💥 ในยุคกลางที่ยังไม่มีแปรงสีฟัน น้ำหอม น้ำยาดับกลิ่นกาย และกระดาษชำระก็มีน้อยมาก

💥 ในยุคกลางที่ยังไม่มีแปรงสีฟัน น้ำหอม น้ำยาดับกลิ่นกาย และกระดาษชำระก็มีน้อยมาก

และในวังที่โอ่อ่าที่สุดในยุคนั้นจะมีคนอาศัยอยู่ระหว่าง 3,000 ถึง 10,000 คนและไม่มีห้องน้ำ อุจจาระของมนุษย์จะถูกโยนลงมาจากหน้าต่างของพระราชวัง ผู้คนในสมัยนั้นจะคอยสะบัดเสื้อผ้า คำอธิบายไม่ได้อยู่ที่เพราะความร้อน แต่เป็นเพราะต้องการระบายกลิ่นเหม็นที่พวกเขาหายใจออกมาและกลิ่นใต้กระโปรง (ตั้งใจทำเพื่อไล่กลิ่นของอวัยวะเพศเนื่องจากไม่มีสุขอนามัยที่ดี) นอกจากนี้ยังไม่นิยมที่จะอาบน้ำเนื่องจากความหนาวเย็นและไม่มีน้ำประปา จะมีก็เพียงขุนนางเท่านั้นที่มีขี้ข้าคอยปัดเป่า
กลิ่นเหม็นที่ตัวและปากที่พ่นออกมา รวมทั้งไล่แมลงด้วย

นอกจากนี้ในการแต่งงานส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน เหตุผลง่ายๆคือ ฝนแรกของปีจะตกในเดือนพฤษภาคมและจะชะล้างสิ่งสกปรกออกไปบางส่วน จากนั้นในเดือนมิถุนายนกลิ่นของผู้คนและสิ่งปฎิกูลก็จะเบาบางลง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีกลิ่นเริ่มรบกวน พวกเจ้าสาวจึงถือช่อดอกไม้ไว้ใกล้อวัยวะเพศเพื่อปกปิดกลิ่นเหม็น จึงเป็นที่มาของช่อดอกไม้เจ้าสาว ส่วนเรื่องของการอาบน้ำก็จะอาบในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำร้อน หัวหน้าครอบครัวจะได้รับสิทธิพิเศษในการอาบน้ำเป็นคนแรก คนที่เหลือก็จะอาบตามมา (โดยไม่ต้องเปลี่ยนน้ำ) คือ ผู้หญิงและเด็ก ทารกจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้อาบ

#สาระความรู้ทั่วโลก
#เรื่องราวที่น่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่