สำหรับคนที่วางแผนซื้อกองทุนลดหย่อน TESG หรือ TESGX ต้องเข้าใจก่อนว่า…

✅ สำหรับคนที่วางแผนซื้อกองทุนลดหย่อน TESG หรือ TESGX ต้องเข้าใจก่อนว่า สินทรัพย์ที่กองทุนลดหย่อนกลุ่มนี้ลงทุนมีอยู่หลักๆ สองแบบ

1 ตราสารหนี้ไทย
2 หุ้นไทย

โดยทั้งหมดต้องได้คะแนน ESG อยู่ในเกณฑ์ดี นั่นหมายความว่า ถ้าไม่อยากดอย เราต้องเข้าใจแนวโน้มหุ้น + ตราสารหนี้ และไม่ใช่แนวโน้มรายวัน แต่เป็นแนวโน้มระยะ 5 ปี เพราะเราต้องถือยาวถึง 5 ปี ถึงจะขายได้

👉🏻  แล้วแนวโน้มปี 2026 เป็นอย่างไร?

📍 หุ้นไทย
• ราคาตลาดลงมามากแล้ว ที่จุดนี้หุ้นใหญ่ๆ สามารถให้ปันผล 4-6% โดยที่ Downside จำกัด จะชนะเยอะไหมไม่รู้ แต่แพ้ยาก
• แต่ถ้าจะลงทุน อาจจะต้องหลับตาข้างนึง เพราะตัวเลขเศรษฐกิจปีหน้าและปีถัดๆ ไปอาจจะโตต่ำ
• ภาพที่หวังไว้คือใน 5 ปีข้างหน้า ธนาคารกลางหลายประเทศลดดอกเบี้ย Fund flow ไหลเข้า แต่อาจจะขึ้นไม่หวือหวาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจกดดันหนักมาก (หนี้ครัวเรือน + ไม่มีธุรกิจใหม่)

📍 ตราสารหนี้
• ตราสารหนี้ภาครัฐ 10 ปี Yield อยู่ที่ราวๆ 1.65% แต่เมื่อ Bond Yield (ผลตอบแทน) พุ่งสูงขึ้น ราคา ของตราสารหนี้จะลดลง แปลว่าถ้าอยากได้ราคาดี ควรรอให้ Yield สูงกว่านี้
• แต่แนวโน้ม Yield ระยะยาว น่าจะขึ้นยากแล้ว จากการที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% เหลือ 1.00% และอาจจะลดลงอีก เพราะเศรษฐกิจโตช้า + บาทแข็ง ตรงนี้อาจเป็นแนวทยอยสะสม หรือรอซื้อที่แนวรับเดิมแถว 1.8%
• ส่วนหุ้นกู้เอกชน แม้ว่าความเสี่ยงหุ้นกู้เอกชนไทยผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้น แต่ตราสาร ESG ถือว่าปลอดภัยกว่าถ้าจะถือยาว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่