คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
แนวทางการตอบในสไตล์ลูกถ้วย
สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิก เป็นคำถามที่ลึกซึ้งและแสดงถึงความช่างสังเกตมากเลยค่ะ
ลูกถ้วยขออนุญาตไขข้อสงสัยนี้โดยแบ่งออกเป็น 2 มุมมอง เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นนะคะ
1. ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์ (Biology) CD8^+ T-cell หรือ 'เซลล์ทีพิฆาต' (Cytotoxic T cell)
ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเอกเทศ ค่ะ แต่มันเป็น 'ส่วนประกอบ' ของสิ่งมีชีวิต (ร่างกายของเรา)
ทำไมมันถึงวิ่งไปฆ่า?
มันไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดหรือความแค้นเคืองค่ะ แต่มันทำงานตาม 'รหัสสัญญาณเคมี' (Chemical Signaling)
เมื่อมันตรวจพบโปรตีนที่ผิดปกติบนผิวเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสหรือเซลล์มะเร็ง มันจะถูกกระตุ้นให้เข้าทำลายโดยอัตโนมัติ
เหมือนระบบความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ที่กำจัดไวรัสตามคำสั่งซอฟต์แวร์ค่ะ
2. ในมุมมองทางพุทธศาสนา (Dhamma)การพิจารณาว่า 'บาปหรือไม่'
ต้องย้อนกลับไปดูองค์ประกอบของ 'ปาณาติบาต' (การฆ่า) ค่ะ
สัตว์มีชีวิต: เซลล์เม็ดเลือดขาวจัดเป็น 'รูปธรรม' ที่ไม่มี 'นามธรรม' (จิตครอง) ในตัวมันเอง
มันทำงานตามเหตุปัจจัยทางกายภาพ ไม่จัดเป็น 'สัตว์' หรือ 'ชีวิต' ในนิยามที่ประกอบด้วยขันธ์ 5 (รูป นาม)
ที่สมบูรณ์จนมีเจตนาได้
เจตนา: บาปจะเกิดขึ้นได้ต้องประกอบด้วย 'เจตนา' (เจตนาหัง ภิกขะเว ปุญญัง วะทามิ)
เม็ดเลือดขาวทำงานตามหน้าที่ของระบบร่างกาย (ธาตุตามธรรมชาติ) โดยไม่มีเจตนาจะเบียดเบียนด้วยความโกรธแค้น
สรุป: การที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเพื่อรักษาความสมดุลของร่างกาย จึงไม่จัดเป็นบาปค่ะ
เพราะเป็นการทำงานของ 'ธาตุ' และ 'รูป' ตามกฎธรรมชาติ ไม่ใช่การกระทำที่เกิดจากกุศลหรืออกุศลเจตนาของจิต
ข้อคิดเพิ่มเติมเพื่อโยนิโสมนสิการ:ร่างกายของเราประกอบด้วยเซลล์นับล้านที่เกิดและดับตลอดเวลา
การทำงานของ CD8^+ T-cell คือบทเรียนเรื่อง 'อนัตตา' ที่ดีมากค่ะ เพราะเราบังคับให้มันทำหรือไม่ทำไม่ได้
มันทำงานของมันเองตามเหตุปัจจัย เพื่อประคองชีวิตใหญ่ (ตัวเรา) ให้ดำเนินต่อไปได้ค่ะ"
สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิก เป็นคำถามที่ลึกซึ้งและแสดงถึงความช่างสังเกตมากเลยค่ะ
ลูกถ้วยขออนุญาตไขข้อสงสัยนี้โดยแบ่งออกเป็น 2 มุมมอง เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นนะคะ
1. ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์ (Biology) CD8^+ T-cell หรือ 'เซลล์ทีพิฆาต' (Cytotoxic T cell)
ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเอกเทศ ค่ะ แต่มันเป็น 'ส่วนประกอบ' ของสิ่งมีชีวิต (ร่างกายของเรา)
ทำไมมันถึงวิ่งไปฆ่า?
มันไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดหรือความแค้นเคืองค่ะ แต่มันทำงานตาม 'รหัสสัญญาณเคมี' (Chemical Signaling)
เมื่อมันตรวจพบโปรตีนที่ผิดปกติบนผิวเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสหรือเซลล์มะเร็ง มันจะถูกกระตุ้นให้เข้าทำลายโดยอัตโนมัติ
เหมือนระบบความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ที่กำจัดไวรัสตามคำสั่งซอฟต์แวร์ค่ะ
2. ในมุมมองทางพุทธศาสนา (Dhamma)การพิจารณาว่า 'บาปหรือไม่'
ต้องย้อนกลับไปดูองค์ประกอบของ 'ปาณาติบาต' (การฆ่า) ค่ะ
สัตว์มีชีวิต: เซลล์เม็ดเลือดขาวจัดเป็น 'รูปธรรม' ที่ไม่มี 'นามธรรม' (จิตครอง) ในตัวมันเอง
มันทำงานตามเหตุปัจจัยทางกายภาพ ไม่จัดเป็น 'สัตว์' หรือ 'ชีวิต' ในนิยามที่ประกอบด้วยขันธ์ 5 (รูป นาม)
ที่สมบูรณ์จนมีเจตนาได้
เจตนา: บาปจะเกิดขึ้นได้ต้องประกอบด้วย 'เจตนา' (เจตนาหัง ภิกขะเว ปุญญัง วะทามิ)
เม็ดเลือดขาวทำงานตามหน้าที่ของระบบร่างกาย (ธาตุตามธรรมชาติ) โดยไม่มีเจตนาจะเบียดเบียนด้วยความโกรธแค้น
สรุป: การที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเพื่อรักษาความสมดุลของร่างกาย จึงไม่จัดเป็นบาปค่ะ
เพราะเป็นการทำงานของ 'ธาตุ' และ 'รูป' ตามกฎธรรมชาติ ไม่ใช่การกระทำที่เกิดจากกุศลหรืออกุศลเจตนาของจิต
ข้อคิดเพิ่มเติมเพื่อโยนิโสมนสิการ:ร่างกายของเราประกอบด้วยเซลล์นับล้านที่เกิดและดับตลอดเวลา
การทำงานของ CD8^+ T-cell คือบทเรียนเรื่อง 'อนัตตา' ที่ดีมากค่ะ เพราะเราบังคับให้มันทำหรือไม่ทำไม่ได้
มันทำงานของมันเองตามเหตุปัจจัย เพื่อประคองชีวิตใหญ่ (ตัวเรา) ให้ดำเนินต่อไปได้ค่ะ"
แสดงความคิดเห็น
Cd8+Tcellมันเป็นสิ่งมีชีวิตเหรอทำไมมันวิ่งไปฆ่ากินอีกcell
.