TITLE: Carry-On (2024) - ถึงจะชื่อ Carry-On แต่เรื่องนี้มันลุ้นจนแทบจะแบกไม่ไหว!
สวัสดีครับทุกคนชาว Pantip ที่รักการดูหนังดูซีรีส์ทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องใหม่มาเล่าสู่กันฟังครับ เป็นซีรีส์ที่เพิ่งลง Netflix ไปสดๆ ร้อนๆ ชื่อเรื่องว่า "Carry-On" (2024) ครับ เห็นชื่อแล้วก็คิดว่าเอ๊ะ จะเป็นแนวเดินทางสบายๆ หรือเปล่า แต่พอดูไปแล้วนี่มันคนละเรื่องเลยครับ ลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้จริงๆ
เรื่องย่อของ "Carry-On" ก็จะประมาณว่า พระเอกของเราชื่อ อีธาน (Ethan) เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามบินครับ ชีวิตประจำวันก็คงจะวนเวียนอยู่กับการตรวจกระเป๋า สแกนผู้โดยสารอะไรทำนองนั้น แต่แล้ววันหนึ่ง ชีวิตของเขาก็พลิกผัน เมื่อมีชายปริศนาคนหนึ่งพยายามจะส่งของผิดกฎหมายผ่านเข้ามาในเครื่องบินครับ แล้วไม่ใช่แค่ของธรรมดานะครับ มันดูอันตรายมากๆ อีธานของเราก็ดันไปขัดขวางเข้า ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายขององค์กรลับที่อันตรายสุดๆ
สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในเรื่องนี้คือ การเดินเรื่องครับ มันเร็วมากๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องก็ยิงมุกแอ็คชั่นใส่เราไม่ยั้งเลยครับ ไม่ให้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว เหมือนโดนกระชากเข้าไปในเหตุการณ์แบบทันทีทันใด ตัวละครอีธานเองก็เป็นคนธรรมดาที่ต้องมาเจอสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา การที่เขาต้องเอาตัวรอดจากการตามล่าของคนร้ายที่ดูเก่งกาจกว่าหลายขุม ทำให้เราเอาใจช่วยเขามากๆ ครับ รู้สึกอินไปกับความหวาดระแวง ความกดดันที่เขาต้องเจอ
การแสดงของนักแสดงนำก็ถือว่าสอบผ่านครับ พระเอกสามารถถ่ายทอดความกดดัน ความกลัว และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องคนรอบข้างออกมาได้ดีครับ ส่วนตัวร้ายก็ดูน่ากลัว ดูร้ายกาจจริงๆ ทำให้เราเชื่อว่าตัวละครเอกกำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆ ครับ ฉากแอ็คชั่นก็ทำออกมาได้ดีครับ มีความสมจริงพอสมควร ไม่ได้เวอร์วังอลังการเกินไป แต่ก็ตื่นเต้นเร้าใจดีครับ
อีกอย่างที่ประทับใจคือ การสร้างบรรยากาศของเรื่องครับ ถึงแม้จะเป็นซีรีส์ที่เน้นแอ็คชั่น แต่ก็มีการแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตัวละครเข้ามาด้วยครับ ทำให้เราเห็นอีกมุมของอีธาน ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่สนามบินที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่เขายังเป็นคนที่แคร์คนรอบข้าง มีความรู้สึกผิดที่อาจจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตรายไปด้วย
แต่ก็ต้องบอกว่า เรื่องนี้ก็มีจุดที่อาจจะขัดใจบางคนบ้างครับ คือบางฉากอาจจะรู้สึกว่ามันเร็วไปนิดนึง จนบางทีเราอาจจะตามไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น หรือทำไมตัวละครถึงตัดสินใจแบบนั้น แต่โดยรวมแล้ว มันก็ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสในการดูไปมากนักครับ
สำหรับใครที่ชอบแนวแอ็คชั่น ระทึกขวัญ ลุ้นระทึกจนแทบจะกลั้นหายใจ ผมว่า "Carry-On" เป็นอีกเรื่องที่ห้ามพลาดเลยครับ มันเหมาะกับการดูเพื่อคลายเครียด หรือหาอะไรตื่นเต้นๆ ดูในช่วงวันหยุดมากๆ ครับ
ส่วนตัวผมให้คะแนนเรื่องนี้ประมาณ 8/10 ครับ ถือว่าเป็นซีรีส์แอ็คชั่นที่ทำออกมาได้ดี น่าติดตาม และมีอะไรให้ลุ้นตลอดทั้งเรื่องครับ ถ้าใครได้ดูกันแล้ว มาแชร์ความเห็นกันได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าคนอื่นรู้สึกยังไงกันบ้าง
ขอตัวไปหาอะไรกินก่อนนะครับ ดูเรื่องนี้แล้วหิวเลย 555 แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวหน้านะครับ สวัสดีครับ
Carry-On (2024) - ถึงจะชื่อ Carry-On แต่เรื่องนี้มันลุ้นจนแทบจะแบกไม่ไหว!
