งเขา เพราะราจากันนูเป็นคนชนเผ่าที่ถูกกดขี่มาตลอดชีวิต พอถูกจับไป เขาก็ถูกทรมานจนเสียชีวิตในที่สุด ครอบครัวของเขาไม่มีใครช่วยเหลือได้ จนกระทั่งมาเจอ "ทนายภีม" (รับบทโดย สุริยา) ทนายหนุ่มผู้กล้าหาญ ที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้กับชนเผ่าที่ถูกกดขี่
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเลยคือ ความสมจริงของหนังครับ ฉากต่างๆ การแต่งกายของผู้คน บรรยากาศในหมู่บ้านชนเผ่า มันดูดิบๆ เถื่อนๆ ไม่ปรุงแต่งเลยครับ มันสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนกลุ่มนี้ได้อย่างชัดเจน ว่าเขาถูกมองเป็นพลเมืองชั้นสองอย่างไร ถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไร และต้องเผชิญกับความอยุติธรรมมากแค่ไหน
นักแสดงทุกคนเล่นดีมากๆ ครับ โดยเฉพาะคนที่รับบทเป็น "ราจากันนู" คือเล่นได้เข้าถึงบทบาทสุดๆ เห็นแล้วรู้สึกสงสารจับใจจริงๆ ครับ สีหน้า แววตา ทุกอย่างมันถ่ายทอดออกมาได้ถึงแก่น ส่วน "สุริยะ" ที่รับบท "ทนายภีม" ก็ไม่ต้องพูดถึงครับ คือแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างสง่างาม เป็นตัวละครที่ทำให้เรามีความหวัง เป็นแสงสว่างในความมืดมนของเรื่องราว
ประเด็นที่หนังพยายามจะสื่อสารมันแรงมากครับ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการแก้แค้น หรือการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ แต่มันคือการต่อสู้กับระบบที่เน่าเฟะ การเหยียดเชื้อชาติ การแบ่งชนชั้น ที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมอินเดีย ซึ่งผมว่ามันก็สะท้อนปัญหาสังคมหลายๆ อย่างที่เราก็อาจจะเคยพบเจอในบ้านเราเหมือนกันนะครับ แค่อาจจะไม่รุนแรงเท่าในหนัง
ฉากที่ผมจำได้แม่นเลยคือ ฉากที่ราจากันนูถูกจับไปทรมานครับ ดูแล้วมันบีบคั้นหัวใจจริงๆ อยากจะตะโกนบอกให้เขาหนีไป แต่ก็ทำได้แค่นั่งดูตาปริบๆ ครับ แล้วก็ฉากการต่อสู้ในชั้นศาลของทนายภีม มันทั้งเฉลียวฉลาดและทรงพลังมากๆ ครับ ทำให้เราเห็นว่าการใช้สติปัญญาและความรู้ มันก็สามารถต่อสู้กับอำนาจมืดได้
อีกอย่างที่ผมชอบคือ หนังไม่ได้พยายามจะทำให้ดูเกินจริง หรือใส่อารมณ์ดราม่าจนเลี่ยนครับ ทุกอย่างมันดูเป็นธรรมชาติ สมจริง ทำให้เราอินไปกับตัวละคร รู้สึกร่วมไปกับความทุกข์ยากของพวกเขาจริงๆ ครับ
แน่นอนว่ามันเป็นหนังที่ดูแล้วเครียดครับ มีหลายฉากที่ทำให้เราต้องกำหมัดแน่น น้ำตาคลอ แต่พอหนังจบลง มันก็ทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้ครับ มันทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของความยุติธรรม และความสำคัญของการลุกขึ้นสู้เพื่อสิทธิของตัวเองและผู้อื่น
ผมว่า "ชัยภีม" เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูมากๆ ครับ มันไม่ใช่แค่หนังบันเทิง แต่เป็นหนังที่ทำให้เราได้คิด ได้ตั้งคำถามกับสังคมที่เราอยู่ มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ เศร้าใจ แต่ผมเชื่อว่ามันจะทำให้คุณมองโลกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นครับ
สำหรับคะแนน ผมให้เรื่องนี้ 9/10 เลยครับ หักไป 1 คะแนนเพราะบางทีฉากทรมานมันอาจจะโหดร้ายไปนิดสำหรับบางคน แต่โดยรวมแล้ว เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ ใครที่ชอบหนังที่เข้มข้น สะท้อนสังคม และมีประเด็นให้น่าคิด ผมแนะนำเรื่องนี้เลยครับ รับรองว่าดูแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ถ้าใครได้ดูแล้ว หรือมีหนังอินเดียดีๆ เรื่องอื่นอีก ก็มาแชร์กันได้นะครับ ยินดีรับฟังครับผม
**"ชัยภีม" หนังอินเดียที่ดูแล้วน้ำตาไหล หัวใจบีบคั้น ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า! (สปอยล์นิดๆ นะครับ)**
TITLE: **"ชัยภีม" หนังอินเดียที่ดูแล้วน้ำตาไหล หัวใจบีบคั้น ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า! (สปอยล์นิดๆ นะครับ)**
สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังอินเดียเรื่องนึงมาแนะนำครับ ชื่อเรื่อง "ชัยภีม" (Jai Bhim) ครับ เป็นหนังที่เข้าฉายในปี 2021 แต่ผมเพิ่งมีโอกาสได้ดูเมื่อไม่นานมานี้เองครับ บอกเลยว่าดูจบแล้วอึ้ง ทึ่ง เสียวสันหลังวาบไปหมด ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นบู๊ล้างผลาญแบบที่เราคุ้นเคยนะครับ แต่มันคือหนังดราม่าที่เข้มข้น บีบคั้นหัวใจ จนแทบจะสำลักน้ำตาออกมาเลยครับ
