ชาตินิยมกับช่วงใกล้เลือกตั้ง (กระทู้เชิงสนทนา วิเคราะห์)

แหล่งที่มา Facebook: ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ Dr. Suvit Maesincee
 
เมื่อ “ชาติ” ถูกปลุกขึ้นมา เพื่อช่วยรัฐบาลหาเสียง?
(แฮร์เดอร์เตือนอะไรเรา ในฤดูกาลเลือกตั้ง)
โยฮันน์ ก็อทฟรีด แฮร์เดอร์ (Johann Gottfried Herder) นักคิดเยอรมันปลายศตวรรษที่ 18 คือผู้วางรากฐานความคิดเรื่อง “ชาติ” ในฐานะชุมชนทางวัฒนธรรม ภาษา ความทรงจำ และศักดิ์ศรีของผู้คน ไม่ใช่ทรัพย์สินของรัฐ และไม่ใช่เครื่องมือของอำนาจการเมือง
 
สำหรับแฮร์เดอร์ ชาติคือสิ่งเปราะบาง เพราะมันเติบโตจากชีวิตของผู้คน ไม่ใช่จากคำสั่งหรือวาทกรรมของรัฐบาล
โยฮันน์ ก็อทฟรีด แฮร์เดอร์ ไม่เคยเสนอให้ “ชาติ” กลายเป็นอาวุธทางการเมือง ตรงกันข้าม เขาเตือนว่า ชาติคือผลรวมของภาษา วัฒนธรรม ความทรงจำ และศักดิ์ศรีของประชาชน—ไม่ใช่ของรัฐบาล
ถ้าแฮร์เดอร์ยังมีชีวิตอยู่ในวันนี้ เขาอาจตกใจที่เห็นว่า คำว่า “ชาติ” ถูกปลุกขึ้นมาดังเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่รัฐบาลเริ่มถูกตั้งคำถาม
 
~ ชาตินิยมของแฮร์เดอร์: ยืนยันตัวตน ไม่ใช่สร้างศัตรู
สำหรับแฮร์เดอร์ ชาตินิยมไม่ใช่การตะโกนว่า “ใครเหนือกว่าใคร” และไม่ใช่การทำให้เพื่อนบ้านกลายเป็นภัยคุกคาม
 
เขาเชื่อว่า
• ทุกชาติมีคุณค่าในแบบของตน
• ความแตกต่างไม่ใช่ภัย แต่คือความมั่งคั่งของมนุษยชาติ
• รัฐไม่มีสิทธิผูกขาดความหมายของคำว่า “ชาติ”
นี่คือชาตินิยมที่ไม่ต้องมีศัตรู ไม่ต้องปลุกความโกรธ และไม่ต้องรอฤดูกาลเลือกตั้ง
 
~ ชาตินิยมแบบรัฐบาล: ปลุกง่าย ใช้เร็ว หมดแล้วทิ้ง
แต่ชาตินิยมที่ปรากฏในช่วงใกล้การเลือกตั้ง มักเป็นคนละเรื่องกับที่แฮร์เดอร์พูดถึง
รูปแบบที่คุ้นเคยคือ
• การยกระดับความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน
• การลดประเด็นซับซ้อนให้เหลือเพียง “เขา vs. เรา”
• การตีกรอบการวิจารณ์รัฐว่าเป็น “ไม่รักชาติ”
ในบริบทของความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา คำถามสำคัญจึงไม่ใช่เพียงเรื่องเขตแดนหรือประวัติศาสตร์ แต่คือ “จังหวะทางการเมือง”
 
~ เหตุใดประเด็นเหล่านี้ จึงถูกขยายเสียงขึ้น ในช่วงที่รัฐบาลต้องการคะแนนนิยม
นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่คือ Game of Power
 
การปลุกกระแสชาตินิยมในช่วงหาเสียง ไม่ใช่ความบังเอิญทางอารมณ์สาธารณะ แต่คือกลยุทธ์คลาสสิกของ game of power
• ทำให้ประชาชนหันไปโกรธศัตรูภายนอก
• ลดแรงกดดันจากปัญหาภายใน
• รวมศูนย์ความภักดีไว้ที่รัฐ
ชาตินิยมแบบนี้ไม่ได้ทำให้ชาติแข็งแรงขึ้น แต่ทำให้รัฐบาลอยู่รอดได้ง่ายขึ้น
 
~ ชาตินิยมแบบ Game of State ที่ไม่ต้องตะโกน
รัฐที่เล่น game of state ไม่จำเป็นต้องยกธง ทุกครั้งที่คะแนนนิยมตก เพราะ
• ศักดิ์ศรีของชาติ มาจากรัฐที่ไม่โกง
• ความมั่นคง มาจากกฎหมายที่ใช้ได้จริง
• ความน่าเชื่อถือ มาจจากการไม่ใช้ชาติเป็นโล่ทางการเมือง
ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน จึงเป็นเรื่องของ “ยุทธศาสตร์การทูต” ที่ผสานกับ“ยุทธศาสตร์การทหาร”อย่างมีจังหวะจะโคน ไม่ใช่เวทีหาเสียง
 
~ แฮร์เดอร์เตือนอะไรเราในฤดูกาลนี้
ชาตินิยมที่แท้ ยกระดับศักดิ์ศรีของประชาชน แต่ชาตินิยมที่ถูกปลุกขึ้นตามฤดูกาล ยกระดับอำนาจของรัฐบาลเพียงชั่วคราว ขณะเดียวกันก็ทิ้งรอยร้าวไว้กับสังคม และความสัมพันธ์ในภูมิภาค
เมื่อรัฐพูดถึงคำว่า “ชาติ” ดังขึ้น ในวันที่ประชาชนเริ่มตั้งคำถาม นั่นไม่ใช่สัญญาณของความเข้มแข็ง แต่คือสัญญาณของความหวาดกลัวทางการเมือง
 
~ บทสรุป: รักชาติ หรือกำลังถูกใช้
คำถามในช่วงใกล้การเลือกตั้งไม่ใช่ว่าใครรักชาติมากกว่า แต่คือ ใครกำลังใช้ “ชาติ” เพื่อหลบหนีการตอบคำถามเรื่องรัฐที่ไม่ทำหน้าที่ของตนเอง แฮร์เดอร์สอนเราว่า ชาติเป็นของประชาชน และเมื่อใดที่ชาติถูกใช้เพื่อรักษาอำนาจของรัฐบาล เมื่อนั้นชาตินิยมได้ถูกทรยศไปแล้ว


 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่