แชร์ความทรงจำ " โลมาน้อย " สมัยเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมปลาย " รักแรกพบ มีจริงเมื่อเจอเธอ " (เรื่องเล่าน่ารักๆ)

01  วันเปิดเทอมวันแรก

               สวัสดีเราชื่อโลมาน้อย นามสมมติของเราเองนะคะ เราเป็นเด็กบ้านนอกที่บ้านอยู่ห่างจากตัวเมืองเกือบๆ 60 โลได้ เราสอบแข่งขันเข้ามาเรียนในโรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนสตรีล้วน  วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของเรา เราสอบเข้ามาเรียนต่อตอนมัธยมศึกษาปีที่ 4
อือ เราขอท้าวความไปตอนวันปฐมนิเทศก่อนเลยละกัน  ย้อนกลับไปวันแรกที่ได้เข้ามาโรงเรียนนี่เป็นวันปฐมนิเทศนักเรียนทั้งม.ต้น และ ม. ปลาย  วันนี้เราบอกเลยว่า ตื่นเต้นมากๆ ด้วยความที่เราเองเรียนโรงเรียนเล็กๆมาตั้งแต่เด็ก พอเราได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนประจำจังหวัดแบบนี้ บอกเลยว่าที่นี่  ดีมากๆ ทั้งคุณครู เพื่อนๆ น้องๆ และ รุ่นพี่ ทุกคนแลดูเป็นเด็กที่เรียนเก่งๆกันหมดเลย แฮะๆ( ไอ่เราก็โง่ซะด้วยสิ จะรอดมั้ยเนี่ย ) แต่ช่างมันๆก่อนละกัน  ไม่ลองก็คงไม่รู้ ในระหว่างที่เรานั่งรอประกอบพิธีอยู่นั่น  เราก็ได้หันไปเห็นรุ่นพี่คนนึง  ตากลม ผมสั้น ตัวเล็ก ขาว โอ็ย!!! พี่เขาน่ารักมากๆ  ดูแล้วน่าจะเป็นกลุ่มประธานนักเรียน ตอนที่เราเห็นพี่เขาครั้งแรก เรารู้ตัวเองเลยว่าชอบพี่เขามากๆไม่รู้ทำไมเหมือนกัน รู้สึกเหมือนรักแรกพบอะไรอย่างงั้นเลย  ในตอนนั้นเราได้แต่คิดในใจว่าอยากรู้จักจัง  >< แต่ก็ไม่รู้จะเข้าไปทำความรู้จักยังไงดี  ก็เลยปล่อยไปก่อน หลังจากนั่นก็ทำพิธีจนเสร็จและนักเรียนและผู้ปกครองก็ต่างแยกย้ายกันไปที่ห้องเรียนเพื่อพบครูประจำชั้น และเราก็เลยเดินไปดูห้องเรียนของตัวเอง  ในวันแรกเรายังไม่รู้จักใครแค่เข้าไปรายงานตัวเสร็จและต่างก็แยกย้ายกลับบ้านกันเลย  ในวันนี้จึงผ่านไปแบบเรียบไม่มีอะไรมาก แต่มีโมเม้น

