สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปครับ
ถ้าย้อนเวลากลับไปสัก 10 ปีก่อน เวลาเราพูดถึง "เซินเจิ้น" (Shenzhen) ภาพในหัวของพวกเราส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นแหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ราคาถูก หรือของก๊อปเกรดเอใช่ไหมครับ แต่ถ้าใครยังมีภาพจำแบบนั้นอยู่ ผมอยากจะบอกว่าเราอาจจะต้อง "ล้างข้อมูล" ในหัวใหม่ทั้งหมดเลย
เพราะเซินเจิ้นในวันนี้ (ปี 2025) ได้ลอกคราบตัวเองจนกลายเป็น "Silicon Valley แห่งเอเชีย" อย่างสมบูรณ์แบบ และกำลังทะยานสู่การเป็น AI Hub ของโลก ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่เน้น "คิดเอง ทำเอง ใช้เอง" ผมเลยอยากมาชวนคุยเรื่องนี้ เพราะมันมีนัยสำคัญต่อธุรกิจไทยเรามากครับ
..................................................
1. วิกฤตสร้างวีรบุรุษ: เมื่อโดนบีบ จึงต้อง "สู้" จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้จีนวิ่งเร็วขนาดนี้ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณสงครามการค้าและเทคโนโลยี (Trade & Tech War) ครับ การถูกกีดกันชิปเซ็ตและการคว่ำบาตร กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้จีนตระหนักว่า "ยืมจมูกคนอื่นหายใจ ไม่รอดแน่" จีนจึงทุ่มหมดหน้าตักเพื่อสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
2. สี่เสาหลักผู้แบกรับอนาคต การเปลี่ยนแปลงนี้ขับเคลื่อนโดยยักษ์ใหญ่ที่ปรับตัวได้น่ากลัวมากครับ:
Huawei: นักสู้ผู้ไม่ยอมตาย แม้จะโดนหนักที่สุด แต่กลับสร้าง R&D Campus มหึมา เพื่อระดมสมองวิศวกรสร้างระบบนิเวศของตัวเอง
BYD: ไม่ใช่แค่นักประกอบรถ แต่คือเจ้าของเทคโนโลยี Battery และสิทธิบัตรกว่า 40,000 ฉบับ ทำให้คุมต้นทุนได้เบ็ดเสร็จ
Tencent & WeBank: เปลี่ยนจาก B2C สู่การวางโครงสร้างพื้นฐาน Cloud และ AI ให้ธุรกิจจีน
DeepSeek: ความหวังใหม่แห่ง AI จีน ที่ประสิทธิภาพสูสี ChatGPT แต่ต้นทุนถูกกว่ามาก แถมเป็น Open Source
..................................................
3. China Speed: เร็วกว่าโลก 3 เท่า สิ่งที่น่ากลัวกว่ายักษ์ใหญ่ คือ "กองทัพมดงาน" รัฐบาลจีนปั้น Ecosystem ประเคนให้ทั้งเงิน ทุน ที่ปรึกษา และสนามทดลองจริง ผลลัพธ์คือ นวัตกรรมที่นี่พัฒนาเสร็จใน 1 ปี ในขณะที่มาตรฐานโลกอาจใช้เวลาถึง 3 ปี นี่คือความเร็วระดับ "China Speed" ของจริง
4. ชีวิตที่ล้ำหน้ากว่านิยาย Sci-Fi คนเซินเจิ้นวันนี้ใช้ชีวิตแบบ Beyond Cashless ที่น่าสนใจคือกระแส
Guochao (กั๋วเฉา) หรือความภูมิใจในแบรนด์ชาติ คนรุ่นใหม่เลิกเห่อของนอก หันมาใช้รถ EV จีน ดื่มชาจีน เพราะคุณภาพมันสู้ได้จริง
..................................................
