สวัสดีค่ะ กระทู้นี้อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ให้ผู้หญิงด้วยกันฟัง ถึงเรื่องการดูแลตัวเอง ที่สุดของการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด คือด฿แลจากภายใน
ขอเล่าย้อนเนื่องราวของตัวเองก่อนนะคะ เราเป็นสาวหมวย สูง ขาวเนียน หุ่นนาฬิกาทราย ผมดำเงาเรียงตัวสวย แก้มบุ๋มมีลักยิ้ม ยิ้มเห็นเขี้ยว แม้หน้าตาไม่เรียกว่าสวย แต่ก็เรียกว่าสเป็คชายไทยแน่นอน หน้าอ่อนกว่าวัยเป็นสิบปี ปกติจะเป็นคนไม่แต่งหน้า ไม่ชอบทาแป้ง ไม่ทาครีมกันแดด พึ่งมาหัดทากันแดด ก็ตอนอายุปาไปเกือบสี่สิบ ปกติเป็นที่ไม่อะไรกับตัวเองเลย เพราะคิดว่า มันดีอยู่แล้วไม่เห็นต้องทำอะไร กรรมพันธุ์บ้านเราก็ดูเด็กทุกคน ข้อดีของเราคือ กินค่อยข้างระวัง ดื่มน้ำเก่ง ถูกทักว่าหน้าเด็ก ผิวดี เป็นเรื่องปกติ จนอายุ 40 เรามาเจอกับสามีคนที่สอง เขาเป็นคนที่ กินอาหารไม่ระวังสุขภาพ กินไม่เลือก พอเรามาอยู่กับเขา ก็จะเริ่มลำบากในเรื่องการกินระวังสุขภาพของเรา เราเลยเริ่มปล่อยๆการกินตามเขา แต่ก็ยังพอมีระวังบ้าง ก็ยังถูกทักถูกเรียกคนสวยอยู่บ้าง แม้จะเข้าวัยสี่สิบ แต่พออายุ 48 คราวนี้ เราปล่อยเรื่องการกินมาก กินทั้งน้ำตาล ไขมันเลว กินแป้ง ประกอบกับเข้าสู่ช่วงวัยที่เริ่มแก่เร็ว เลยยิ่งคูณ 2 เราเริ่มสังเกตุตัวเองได้จาก ช่วงหลัง ทำไมเวลาถ่ายรูปแล้วหน้าดูแปลกๆ เหมือนหน้าไม่เป็นทรง ร่างกายเริ่มป่วยบ่อย ผิวตัวแห้งหยาบกร้าน จนมาอายุได้ 52 เราทนหนังหน้าตัวเองไม่ไหว คิดว่าคงเพราะเราแก่แล้ว จะมาปล่อยหน้าสด คงไม่ไหวแล้ว จึงเริ่มหาวิธีกลับมาดูแลตัวเอง
ภาคที่ 1 หัดแต่งหน้า เรียนรู้การเขียนคิ้ว ลงรองพื้น เรียนรู้ว่าหน้าไม่เนียนรูขุมขนกว้างต้องใช้ไพรเมอร์ หน้าไม่ผ่องต้องใช้โทนอัพ ตอนแต่งใหม่ๆ ก็ดูดีกว่าไม่แต่ง แต่หน้าที่ไม่เคยดูแลผิว พอมาแต่ง ทุกคนน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ค่ะ หน้าแห้งขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติด หน้าวอกหน้าลอย เหมือนเอาปูนมาฉาบหน้า สวยแบบพลาสติก เริ่มเรียนรู้ และรู้ปัญหาละ ว่าเกิดจาก หน้าขาดการบำรุง โอเค หน้าฉันขาดการบำรุง