_________________________________________________________________________________________________________


02 เริ่มชอบ

         และแล้ววันที่ได้เรียนวันแรกจริงๅก็มาถึง  เด็กนักเรียนหลายคนต่างดีใจตื่นเต้นที่จะได้มาเจอเพื่อนๆ  แต่ไอ้เรานี่สิ มาวันแรกไม่รู้จักใครสักคน  แอบกลัวแฮะว่าจะอยู่ได้มั้ย  ในวันนี้เราก็ไปเข้าแถวเคารพธงชาติตามปกติ   แต่สิ่งที่ไม่ปกติก็คือเราได้เจอกับพี่คนนั้นอีกแล้ว  งื่อออ น่ารักจัง  พี่เขาทำเป็นสภานักเรียน และเราเห็นเขาเล่นดนตรีของวงโยด้วย  (ว้าวว เด็กกิจกรรมของแท้ อยากรู้จังว่าเขาชื่ออะไรต้องสืบแล้วหละ ) เรารู้สึกว่าเราใจเต้นที่ได้เจอพี่เขา ทั้งๆที่เพิ่งเจอเขาแค่2 ครั้ง มันแปลก แปลกมากๆที่เรารู้สึกแบบนี้  เราว่า การเรียนอยู่ที่นี่อีก 3 ปี มันไม่ง่ายสำหรับเราแล้วสิ  เราได้แต่คิดในใจ  หลังจากนั้น  พอเข้าแถวเสร็จ เราก็แยกย้ายกันเข้าไปยังห้องเรียนของแต่ละระดับชั้น ห้องเราอยู่อาคาร 1 หลังเสาธงและอยู่ชั้น1  ข้างห้องปกครองและห้องสภานักเรียน  ในห้องเราได้เจอเพื่อนเยอะมาก และเพื่อนที่อยู่กลุ่มเราก็ 7 คน  วันนี้เป็นวันเรียนวันแรกเลยไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนมากจะได้โฮมรูมซะมากกว่า คุณครูก็จะให้พวกเราทำความรู้จักกันไปก่อนเพราะพวกเราต้องเรียนด้วยกันอีก 3 ปี  เอาละ เราต้องรอดค่าา 

กลับมาๆ ที่เรื่องของพี่แว่นดีกว่า (ตอนนั้นเราเรียนพี่เขาแบบนี้อ่า น่ารักดี) 

เรื่องราวต่างๆก็เริ่มขึ้น เราได้ไปสืบหาข้อมูลว่าพี่คนนั้นเขาเป็นใคร เรียนห้องไหน อยู่สาขาเอกอะไรและเราก็ได้รู้ว่าพี่เขาชื่อ มิว(นามสมมุติ) เป็นพี่ม.5  เรียนศิลป์-จีน  เป็นสภานักเรียนและเป็นสมาชิก วงโยฯของโรงเรียน เป่าแซ็ก พี่เขาเล่นดนตรีได้หลายอย่าง  เป็นเด็กกิจกรรมตัวแทนโรงเรียนเลยก็ว่าได้ ดีกรีดีไม่เบาเลย  พอถามใครก็มีแต่คนชอบ เอาง่ายๆ เป็นพี่ที่ ฮอตมากคนนึงในโรงเรียนเลย โอ็ยยย ใจชั้นนน   ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียนเราแอบมองพี่เขาตลอดทุกครั้งที่ได้เจอกัน ไม่ว่าจะ ช่วงเดินผ่าน หรือ ตอนพักเที่ยงในโรงอาหาร  เรารู้สึกว่า พี่เขาน่ารักมากๆ เราไม่สามารถละสายตาออกจากพี่เขาได้เลย มีแต่จะชอบมองเขาขึ้นไปเรื่อยๆด้วยซ้ำ