บทสรุปถึงไทย: อย่ากลัว แต่ต้อง "ตื่น" เรื่องราวของเซินเจิ้นคือสัญญาณเตือนครับ คลื่นทุนจีนระลอกใหม่ที่กำลังมา ไม่ได้มาขายของถูกเหมือนก่อน แต่มาพร้อม "Brand" และ "Technology" เราอาจจะต้องเลิกมองจีนด้วยกรอบความคิดเดิมๆ ว่าเป็นของก๊อป และยอมรับความจริงเพื่อเตรียมรับมือ ยกระดับตัวเอง และหาทางเป็น Partner กับเขาให้ได้
เพราะเซินเจิ้นในวันนี้... ไม่ใช่แค่เมือง แต่มันคือ "ห้องทดลองแห่งอนาคต" ที่กำลังบอกเราว่า โลกเปลี่ยนไปแล้วครับ
เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับความเร็วในการพัฒนาของจีนบ้างครับ? หรือใครเคยไปเซินเจิ้นเมื่อเร็วๆ นี้ มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะครับ
................................................
ช่วงนี้ผมตั้งใจอ่านหนังสือและเติมอาหารสมองเยอะขึ้น เจอเรื่องไหนที่เป็นประโยชน์ จะรีบ 'สรุปและย่อย' มาแชร์ให้เพื่อนๆ อ่านกันที่นี่นะครับ
มาเป็นเพื่อนร่วมเรียนรู้ไปด้วยกัน กดติดตามเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลยครับ
เนื้อหานี้คัดมาจาก Facebook ส่วนตัวของผมเองครับ https://www.facebook.com/share/p/1QM78KRuBH/
................................................
นี่คือบทความที่เรียบเรียงจากเนื้อหาวิดีโอ "The Secret Sauce EP.930: บุกเซินเจิ้น จากเมืองของก็อป สู่ศูนย์กลาง AI"
https://tinyurl.com/4h995ce5
จากเมืองของก๊อป... สู่เมืองหลวง AI โลก เจาะลึก "เซินเจิ้น 2025" ภาพจำที่เปลี่ยนไป จนโลกต้องหันกลับมามอง
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปครับ
ถ้าย้อนเวลากลับไปสัก 10 ปีก่อน เวลาเราพูดถึง "เซินเจิ้น" (Shenzhen) ภาพในหัวของพวกเราส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นแหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ราคาถูก หรือของก๊อปเกรดเอใช่ไหมครับ แต่ถ้าใครยังมีภาพจำแบบนั้นอยู่ ผมอยากจะบอกว่าเราอาจจะต้อง "ล้างข้อมูล" ในหัวใหม่ทั้งหมดเลย
เพราะเซินเจิ้นในวันนี้ (ปี 2025) ได้ลอกคราบตัวเองจนกลายเป็น "Silicon Valley แห่งเอเชีย" อย่างสมบูรณ์แบบ และกำลังทะยานสู่การเป็น AI Hub ของโลก ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่เน้น "คิดเอง ทำเอง ใช้เอง" ผมเลยอยากมาชวนคุยเรื่องนี้ เพราะมันมีนัยสำคัญต่อธุรกิจไทยเรามากครับ
..................................................