ภาคที่ 2 การบำรุงผิว เริ่มหาความรู้จากการบำรุงผิว เรียนรู้ผิวตัวเอง จนรู้ละว่าเราผิวมันทีโซน แก้มแห่ง หน้าผาก จมูก คางมัน หน้าที่ขาดการดูแลแถมแก่ลง ผิวย่อมหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง ถ่ายรูป ขนาดใช้ฟิลเตอร์ยังไม่สวย จึงหาความรู้จาก tt เขาบอก ต้องบำรุงด้วยมอยเจอร์เยอะๆ อ่ะเราก็ทำ แต่พอทำแล้วก็ยังรู้สึก มันยังไม่ใช่ ก็เรียนรู้ต่อไป จึงถึงบางอ้อว่า เออ ผิวเรามันแก่แล้วนะ ผลัดเซลผิวช้า เวลามามอบ มันก๋เหมือนแค่ไปเคลือบๆไว้บนๆ เราต้องผลัดเซลผิวก่อน จากนั้น เราเลยไปซื้อ ตัวผลัดเซลผิว มาใช้ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ร่วมกับการทามอญเจอร์ รู้สึกผิวดีขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ อ่ะ ศึกษาต่อไป จนเรียนรู้ว่า ผิวเรานอกจากมีน้ำเป็นส่วนประกอบแล้ว ก็ยังมีน้ำมัน เราเลยลองซื้อออยที่สกัดจากธรรมชาติมาลองทาผิว ก่อนลงมอยเจอร์ สรุปมันเวิร์คมาก ผิวดูฟูขึ้น รูขุมขนเริ่มเล็กลง เริ่มมาถูกทางละ แต่พอดูหน้าละ ผิวเริ่มเนียนเรียบละ แต่สีผิวยังดูไม่ค่อยสว่าง อ่ะ ศึกษาต่อ เขาว่า ให้ใช้ ไนอะซินนามาย (วิตามินB3) หรือ วิตามินซี ทาหน้า แต่ เราเลือกเป็นไนอะซินนามาย ทาเช้าเย็น อืม สีผิวค่อยดูสม่ำเสมอละ แล้วเราก็กินวิตามินซี วันละ 2000 Mg โดยแบ่งกิน 2 มื้อ กินแอสต้าแซนทีน 6 mg วันละ 1 มื้อ โอเค หน้าดีขึ้นมาก ในส่วนของใบหน้าเริ่มดีขึ้น ส่วนผิวตัวเราก็ทาออยผสมมอญเจอร์ทาผิว ก็ดีขึ้นมาก จากคนที่ต้องทำงานในห้องแอร์ที่เย็นจัด แต่พอดูกระจก ผิวก๋เริ่มดีแล้วนะ แต่ทำไม มันยังดู ไม่ใช่นะ สังเกตดู ผิวดีขึ้น แต่ผมยังกระเซิงมันก็ยังดูไม่สวยสะอาดอยู่ดี ต้องบอกก่อน ว่า เมื่อก่อนเราเป็นคนผมตรงวอลลุ่มช่วงปลาย สวยแบบสระแล้วเป่าแค่พัดลมก็อยู่ทรงมีวอลลุ่มสปริงสวย แต่มาระยะหลัง พออายุ 45 หงอกเริ่มมาชัดขึ้น เราต้องย้อมผมทุกเดือน ผมเริ่มแห้งเสีย เวลาเราสระผมก็ไม่ใช่ครีมนวดเลย กินก็ไม่ดี ผมก็เริ่มแห้ง ขาด หลุดร่วง อาศัยว่า ผมหนา เลยดูไม่บางมาก หลังจากแก้เรื่องหน้าได้ละ เลยมาดูที่เรื่องผม หาซื้อพวกเคราตินมาหมัก ตอนแรกที่หมักแล้วล้างออก ผมนิ่มเลยแหละ ไม่ฟูละ แต่ผมมันเร็ว อยู่ได้แค่วันเดียว เราเลยลองเอาใหม่ สระผม 1 รอบ หมักเคราติน ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก จากนั้นใช้ยาสระผม สระอีกรอบ จากนั้นใช้ไดร์เป่าผมด้วยลมเย็น จนผมหมาดๆเริ่มแห้ง แล้วก็ใส่เซรั่มกันความร้อนและบำรุงผมในตัว แล้วค่อยเป่าด้วยลมร้อนจนแห้ง แม่เจ้า ผมกลับมาสลวยเหมือนเดิม แบบไม่หนักหัว อยู่ทรงสวยได้ 2 วัน พอผมสวย บุคลิกมันดูดีขึ้นเยอะ ดูสะอาด ดูเป็นคนดูแลตัวเองขึ้นมาทันที แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมเรายังรู้สึก มันหน้าจะดูสดใสได้มากกว่านี้นะ คือ ผิวดูเรียบเนียนและ ผมสวยละ แต่ยังดูไม่สดใสเลย คิดถึงช่วงที่เราดูสดใสที่สุด ตอนอายุ 38-39 ตอนนั้นเราทำอ