และแล้วก็มีอยู่วันนึง ห้องเราได้เป็นเวรไปยืนพาทำกิจกรรมที่หน้าเสาธง   และเราก็เดินไปยืนแถวหลังกับเพื่อนในระหว่างที่เดินไป ก็ได้เจอพี่มิว ยืนอยู่หน้าเสาธงอยู่แล้วซึ่งเป็นเรื่องปกติของสภานักเรียนที่จะมาดูแลความเรียบร้อย   ระหว่างที่เราทำกิจกรรม อยู่ๆพี่มิวกับเพื่อนก็เดินมาคุม แถวฝั่งเรา และมายืนข้างหลังเรา  โอ็ยตอนนั้นใจสั่นหนักมาก แม่เจ้าโว้ยยย  ร้องเพลงชาติก็ไม่ถูกสวดมนตร์ก็ผิด ชั้นจะบาปมั้ยเนี่ย(ได้แต่คิดในใจแง อดทนไว้อดทนไว้ก่อน  อ๊ากกกกก  ไม่ไหวละโว้ยยยย  น่ารักชะมัดเลยโว้ยยยยยย เราได้แต่คิดในใจและแพ้เสียงในหัวของตัวเองสุดๆ 55555 ) พอหลังจากทำกิจกกรมเสร็จก็นั่งรอ ผอ. ขึ้นกล่าวพูดคุย กับนักเรียน และระหว่างนั่นเอง เราเห็นพี่มิวกับเพื่อนเดินมาใกล้แถวเรา แล้วเราก็ได้ยินพี่มิวกับเพื่อน คุยกันว่า  “  คนนี้น่ารัก  “  แล้วพี่เขาก็ชี้ให้เพื่อนดู  แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าพี่เขาพูดถึงใครเพราะเรานั่งหันหลังให้พี่เขา แต่เราเห็นเงาของมือที่เขาชี้มันมาทางฝั่งที่เรานั่ง  เอาละความมโนเพ้อฝันจึงบังเกิดขึ้นทันที  ไอ้เราที่ชอบเขาอยู่แล้วก็คิดไปไกลเลยที่นี้ อยากให้เป็นเราซะมัดแต่ก็คงไม่ใช่  เอาจริง  ตอนนั้นมันรู้สึกดีมากเลย ได้อยู่ใกล้ มันฟิลแบบ เราเจอคนที่แอบชอบมายืนใกล้ๆ แล้วหัวใจพองโตอ่า  งื่อออ  ไอ้บ้าเอ้ย จะน่ารักไปถึงไหนเนี่ยยย  และหลังจากท่านผอพูดจบนักเรียนทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าห้องเรียนตามปกติ

__________________________________________________________________________________________________________

03  ห้องเรียน ม.4/4

       ในห้องเรียนคาบแรกกับวิชาคณิตศาตสร์เป็นวิชาที่เราไม่ชอบมากๆ เพราะมันทั้งยากและปวดหัว  แต่เราก็เลือกมาเรียนสายนี้ ไอ้เราก็งงตัวเองอยู่เหมือนกันแฮะมาเรียนสายนี้ทำไมก่อนนนน !!!  ระหว่างที่เราเรียนอยู่นั้นเราก็เห็นคนนึงเดินผ่านห้องเราเราจำได้ดีว่าเขาคือใคร  พี่มิวของเราเองด้วยความที่ประตูห้องเรียนเรามันเป็นประตูกระจกบานใสเลยสามารถมองเห็นข้างนอกห้องได้  ไอ้เราก็จ้องพี่เขาไม่กระพริบตาแล้วมีจังหวะนึงเราทั้งสองก็สบตากันผ่านประตูกระจกบานใหญ่  แบบพี่เขาเองก็มองเข้ามาในห้องเรา แบบไม่ได้ตั้งใจจะมองเรานะมันบังเอิญจริงๆๆๆ  แค่มองผ่านๆ แต่ใจเราตอนนั้นมันเต้นรัวหน้าแดง  ดีใจที่ได้เจอกันและเราก็ได้รู้ว่า  พี่เขาจะมาห้องสภาทุกวันหลังทานข้าวเที่ยง   วุ้ย!  อย่างงี้ก็คงได้เจอกันทุกวันเลยนะสิ  (ดีใจซะมัด) พอเรามานั่งคิดกับตัวเองเราว่าเราชอบพี่เขาจริงๆแล้วล่ะ   และเราก็เล่าเรื่องนี้ให้มิ้น(นามสมมุติ) เพื่อนเราฟัง   ความโชคดีมิ้นเป็นเด็กเก่าที่นี่และมิ้นรู้จักพี่เขามิ้นเลยช่วยหาเฟส ไอจี และไลน์ให้  เราก็แอดไปทุกอย่างนะ แต่ก็ไม่กล้าทักไปได้แต่เข้าไปส่องดูเฉยๆ แล้วอีกอย่างนึงเราก็ได้รู้ว่าตอนนั้นพี่เขาก็มีแฟนอยู่แล้วด้วย รู้สึกดาวน์แปลกๆเลยแฮะ 😔