เรื่องย่อๆ เลยนะครับ "ชัยภีม" ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงครับ เล่าถึงคดีของ "ราจากันนู" ชายหนุ่มชนเผ่าคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยของในบ้านของเจ้าของที่ดินที่ร่ำรวย แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ทำครับ เป็นการใส่ร้ายป้ายสีจากเจ้าของที่ดินที่ต้องการจะกลั่นแกล้งเขา เพราะราจากันนูเป็นคนชนเผ่าที่ถูกกดขี่มาตลอดชีวิต พอถูกจับไป เขาก็ถูกทรมานจนเสียชีวิตในที่สุด ครอบครัวของเขาไม่มีใครช่วยเหลือได้ จนกระทั่งมาเจอ "ทนายภีม" (รับบทโดย สุริยา) ทนายหนุ่มผู้กล้าหาญ ที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้กับชนเผ่าที่ถูกกดขี่
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเลยคือ ความสมจริงของหนังครับ ฉากต่างๆ การแต่งกายของผู้คน บรรยากาศในหมู่บ้านชนเผ่า มันดูดิบๆ เถื่อนๆ ไม่ปรุงแต่งเลยครับ มันสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนกลุ่มนี้ได้อย่างชัดเจน ว่าเขาถูกมองเป็นพลเมืองชั้นสองอย่างไร ถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไร และต้องเผชิญกับความอยุติธรรมมากแค่ไหน
นักแสดงทุกคนเล่นดีมากๆ ครับ โดยเฉพาะคนที่รับบทเป็น "ราจากันนู" คือเล่นได้เข้าถึงบทบาทสุดๆ เห็นแล้วรู้สึกสงสารจับใจจริงๆ ครับ สีหน้า แววตา ทุกอย่างมันถ่ายทอดออกมาได้ถึงแก่น ส่วน "สุริยะ" ที่รับบท "ทนายภีม" ก็ไม่ต้องพูดถึงครับ คือแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างสง่างาม เป็นตัวละครที่ทำให้เรามีความหวัง เป็นแสงสว่างในความมืดมนของเรื่องราว
ประเด็นที่หนังพยายามจะสื่อสารมันแรงมากครับ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการแก้แค้น หรือการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ แต่มันคือการต่อสู้กับระบบที่เน่าเฟะ การเหยียดเชื้อชาติ การแบ่งชนชั้น ที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมอินเดีย ซึ่งผมว่ามันก็สะท้อนปัญหาสังคมหลายๆ อย่างที่เราก็อาจจะเคยพบเจอในบ้านเราเหมือนกันนะครับ แค่อาจจะไม่รุนแรงเท่าในหนัง
ฉากที่ผมจำได้แม่นเลยคือ ฉากที่ราจากันนูถูกจับไปทรมานครับ ดูแล้วมันบีบคั้นหัวใจจริงๆ อยากจะตะโกนบอกให้เขาหนีไป แต่ก็ทำได้แค่นั่งดูตาปริบๆ ครับ แล้วก็ฉากการต่อสู้ในชั้นศาลของทนายภีม มันทั้งเฉลียวฉลาดและทรงพลังมากๆ ครับ ทำให้เราเห็นว่าการใช้สติปัญญาและความรู้ มันก็สามารถต่อสู้กับอำนาจมืดได้
อีกอย่างที่ผมชอบคือ หนังไม่ได้พยายามจะทำให้ดูเกินจริง หรือใส่อารมณ์ดราม่าจนเลี่ยนครับ ทุกอย่างมันดูเป็นธรรมชาติ สมจริง ทำให้เราอินไปกับตัวละคร รู้สึกร่วมไปกับความทุกข์ยากของพวกเขาจริงๆ ครับ
แน่นอนว่ามันเป็นหนังที่ดูแล้วเครียดครับ มีหลายฉากที่ทำให้เราต้องกำหมัดแน่น น้ำตาคลอ แต่พอหนังจบลง มันก็ทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้ครับ มันทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของความยุติธรรม และความสำคัญของการลุกขึ้นสู้เพื่อสิทธิของตัวเองและผู้อื่น
ผมว่า "ชัยภีม" เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูมากๆ ครับ มันไม่ใช่แค่หนังบันเทิง แต่เป็นหนังที่ทำให้เราได้คิด ได้ตั้งคำถามกับสังคมที่เราอยู่ มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ เศร้าใจ แต่ผมเชื่อว่ามันจะทำให้คุณมองโลกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นครับ
สำหรับคะแนน ผมให้เรื่องนี้ 9/10 เลยครับ หักไป 1 คะแนนเพราะบางทีฉากทรมานมันอาจจะโหดร้ายไปนิดสำหรับบางคน แต่โดยรวมแล้ว เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ ใครที่ชอบหนังที่เข้มข้น สะท้อนสังคม และมีประเด็นให้น่าคิด ผมแนะนำเรื่องนี้เลยครับ รับรองว่าดูแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ถ้าใครได้ดูแล้ว หรือมีหนังอินเดียดีๆ เรื่องอื่นอีก ก็มาแชร์กันได้นะครับ ยินดีรับฟังครับผม