ยังไงนะ อ๋อ เราใส่ใจเรื่องการกินนี่เอง งั้นไปภาคต่อไปต่อเลย ภาคดูแลจากภายใน
ภาคที่ 3 การดูแลตัวเองจากภายใน ค่ะ หลังจากที่ได้ดูแลตัวเองจากภายนอกแล้ว เหมือนจะดี แต่ก็ดีไม่สุด เพราะการที่เรากินอาหารตามสามีมานาน ผักผลไม้ไม่กิน กินของหวาน กินอาหารโซเดียมสูง กินไขมันเลว แม้จะไม่อ้วน เพราะต้องทำงานเดินวันละเกือบๆ 8000 ก้าว ใหนจะงานบ้านอีก เลยเหมือนออกกำลังกายไปในตัว เลยกินแค่ไหน ก็แค่อวบๆ ที่นี้มาต่อเครื่องสุขภาพภายในกัน ด้วยความที่เรากินตามสามี แต่วามีเราเป็นคนขับถ่ายดี ขับถ่ายทุกวัน แต่เราเป็นคนท้องผูก แถมเป็นริดสีดวง สองสามวันถ่ายที โดยเราต้องใช้ตัวช่วยเป็นยาระบาย ทุกครั้งที่ถ่าย ก็จะมีเลือดออกมาเต็มโถส้วมตลอด เพราะความที่กินแต่ของที่ทำให้ร่างกายอักเสบ เคยไปตรวจร่างกาย หมอเห็นผลเลือด จะส่งให้เราตรวจแผนกเลือด เพราะคิดว่า เลือดเรามีปัญหา เพราะจางมาก ดังนั้นเมื่อเราดูแลตัวเองมาขนาดนี้แล้ว ก็กลับมาดูแลตัวเองเหมือนเดิมดีกว่า เริ่มต้นจากหยุดกินของหวาน กินข้าวกล้อง ปรากฏว่า พอกินข้าวกล้องงดของหวาน การขับถ่ายดีขึ้น เลือดไม่ออกแล้ว เมื่อขับถ่ายไม่มีเลือด ผิวก็เริ่มกลับมามีสีเบือดเพิ่มขึ้น ไม่หน้าซีดหน้าเหลืองแล้ว คราวนี้ติดใจ ไปต่อค่ะ หาเครื่องปั่นมา 1 เครื่อง ปั้นน้ำผักผลไม้ ปั่นถั่ว 5 สี กินเน้นโปรตีน กินคาร์บเชิงซ้อน กินไขมันดี แม่เจ้า ทำแค่เดือนสองร่างกายเบาขึ้นเยอะ ไม่ง่วงหงาวหาวนอนตลอดเวลา ตื่นมาสดชื่น ขับถ่ายวันเว้นวัน หรือทุกวัน แถมซึ่งที่ได้ คือหุ่นที่น้ำหนักไม่ลด แต่หุ่นลด ตัวเล็กลงดูหุ่นเฟิร์มขึ้น หน้ากรอบหน้าชัดขึ้น ถึงได้ถึงบางอ้อ ว่า ที่เราเคยถ่ายรูปแล้วหน้าดูแปลกๆ มันเกิดจากการที่เราบวมน้ำ จากการที่เรากินแต่ของที่ทำให้ร่างกายอักเสบ จากที่เคยคิดว่า ควเพราะเราแก่แล้ว จริงๆ ไม่ใช่เลย เพราะเราเคยสงสัย บางคนดูแก่จริง แต่ทำไมเขายังดูสดใสได้ ความแก่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เราเร่งสปีดความโทรม คือการละเลยสุขภาพตัวเองนั่นเอง การดูแลตัวเองในวัยสาวๆ แค่สกินแคร์ แค่นั้นก็คงสวยแล้ว