เทคนิคเป๊ะกว่าแถมใจดี! ครูสอนขับรถจีนโดน AI แย่งงาน
.
ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน ธุรกิจโรงเรียนสอนขับรถอยู่ในสถานะกระอักกระอ่วนมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีผู้เรียนมากกว่า 20 ล้านคนต่อปี และเป็นด่านบังคับก่อนการขับขี่รถของแทบทุกคน แต่ในอีกด้านหนึ่ง กลับเป็นอุตสาหกรรมที่พึ่งพาเทคโนโลยีน้อย ประสิทธิภาพการจัดการต่ำ และถูกจัดอยู่ในกลุ่มบริการแบบดั้งเดิมมานาน
.
ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ความสามารถในการแข่งขันของโรงเรียนสอนขับรถแทบไม่เปลี่ยน ปัจจัยหลักยังวนอยู่กับที่ดิน ใบอนุญาต จำนวนครูฝึก และการแข่งขันด้านราคา
.
โมเดลเดิมพึ่งแรงงานเป็นหลัก ต้นทุนเพิ่มตามจำนวนคน ขณะที่คุณภาพและความปลอดภัยกลับควบคุมได้ยาก เมื่อจำนวนผู้เรียนเริ่มหดตัวลงจากจำนวนประชากรที่ลดลง และคนในสังคมตระหนักถึงปัญหาความปลอดภัยมากขึ้นบวกกับกำไรถูกบั่นทอนจากสงครามราคา ปัญหาเชิงโครงสร้างของธุรกิจนี้จึงยิ่งชัดเจน
.
อุตสาหกรรมสอนขับรถจึงถูกบีบให้เผชิญกับปัญหาเรื่อง “วิธีการผลิต” ที่หากไม่มีการปรับตัวก็ทำให้ธุรกิจนี้แทบไม่มีอนาคต และวันนี้ AI กำลังเข้ามาเขียนตรรกะใหม่ ไม่ใช่แค่ช่วยสอน แต่เริ่มแทนที่แรงงาน ปรับโครงสร้างต้นทุน และเขย่าโครงสร้างองค์กรเร็วกว่าที่หลายคนคาดคิด
.
■เริ่มก่อนได้เปรียบ
.
Eastern Pioneer (东方时尚) โรงเรียนสอนขับรถชื่อดังในปักกิ่ง เริ่มใช้รถฝึกที่ติดตั้งระบบครูฝึก AI มาตั้งแต่ปี 2019 ปัจจุบันมีรถฝึกขับประเภทนี้มากกว่า 800 คัน ผลลัพธ์คือจำนวนครูฝึกลดจาก 870 คน เหลือเพียงราว 30 คน ประหยัดต้นทุนแรงงานได้ประมาณ 120 ล้านหยวน (ราว 539 ล้านบาท) ต่อปี
.
สำหรับผู้ประกอบการ สิ่งที่พวกเขาสนใจไม่ใช่เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่คือเรื่องของการกำไรเพิ่ม จากเดิมที่ “รถ-คน-ที่ดิน” คือสามต้นทุนหลัก แต่วันนี้รถเปลี่ยนเป็นรถพลังงานใหม่ ครูฝึกบางส่วนถูกแปลงให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ขณะที่อัตราการใช้ประโยชน์จากสนามฝึกก็เพิ่มขึ้น
.
กรณีของ Changzheng Driving School (长征驾校) ในเหอเป่ยยิ่งชัดเจน เพราะหลังเปลี่ยนผ่านเต็มรูปแบบในกลางปี 2025 ต้นทุนการฝึกขับรถต่อคนลดลงถึง 90% ครูหนึ่งคนดูแลรถจาก 1 คันเป็น 5 คัน ต้นทุนการดำเนินงานลดลง 75% จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น 30% และอุบัติเหตุจากการเรียนแทบเป็นศูนย์
.