TITLE: Carry-On (2024) - ถึงจะชื่อ Carry-On แต่เรื่องนี้มันลุ้นจนแทบจะแบกไม่ไหว!
สวัสดีครับทุกคนชาว Pantip ที่รักการดูหนังดูซีรีส์ทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องใหม่มาเล่าสู่กันฟังครับ เป็นซีรีส์ที่เพิ่งลง Netflix ไปสดๆ ร้อนๆ ชื่อเรื่องว่า "Carry-On" (2024) ครับ เห็นชื่อแล้วก็คิดว่าเอ๊ะ จะเป็นแนวเดินทางสบายๆ หรือเปล่า แต่พอดูไปแล้วนี่มันคนละเรื่องเลยครับ ลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้จริงๆ
เรื่องย่อของ "Carry-On" ก็จะประมาณว่า พระเอกของเราชื่อ อีธาน (Ethan) เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามบินครับ ชีวิตประจำวันก็คงจะวนเวียนอยู่กับการตรวจกระเป๋า สแกนผู้โดยสารอะไรทำนองนั้น แต่แล้ววันหนึ่ง ชีวิตของเขาก็พลิกผัน เมื่อมีชายปริศนาคนหนึ่งพยายามจะส่งของผิดกฎหมายผ่านเข้ามาในเครื่องบินครับ แล้วไม่ใช่แค่ของธรรมดานะครับ มันดูอันตรายมากๆ อีธานของเราก็ดันไปขัดขวางเข้า ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายขององค์กรลับที่อันตรายสุดๆ
สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในเรื่องนี้คือ การเดินเรื่องครับ มันเร็วมากๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องก็ยิงมุกแอ็คชั่นใส่เราไม่ยั้งเลยครับ ไม่ให้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว เหมือนโดนกระชากเข้าไปในเหตุการณ์แบบทันทีทันใด ตัวละครอีธานเองก็เป็นคนธรรมดาที่ต้องมาเจอสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา การที่เขาต้องเอาตัวรอดจากการตามล่าของคนร้ายที่ดูเก่งกาจกว่าหลายขุม ทำให้เราเอาใจช่วยเขามากๆ ครับ รู้สึกอินไปกับความหวาดระแวง ความกดดันที่เขาต้องเจอ
การแสดงของนักแสดงนำก็ถือว่าสอบผ่านครับ พระเอกสามารถถ่ายทอดความกดดัน ความกลัว และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องคนรอบข้างออกมาได้ดีครับ ส่วนตัวร้ายก็ดูน่ากลัว ดูร้ายกาจจริงๆ ทำให้เราเชื่อว่าตัวละครเอกกำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆ ครับ ฉากแอ็คชั่นก็ทำออกมาได้ดีครับ มีความสมจริงพอสมควร ไม่ได้เวอร์วังอลังการเกินไป แต่ก็ตื่นเต้นเร้าใจดีครับ
อีกอย่างที่ประทับใจคือ การสร้างบรรยากาศของเรื่องครับ ถึงแม้จะเป็นซีรีส์ที่เน้นแอ็คชั่น แต่ก็มีการแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตัวละครเข้ามาด้วยครับ ทำให้เราเห็นอีกมุมของอีธาน ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่สนามบินที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่เขายังเป็นคนที่แคร์คนรอบข้าง มีความรู้สึกผิดที่อาจจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตรายไปด้วย
แต่ก็ต้องบอกว่า เรื่องนี้ก็มีจุดที่อาจจะขัดใจบางคนบ้างครับ คือบางฉากอาจจะรู้สึกว่ามันเร็วไปนิดนึง จนบางทีเราอาจจะตามไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น หรือทำไมตัวละครถึงตัดสินใจแบบนั้น แต่โดยรวมแล้ว มันก็ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสในการดูไปมากนักครับ
สำหรับใครที่ชอบแนวแอ็คชั่น ระทึกขวัญ ลุ้นระทึกจนแทบจะกลั้นหายใจ ผมว่า "Carry-On" เป็นอีกเรื่องที่ห้ามพลาดเลยครับ มันเหมาะกับการดูเพื่อคลายเครียด หรือหาอะไรตื่นเต้นๆ ดูในช่วงวันหยุดมากๆ ครับ
ส่วนตัวผมให้คะแนนเรื่องนี้ประมาณ 8/10 ครับ ถือว่าเป็นซีรีส์แอ็คชั่นที่ทำออกมาได้ดี น่าติดตาม และมีอะไรให้ลุ้นตลอดทั้งเรื่องครับ ถ้าใครได้ดูกันแล้ว มาแชร์ความเห็นกันได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าคนอื่นรู้สึกยังไงกันบ้าง
ขอตัวไปหาอะไรกินก่อนนะครับ ดูเรื่องนี้แล้วหิวเลย 555 แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวหน้านะครับ สวัสดีครับ