การมาเรียนที่นี่ของเราก็ดำเนินไปเรื่อยๆแปบๆ เราก็เรียนที่นี่ได้ 3 เดือนกว่าๆ แล้วเราเองต้องปรับตัวกับที่นี่เยอะมาก เพราะการเรียนการสอนของที่นี่มันยากกว่าที่ๆเราเรียนมาเยอะมาก เราตามคนอื่นไม่ค่อยทันเลยต้องพยายามกว่าคนอื่นดีหน่อยที่เรามีเพื่อนคอยช่วยด้วยเลยผ่านมาได้  ต้องขอบคุณเพื่อนๆจริงๆนะ เนี่ย  ที่แบกเด็กกระโปรกคนนี้ได้ 


กลับเข้ามาที่เรื่องของเรากันต่อดีกว่า  วันนี้เป็นวันที่โรงเรียนของเรามีการจัดขบวนแห่ กฐินสามัคคี  ซึ่งเป็นประเพณีของทางอีสานบ้านเรา อ่อเราก็ลืมบอกเลยว่าเราเป็นคนอีสาน ประเพณีนี้เป็นการหาเงินเพื่อนำไปทำบุญในนามของโรงเรียน พี่ๆน้องๆ และอาจารย์ ต่างสนุกสนานกับการแห่มาก  เราเองดูแล้วก็ยิ้มไม่หุบภาพบรรยากาศเป็นกันเองสนุกสนาน  วันนั้นเราออกไปดูการแห่ที่หน้าเสาธงและได้หันไปสบตากับใครบางคนที่ยื่นอยู่ในขบวนนั้น  ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นั่นคือ พี่มิว นั่นเอง เรารู้สึกว่า พี่เขาเองก็มองมาที่เราด้วยเพราะเราหันไปมองเขาแล้วสายตาเราก็ปะทะสบตากันพอดี แม่เจ้าโว้ยยยย  เลือดมโนมันพุ้เลยค่าาา ในตอนนั้นมันทำให้เรารู้สึก เขินแปลกๆ  แอบเข้าข้างตัวเองว่าเขามองเราแหละเนาะ จริงๆก็มองแหละ เออมองๆๆ 5555  คนเราเวลาถูกมองหรือ ถูกจ้องมักจะมีสัมผัสที่สามารถรับรู้ได้  ซึ่งในตอนนั้นเรารู้สึกอย่างงั้นจริงๆ  มันทำให้เรา ใจสั่นหนักมาก และหน้าแดงไปหมด  เราสู้สายตาพี่เขาไม่ไหว เราเลยกลับเข้าห้องเรียนไป  เพื่อสงบตัวเองและบอกกับตัวเองว่าไม่ใช่หรอก เขาไม่ได้มองเราหรอกมั้ง  แต่ในใจมันแบบ  กริ้ดดดดดด เขามองชั้น  เขามองชั้นค่า  หัวใจจะละลายแล้วโว้ยยยยยยยยยย   สภาพพพ  ตุยยย หมดสภาพ เรียนไม่รู้เรื่องเลยณ บัดนั้นไป   และวันนั้นก็ดำเนินผ่านไปแบบบแฮปปี้สุดๆ