ทั้งสองสถาบันข้างต้นใช้ระบบ ROBOCOACH X จากบริษัทEnvision Intelligent (易显智能) และพิสูจน์แล้วว่าผลตอบแทนแรกของความอัจฉริยะไม่ใช่แค่ฟีเจอร์หวือหวา แต่คือโครงสร้างต้นทุนที่เปลี่ยนไปจริงๆ
.
เจ้าของโรงเรียนรายหนึ่งสรุปว่า ระบบนี้ช่วยลดต้นทุนแรงงานได้กว่า 80% ทำให้นักเรียนจ่ายถูกลง และใครเริ่มก่อนย่อมมีโอกาสอยู่รอดมากกว่า
.
■ครูสอนขับรถต่อต้าน AI
.
แน่นอนว่าผู้ประกอบการย่อมรู้สึกพอใจที่ทำกำไรได้มากขึ้น แต่สำหรับครูฝึกขับรถ พวกเขากลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้น จากเดิมที่เป็น “คนหนึ่ง รถหนึ่ง สนามหนึ่ง” วันนี้พวกเขากลับถูก AI แย่งงาน
.
ผู้บริหารโรงเรียนสอนขับรถรายหนึ่งเผยว่า ตอนนี้ครูฝึกจำนวนมากต่อต้านระบบนี้ เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่เข้ามาแย่งอาชีพ คล้ายๆ กับช่วงที่แพลตฟอร์มเรียกรถเพิ่งถือกำเนิด
.
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โรงเรียนบางแห่งเริ่มปรับโครงสร้างรายได้ เปิดให้ครูฝึกมีส่วนแบ่งจากการรับนักเรียน หรือหารายได้เสริมจากแพลตฟอร์มอื่น บทบาทของครูฝึกในช่วงเปลี่ยนผ่านจึงถูกแยกออกเป็นหลายหน้าที่ ทั้งการสอน งานบริการ และการขาย ขณะที่ผู้บริหารบางรายประเมินว่า ภายในราวหนึ่งปีครึ่ง อาจเหลือแรงงานมนุษย์เพียง 20%
.
■เทคโนโลยีไม่น่ากลัวเท่าความเคยชิน
.
หม่าหง ผู้ก่อตั้ง Envision Intelligent กล่าวในงานเปิดตัวระบบ AI ROBOCOACH X ว่า สิ่งที่ฆ่า Kodak ไม่ใช่กล้องดิจิทัล แต่คือการที่บริษัทไม่กล้าทิ้งโมเดลธุรกิจเก่าที่เคยทำเงินได้สบายๆ
.
ในสายตาของเขา อุตสาหกรรมสอนขับรถวันนี้เหมือนการสอบแบบเปิดตำรา ทิศทางนโยบายชัดเจน ได้แก่ รถพลังงานใหม่ ดิจิทัล และออนไลน์ ความต้องการของผู้เรียนก็ชัดเจน จ่ายน้อยลง เดินทางน้อยลง ไม่ถูกดุ และสอบผ่านได้ในครั้งเดียว
.
รถครูฝึก AI จึงไม่ใช่เครื่องโชว์เทคโนโลยี แต่เป็นเครื่องมือในการผลักดันอุตสาหกรรมบริการที่พึ่งแรงงานหนัก ไปสู่โมเดลที่เบากว่า เป็นระบบมากกว่า และควบคุมได้มากกว่า
.
สิ่งที่ Envision Intelligent เสนอจึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือคู่มือโมเดลธุรกิจใหม่ ที่มาพร้อมกับความเสี่ยงและโอกาส โรงเรียนสามารถเริ่มทดลองจากสนามหนึ่งหรือสองแห่ง หรือเลือกรื้อทั้งระบบ เหมือนที่โรงเรียน Changzheng ทำก็ได้
.
■เมื่อรถต้องสอนให้คนขับตัวมันเอง
.
ต้วนกุ้ยเจียง ผู้ก่อตั้งและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ EasySign Intelligence เคยสรุปอย่างเรียบง่ายว่า การให้รถมาสอนคนขับรถ คงเป็นไปไม่ได้ถ้ายังมีแค่ฟังก์ชันชาญฉลาดไม่กี่อย่าง และเราต้องคิดสามเรื่องพื้นฐานให้ชัดก่อน
.
