ถาม AI มันยังรู้
เข้าใจเลยครับว่าทำไมคุณถึงรู้สึกแบบนั้น เพราะในความเป็นจริง หลายคนเจอประสบการณ์ "จ่ายเงิน-รับใบ" โดยที่แทบไม่ได้ลุกจากเก้าอี้ไปตรวจอะไรเลย ซึ่งดูเหมือนเป็นการทำตามระเบียบไปงั้นๆ แต่ถ้ามองในแง่ "หลักการทางกฎหมาย" และ "ความรับผิดชอบ" เรื่องนี้มีที่มาที่ไปมากกว่าแค่เรื่องรายได้ครับ
1. ทำไมกฎหมายถึงบังคับให้ใช้ใบรับรองแพทย์?
วัตถุประสงค์หลักไม่ใช่เพื่อตรวจว่าเรา "แข็งแรง" แค่ไหน แต่เพื่อ "คัดกรองโรคที่เป็นอันตรายต่อการขับขี่" ครับ กฎหมายกำหนดให้แพทย์ต้องรับรองว่าคุณไม่เป็น 5 โรคต้องห้าม (โรคเรื้อน, วัณโรคระยะอันตราย, ติดยาเสพติด, โรคพิษสุราเรื้อรัง และโรคเท้าช้าง)
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าในปัจจุบันคือ "โรคลมชัก" หรือโรคทางระบบประสาทที่อาจทำให้วูบขณะขับรถ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกเริ่มเข้มงวดมากขึ้น เพราะอุบัติเหตุใหญ่ๆ หลายครั้งเกิดจากผู้ขับขี่มีโรคประจำตัวกำเริบครับ
2. แพทย์ไม่ได้ตรวจจริง... แล้วเซ็นให้ทำไม?
ตรงนี้คือปัญหาการปฏิบัติ (Practice) ไม่ใช่ที่ตัวกฎหมายครับ
• การซักประวัติคือการตรวจอย่างหนึ่ง: ในทางเทคนิค การที่แพทย์ถามว่า "มีโรคประจำตัวไหม" "เคยชักไหม" แล้วเราเซ็นชื่อรับรองประวัติข้างต้นด้วยตนเอง แพทย์จะถือว่าเรายืนยันข้อมูลนั้น หากเราโกหกแล้วเกิดอุบัติเหตุภายหลัง แพทย์จะใช้ส่วนที่เราเซ็นยืนยันเป็นหลักฐานว่าเราปกปิดข้อมูล
• การสังเกตเชิงคลินิก: แพทย์ที่ชำนาญจะดู "ลักษณะท่าทาง" (General Appearance) ตั้งแต่คุณเดินเข้าห้องมา ดูการทรงตัว การพูดจา สติสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นการตรวจเบื้องต้นว่าคุณไม่ได้อยู่ในสภาวะมึนเมาหรือมีความผิดปกติทางจิต
3. เป็น "ช่องโหว่" เพื่อเพิ่มรายได้ให้แพทย์จริงหรือไม่?
ถ้ามองว่าเป็นช่องทางหาเงิน ก็ปฏิเสธได้ยากว่ามันมีการทำธุรกิจในลักษณะนี้จริง (คลินิกหน้าขนส่งที่ออกใบละ 60-100 บาท)
ทำไมต่อใบขับขี่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ ทั้งๆที่แพทย์ไม่ได้ตรวจร่างกายจริง ช่องโห่วกฏหมายทำให้ แพทย์มีรายได้เพิ่มใช่หรือไม่?
เข้าใจเลยครับว่าทำไมคุณถึงรู้สึกแบบนั้น เพราะในความเป็นจริง หลายคนเจอประสบการณ์ "จ่ายเงิน-รับใบ" โดยที่แทบไม่ได้ลุกจากเก้าอี้ไปตรวจอะไรเลย ซึ่งดูเหมือนเป็นการทำตามระเบียบไปงั้นๆ แต่ถ้ามองในแง่ "หลักการทางกฎหมาย" และ "ความรับผิดชอบ" เรื่องนี้มีที่มาที่ไปมากกว่าแค่เรื่องรายได้ครับ
1. ทำไมกฎหมายถึงบังคับให้ใช้ใบรับรองแพทย์?
วัตถุประสงค์หลักไม่ใช่เพื่อตรวจว่าเรา "แข็งแรง" แค่ไหน แต่เพื่อ "คัดกรองโรคที่เป็นอันตรายต่อการขับขี่" ครับ กฎหมายกำหนดให้แพทย์ต้องรับรองว่าคุณไม่เป็น 5 โรคต้องห้าม (โรคเรื้อน, วัณโรคระยะอันตราย, ติดยาเสพติด, โรคพิษสุราเรื้อรัง และโรคเท้าช้าง)
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าในปัจจุบันคือ "โรคลมชัก" หรือโรคทางระบบประสาทที่อาจทำให้วูบขณะขับรถ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกเริ่มเข้มงวดมากขึ้น เพราะอุบัติเหตุใหญ่ๆ หลายครั้งเกิดจากผู้ขับขี่มีโรคประจำตัวกำเริบครับ
2. แพทย์ไม่ได้ตรวจจริง... แล้วเซ็นให้ทำไม?
ตรงนี้คือปัญหาการปฏิบัติ (Practice) ไม่ใช่ที่ตัวกฎหมายครับ
• การซักประวัติคือการตรวจอย่างหนึ่ง: ในทางเทคนิค การที่แพทย์ถามว่า "มีโรคประจำตัวไหม" "เคยชักไหม" แล้วเราเซ็นชื่อรับรองประวัติข้างต้นด้วยตนเอง แพทย์จะถือว่าเรายืนยันข้อมูลนั้น หากเราโกหกแล้วเกิดอุบัติเหตุภายหลัง แพทย์จะใช้ส่วนที่เราเซ็นยืนยันเป็นหลักฐานว่าเราปกปิดข้อมูล
• การสังเกตเชิงคลินิก: แพทย์ที่ชำนาญจะดู "ลักษณะท่าทาง" (General Appearance) ตั้งแต่คุณเดินเข้าห้องมา ดูการทรงตัว การพูดจา สติสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นการตรวจเบื้องต้นว่าคุณไม่ได้อยู่ในสภาวะมึนเมาหรือมีความผิดปกติทางจิต
3. เป็น "ช่องโหว่" เพื่อเพิ่มรายได้ให้แพทย์จริงหรือไม่?
ถ้ามองว่าเป็นช่องทางหาเงิน ก็ปฏิเสธได้ยากว่ามันมีการทำธุรกิจในลักษณะนี้จริง (คลินิกหน้าขนส่งที่ออกใบละ 60-100 บาท)