________________________________________________________________________________________________________

04 : ความบังเอิญ 

ตลอดระยะเวลาที่เราเรียนอยู่ม.4  มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเยอะมากๆกับพี่มิว  ไม่ว่าเป็นเดินผ่านกันแล้วพี่เขาแอบยิ้ม อยู่ดีดีพี่มิวก็มานั่งอยู่หน้าห้องในตำแหน่งที่เรามองเห็นพอดี  และเดินมาหน้าห้องมองผ่านกระจกเข้ามาดูในห้อง โดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่ามองหาอะไร แต่เราว่าดี ทำดีมากเพราะเราเองก็ชอบมองพี่เขาเหมือนกัน  และหลายๆครั้งที่เราเจอกันในบริเวณโรงเรียนเรามักจะสบตากันทุกครั้ง จนทำให้เราเองก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่เขาก็มองเราอยู่ หรือพี่เขาเองก็จะเริ่มสนใจว่าเราคือใครบ้างแล้วน้าา   แต่เราเองก็คอยแอบมองพี่เขาเพื่อทำให้พี่เขารู้พี่เขาเห็นอยู่เหมือนกันนะว่ามีคนมองมีคนสนใจอยู่ทางนี้  แต่พี่เขาก็มีแฟนเปลี่ยนไปหลายคนมากๆ  บางครั้งเราเองก็เศร้านะ  มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก  ก็เราชอบเขาแต่เขาดันมีแฟนแล้ว  ไม่มีสิทธิ์อะไรเลยในตัวพี่เขา  บางทีเราก็เคยคิดว่า จะเลิกชอบดีมั้ย  แต่มันก็ทำไม่ได้สักที ก็คนมันชอบไปแล้วนิเนาะจะให้ทำยังไง  ทุกครั้งที่เราเจอปัญหาหรือเจอพี่เขาเราจะมักคุยกับมิ้นเพราะมิ้นเป็นคนเดียวในตอนนั้นที่รู้ว่าเราชอบพี่มิว
ณ ตอนนนั้น   และมิ้นจะคอยช่วยเราตลอด    

มีอยู่วันนึง ตอนจะกลับบ้าน เราเดินออกไปซื้อของกินข้างนอก  เพื่อรอรถมารับระหว่างที่เดินเราเจอพี่มิวเดินมากับเพื่อนพี่เขาและในจังหวะที่เราเดินสวนกัน อยู่ๆพี่มิวก็พูดออกมากับเพื่อนว่า  “ ชอบแบบนี้ “  แล้วทำท่าชี้มาที่แถวๆเรา  คือ เราไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองแต่เราอดคิดไม่ได้ก็เพราะ จังหวะนั้นมันมีแค่เรากับพี่มิวและเพื่อนพี่เขาเดินสวนกันมาเท่านั้น และเราก็หันหลังกลับไปมองพี่เขา ในจังหวะนั้นเราเห็นพวกพี่ๆเขา หันกลับมามองเราเช่นกัน  มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า คำๆนั้นที่พี่เขาคุยกับเพื่อน มันหมายถึงเราหรือป่าวนะ  เราว่าตอนนั้นเรามโนมากๆ  มันไม่น่าจะเป็นไปได้  แต่มันอดคิดไม่ได้จริงๆ และหลังจากเหตุการนั้น มันก็ทำให้เรารู้สึกดีมากๆ จนมันทำให้เรารู้สึกว่าเรามีความหวัง  หวังว่าพี่เขาจะมองเราและชอบเราเหมือนกัน  

ทุกสิ่งทุกอย่างถูกดำเนินไปเรื่อยๆ  ในระหว่างนี้ก็มีเหตุการเกิดขึ้นมากมายกับเราและพี่เขา บางทีเราสองคนก็เจอกันบ่อยมากขึ้นได้สบตากันมากขึ้นในหลายๆครั้งที่เจอกัน  เราเคยเข้าไปส่องในไอจีพี่เขา มันจะมีอยู่โพสต์นึงที่พี่เขาเขียนแคปชั่นไว้เป็นเนื้อเพลง  “ขัดใจ “ ตรงท่องฮุก  และมี#kmcknw.  เราเป็นพวกชอบมโนอะเนาะ  และพอเราเห็นโพสต์นี้มันทำให้เราใจเต้น  เพราะเราชื่อ  kanokwan  ย่อคือ knw ส่วนพี่เขา ชื่อตามชื่อย่อเป็น kmc. ซึ่ง m. คือชื่อเล่นของพี่เขา เราไม่อยากบอกชื่อจริงของพี่เขาแต่เราจำชื่อพี่เขาได้ขึ้นใจ^^ นั่นแหละ  ณ จุดนั้นเราขอเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนละกัน 55555 ในวันนั้นมันปลื้มปริ่มเอามากๆ ดีไปหมด หลงสุดๆ

________________________________________________________________________________________________________
เดี๋ยวมาลงตอนจบให้น้าาา

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่