หนึ่ง ต้องสอนให้ขับเป็นจริง โดยถอดประสบการณ์ครูฝึกออกมาเป็นขั้นตอน สอง ต้องปลอดภัย ระบบต้องรักษามาตรฐานเดียวกันได้ตลอดเวลาสาม สนามไม่วุ่นวาย รถ นักเรียน และเส้นทางต้องถูกจัดการจากศูนย์กลางเดียวกัน
.
เพราะความเข้าใจเชิงลึกนี้เอง โรงเรียนอย่าง Changzheng จึงกล้าทดลองสนามไร้ฝึกขับรถคนสอน รวมถึงครูฝึกที่เป็นหุ่นยนต์อย่างจริงจัง
.
■AI เปลี่ยนอุตสาหกรรมนี้อย่างไร
.
หนึ่งคือลดต้นทุนทั้งของโรงเรียนและผู้เรียน สองยกระดับบริการ เพราะครูมีมารตรฐานเดียวกัน และสามารถวัดผล ทบทวน และตรวจสอบได้ สามเปลี่ยนกติกาของธุรกิจ โดยเน้นแข่งกันที่ระบบ ข้อมูล และความสามารถในการดำเนินงาน
.
สิ่งที่โหดร้ายในยุคที่ต้นทุน ประสบการณ์ และความปลอดภัยถูกนิยามใหม่ คือการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่รอให้ทุกคนพร้อม สำหรับโรงเรียนสอนขับรถทุกแห่ง คำถามจึงไม่ใช่ “จะใช้ AI หรือไม่” แต่คือ คุณจะเป็นผู้ปรับตัว หรือถูกคัดออกไป
.
.
📧 ติดต่อเรา Email: info@jeenthainews.com
.
#AI #สอนขับรถ
🤖 เทคนิคเป๊ะกว่าแถมใจดี! ครูสอนขับรถจีนโดน AI แย่งงาน 🚗
.
ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน ธุรกิจโรงเรียนสอนขับรถอยู่ในสถานะกระอักกระอ่วนมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีผู้เรียนมากกว่า 20 ล้านคนต่อปี และเป็นด่านบังคับก่อนการขับขี่รถของแทบทุกคน แต่ในอีกด้านหนึ่ง กลับเป็นอุตสาหกรรมที่พึ่งพาเทคโนโลยีน้อย ประสิทธิภาพการจัดการต่ำ และถูกจัดอยู่ในกลุ่มบริการแบบดั้งเดิมมานาน
.
ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ความสามารถในการแข่งขันของโรงเรียนสอนขับรถแทบไม่เปลี่ยน ปัจจัยหลักยังวนอยู่กับที่ดิน ใบอนุญาต จำนวนครูฝึก และการแข่งขันด้านราคา
.
โมเดลเดิมพึ่งแรงงานเป็นหลัก ต้นทุนเพิ่มตามจำนวนคน ขณะที่คุณภาพและความปลอดภัยกลับควบคุมได้ยาก เมื่อจำนวนผู้เรียนเริ่มหดตัวลงจากจำนวนประชากรที่ลดลง และคนในสังคมตระหนักถึงปัญหาความปลอดภัยมากขึ้นบวกกับกำไรถูกบั่นทอนจากสงครามราคา ปัญหาเชิงโครงสร้างของธุรกิจนี้จึงยิ่งชัดเจน
.
อุตสาหกรรมสอนขับรถจึงถูกบีบให้เผชิญกับปัญหาเรื่อง “วิธีการผลิต” ที่หากไม่มีการปรับตัวก็ทำให้ธุรกิจนี้แทบไม่มีอนาคต และวันนี้ AI กำลังเข้ามาเขียนตรรกะใหม่ ไม่ใช่แค่ช่วยสอน แต่เริ่มแทนที่แรงงาน ปรับโครงสร้างต้นทุน และเขย่าโครงสร้างองค์กรเร็วกว่าที่หลายคนคาดคิด
.