1. วิกฤตสร้างวีรบุรุษ: เมื่อโดนบีบ จึงต้อง "สู้" จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้จีนวิ่งเร็วขนาดนี้ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณสงครามการค้าและเทคโนโลยี (Trade & Tech War) ครับ การถูกกีดกันชิปเซ็ตและการคว่ำบาตร กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้จีนตระหนักว่า "ยืมจมูกคนอื่นหายใจ ไม่รอดแน่" จีนจึงทุ่มหมดหน้าตักเพื่อสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
2. สี่เสาหลักผู้แบกรับอนาคต การเปลี่ยนแปลงนี้ขับเคลื่อนโดยยักษ์ใหญ่ที่ปรับตัวได้น่ากลัวมากครับ:
Huawei: นักสู้ผู้ไม่ยอมตาย แม้จะโดนหนักที่สุด แต่กลับสร้าง R&D Campus มหึมา เพื่อระดมสมองวิศวกรสร้างระบบนิเวศของตัวเอง
BYD: ไม่ใช่แค่นักประกอบรถ แต่คือเจ้าของเทคโนโลยี Battery และสิทธิบัตรกว่า 40,000 ฉบับ ทำให้คุมต้นทุนได้เบ็ดเสร็จ
Tencent & WeBank: เปลี่ยนจาก B2C สู่การวางโครงสร้างพื้นฐาน Cloud และ AI ให้ธุรกิจจีน
DeepSeek: ความหวังใหม่แห่ง AI จีน ที่ประสิทธิภาพสูสี ChatGPT แต่ต้นทุนถูกกว่ามาก แถมเป็น Open Source
..................................................
3. China Speed: เร็วกว่าโลก 3 เท่า สิ่งที่น่ากลัวกว่ายักษ์ใหญ่ คือ "กองทัพมดงาน" รัฐบาลจีนปั้น Ecosystem ประเคนให้ทั้งเงิน ทุน ที่ปรึกษา และสนามทดลองจริง ผลลัพธ์คือ นวัตกรรมที่นี่พัฒนาเสร็จใน 1 ปี ในขณะที่มาตรฐานโลกอาจใช้เวลาถึง 3 ปี นี่คือความเร็วระดับ "China Speed" ของจริง
4. ชีวิตที่ล้ำหน้ากว่านิยาย Sci-Fi คนเซินเจิ้นวันนี้ใช้ชีวิตแบบ Beyond Cashless ที่น่าสนใจคือกระแส Guochao (กั๋วเฉา) หรือความภูมิใจในแบรนด์ชาติ คนรุ่นใหม่เลิกเห่อของนอก หันมาใช้รถ EV จีน ดื่มชาจีน เพราะคุณภาพมันสู้ได้จริง
..................................................
บทสรุปถึงไทย: อย่ากลัว แต่ต้อง "ตื่น" เรื่องราวของเซินเจิ้นคือสัญญาณเตือนครับ คลื่นทุนจีนระลอกใหม่ที่กำลังมา ไม่ได้มาขายของถูกเหมือนก่อน แต่มาพร้อม "Brand" และ "Technology" เราอาจจะต้องเลิกมองจีนด้วยกรอบความคิดเดิมๆ ว่าเป็นของก๊อป และยอมรับความจริงเพื่อเตรียมรับมือ ยกระดับตัวเอง และหาทางเป็น Partner กับเขาให้ได้
เพราะเซินเจิ้นในวันนี้... ไม่ใช่แค่เมือง แต่มันคือ "ห้องทดลองแห่งอนาคต" ที่กำลังบอกเราว่า โลกเปลี่ยนไปแล้วครับ
เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับความเร็วในการพัฒนาของจีนบ้างครับ? หรือใครเคยไปเซินเจิ้นเมื่อเร็วๆ นี้ มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะครับ
................................................
ช่วงนี้ผมตั้งใจอ่านหนังสือและเติมอาหารสมองเยอะขึ้น เจอเรื่องไหนที่เป็นประโยชน์ จะรีบ 'สรุปและย่อย' มาแชร์ให้เพื่อนๆ อ่านกันที่นี่นะครับ
มาเป็นเพื่อนร่วมเรียนรู้ไปด้วยกัน กดติดตามเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลยครับ
เนื้อหานี้คัดมาจาก Facebook ส่วนตัวของผมเองครับ https://www.facebook.com/share/p/1QM78KRuBH/
................................................
นี่คือบทความที่เรียบเรียงจากเนื้อหาวิดีโอ "The Secret Sauce EP.930: บุกเซินเจิ้น จากเมืองของก็อป สู่ศูนย์กลาง AI" https://tinyurl.com/4h995ce5