■เริ่มก่อนได้เปรียบ
.
Eastern Pioneer (东方时尚) โรงเรียนสอนขับรถชื่อดังในปักกิ่ง เริ่มใช้รถฝึกที่ติดตั้งระบบครูฝึก AI มาตั้งแต่ปี 2019 ปัจจุบันมีรถฝึกขับประเภทนี้มากกว่า 800 คัน ผลลัพธ์คือจำนวนครูฝึกลดจาก 870 คน เหลือเพียงราว 30 คน ประหยัดต้นทุนแรงงานได้ประมาณ 120 ล้านหยวน (ราว 539 ล้านบาท) ต่อปี
.
สำหรับผู้ประกอบการ สิ่งที่พวกเขาสนใจไม่ใช่เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่คือเรื่องของการกำไรเพิ่ม จากเดิมที่ “รถ-คน-ที่ดิน” คือสามต้นทุนหลัก แต่วันนี้รถเปลี่ยนเป็นรถพลังงานใหม่ ครูฝึกบางส่วนถูกแปลงให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ขณะที่อัตราการใช้ประโยชน์จากสนามฝึกก็เพิ่มขึ้น
.
กรณีของ Changzheng Driving School (长征驾校) ในเหอเป่ยยิ่งชัดเจน เพราะหลังเปลี่ยนผ่านเต็มรูปแบบในกลางปี 2025 ต้นทุนการฝึกขับรถต่อคนลดลงถึง 90% ครูหนึ่งคนดูแลรถจาก 1 คันเป็น 5 คัน ต้นทุนการดำเนินงานลดลง 75% จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น 30% และอุบัติเหตุจากการเรียนแทบเป็นศูนย์
.
ทั้งสองสถาบันข้างต้นใช้ระบบ ROBOCOACH X จากบริษัทEnvision Intelligent (易显智能) และพิสูจน์แล้วว่าผลตอบแทนแรกของความอัจฉริยะไม่ใช่แค่ฟีเจอร์หวือหวา แต่คือโครงสร้างต้นทุนที่เปลี่ยนไปจริงๆ
.
เจ้าของโรงเรียนรายหนึ่งสรุปว่า ระบบนี้ช่วยลดต้นทุนแรงงานได้กว่า 80% ทำให้นักเรียนจ่ายถูกลง และใครเริ่มก่อนย่อมมีโอกาสอยู่รอดมากกว่า
.
■ครูสอนขับรถต่อต้าน AI
.
แน่นอนว่าผู้ประกอบการย่อมรู้สึกพอใจที่ทำกำไรได้มากขึ้น แต่สำหรับครูฝึกขับรถ พวกเขากลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้น จากเดิมที่เป็น “คนหนึ่ง รถหนึ่ง สนามหนึ่ง” วันนี้พวกเขากลับถูก AI แย่งงาน
.
ผู้บริหารโรงเรียนสอนขับรถรายหนึ่งเผยว่า ตอนนี้ครูฝึกจำนวนมากต่อต้านระบบนี้ เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่เข้ามาแย่งอาชีพ คล้ายๆ กับช่วงที่แพลตฟอร์มเรียกรถเพิ่งถือกำเนิด
.
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โรงเรียนบางแห่งเริ่มปรับโครงสร้างรายได้ เปิดให้ครูฝึกมีส่วนแบ่งจากการรับนักเรียน หรือหารายได้เสริมจากแพลตฟอร์มอื่น บทบาทของครูฝึกในช่วงเปลี่ยนผ่านจึงถูกแยกออกเป็นหลายหน้าที่ ทั้งการสอน งานบริการ และการขาย ขณะที่ผู้บริหารบางรายประเมินว่า ภายในราวหนึ่งปีครึ่ง อาจเหลือแรงงานมนุษย์เพียง 20%
.
■เทคโนโลยีไม่น่ากลัวเท่าความเคยชิน
.
หม่าหง ผู้ก่อตั้ง Envision Intelligent กล่าวในงานเปิดตัวระบบ AI ROBOCOACH X ว่า สิ่งที่ฆ่า Kodak ไม่ใช่กล้องดิจิทัล แต่คือการที่บริษัทไม่กล้าทิ้งโมเดลธุรกิจเก่าที่เคยทำเงินได้สบายๆ
.
ในสายตาของเขา อุตสาหกรรมสอนขับรถวันนี้เหมือนการสอบแบบเปิดตำรา ทิศทางนโยบายชัดเจน ได้แก่ รถพลังงานใหม่ ดิจิทัล และออนไลน์ ความต้องการของผู้เรียนก็ชัดเจน จ่ายน้อยลง เดินทางน้อยลง ไม่ถูกดุ และสอบผ่านได้ในครั้งเดียว
.
รถครูฝึก AI จึงไม่ใช่เครื่องโชว์เทคโนโลยี แต่เป็นเครื่องมือในการผลักดันอุตสาหกรรมบริการที่พึ่งแรงงานหนัก ไปสู่โมเดลที่เบากว่า เป็นระบบมากกว่า และควบคุมได้มากกว่า
.
สิ่งที่ Envision Intelligent เสนอจึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือคู่มือโมเดลธุรกิจใหม่ ที่มาพร้อมกับความเสี่ยงและโอกาส โรงเรียนสามารถเริ่มทดลองจากสนามหนึ่งหรือสองแห่ง หรือเลือกรื้อทั้งระบบ เหมือนที่โรงเรียน Changzheng ทำก็ได้
.
■เมื่อรถต้องสอนให้คนขับตัวมันเอง
.
ต้วนกุ้ยเจียง ผู้ก่อตั้งและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ EasySign Intelligence เคยสรุปอย่างเรียบง่ายว่า การให้รถมาสอนคนขับรถ คงเป็นไปไม่ได้ถ้ายังมีแค่ฟังก์ชันชาญฉลาดไม่กี่อย่าง และเราต้องคิดสามเรื่องพื้นฐานให้ชัดก่อน
.
หนึ่ง ต้องสอนให้ขับเป็นจริง โดยถอดประสบการณ์ครูฝึกออกมาเป็นขั้นตอน สอง ต้องปลอดภัย ระบบต้องรักษามาตรฐานเดียวกันได้ตลอดเวลาสาม สนามไม่วุ่นวาย รถ นักเรียน และเส้นทางต้องถูกจัดการจากศูนย์กลางเดียวกัน
.
เพราะความเข้าใจเชิงลึกนี้เอง โรงเรียนอย่าง Changzheng จึงกล้าทดลองสนามไร้ฝึกขับรถคนสอน รวมถึงครูฝึกที่เป็นหุ่นยนต์อย่างจริงจัง
.
■AI เปลี่ยนอุตสาหกรรมนี้อย่างไร
.
หนึ่งคือลดต้นทุนทั้งของโรงเรียนและผู้เรียน สองยกระดับบริการ เพราะครูมีมารตรฐานเดียวกัน และสามารถวัดผล ทบทวน และตรวจสอบได้ สามเปลี่ยนกติกาของธุรกิจ โดยเน้นแข่งกันที่ระบบ ข้อมูล และความสามารถในการดำเนินงาน
.
สิ่งที่โหดร้ายในยุคที่ต้นทุน ประสบการณ์ และความปลอดภัยถูกนิยามใหม่ คือการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่รอให้ทุกคนพร้อม สำหรับโรงเรียนสอนขับรถทุกแห่ง คำถามจึงไม่ใช่ “จะใช้ AI หรือไม่” แต่คือ คุณจะเป็นผู้ปรับตัว หรือถูกคัดออกไป
.
.
📧 ติดต่อเรา Email: info@jeenthainews.com
.
#AI #สอนขับรถ