แต่ไม่ใช่กับวัย 40 อัพ จริงอยู่ แม้สมัยนี้จะมีคลีนิคความงามมากมาย ถ้าคุณดึงหน้า ฉีดโบ ฉีดฟิลเลอร์มากมาย แต่ดูแลภายในไม่ถึง มันก็ตึงเฉพาะหน้า ส่วนอื่นๆ ยังไงคุณก็สู้สาวๆไม่ได้ ส่วนเรา เราขอแค่เป็นคนแก่ ที่ไม่ต้องสวยแบบสาวๆ แต่ขอเป็นคนแก่ที่ ผู้คนเห็นปั๊บ จะรู้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้ มีวินัยในการดูแลตัวเอง เพราะการดูแลตัวเอง คือการบอกรักตัวเองที่ดังที่สุด
แต่งหน้าสวยหรือจะสู้ผิวสวยเรียบเนียนจากการดูแลผิวด้วยสกินแคร์ ผิวสวยจากสกินแคร์หรือจะสู้สวยจากสุขภาพดี
ขอเล่าย้อนเนื่องราวของตัวเองก่อนนะคะ เราเป็นสาวหมวย สูง ขาวเนียน หุ่นนาฬิกาทราย ผมดำเงาเรียงตัวสวย แก้มบุ๋มมีลักยิ้ม ยิ้มเห็นเขี้ยว แม้หน้าตาไม่เรียกว่าสวย แต่ก็เรียกว่าสเป็คชายไทยแน่นอน หน้าอ่อนกว่าวัยเป็นสิบปี ปกติจะเป็นคนไม่แต่งหน้า ไม่ชอบทาแป้ง ไม่ทาครีมกันแดด พึ่งมาหัดทากันแดด ก็ตอนอายุปาไปเกือบสี่สิบ ปกติเป็นที่ไม่อะไรกับตัวเองเลย เพราะคิดว่า มันดีอยู่แล้วไม่เห็นต้องทำอะไร กรรมพันธุ์บ้านเราก็ดูเด็กทุกคน ข้อดีของเราคือ กินค่อยข้างระวัง ดื่มน้ำเก่ง ถูกทักว่าหน้าเด็ก ผิวดี เป็นเรื่องปกติ จนอายุ 40 เรามาเจอกับสามีคนที่สอง เขาเป็นคนที่ กินอาหารไม่ระวังสุขภาพ กินไม่เลือก พอเรามาอยู่กับเขา ก็จะเริ่มลำบากในเรื่องการกินระวังสุขภาพของเรา เราเลยเริ่มปล่อยๆการกินตามเขา แต่ก็ยังพอมีระวังบ้าง ก็ยังถูกทักถูกเรียกคนสวยอยู่บ้าง แม้จะเข้าวัยสี่สิบ แต่พออายุ 48 คราวนี้ เราปล่อยเรื่องการกินมาก กินทั้งน้ำตาล ไขมันเลว กินแป้ง ประกอบกับเข้าสู่ช่วงวัยที่เริ่มแก่เร็ว เลยยิ่งคูณ 2 เราเริ่มสังเกตุตัวเองได้จาก ช่วงหลัง ทำไมเวลาถ่ายรูปแล้วหน้าดูแปลกๆ เหมือนหน้าไม่เป็นทรง ร่างกายเริ่มป่วยบ่อย ผิวตัวแห้งหยาบกร้าน จนมาอายุได้ 52 เราทนหนังหน้าตัวเองไม่ไหว คิดว่าคงเพราะเราแก่แล้ว จะมาปล่อยหน้าสด คงไม่ไหวแล้ว จึงเริ่มหาวิธีกลับมาดูแลตัวเอง
ภาคที่ 1 หัดแต่งหน้า เรียนรู้การเขียนคิ้ว ลงรองพื้น เรียนรู้ว่าหน้าไม่เนียนรูขุมขนกว้างต้องใช้ไพรเมอร์ หน้าไม่ผ่องต้องใช้โทนอัพ ตอนแต่งใหม่ๆ ก็ดูดีกว่าไม่แต่ง แต่หน้าที่ไม่เคยดูแลผิว พอมาแต่ง ทุกคนน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ค่ะ หน้าแห้งขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติด หน้าวอกหน้าลอย เหมือนเอาปูนมาฉาบหน้า สวยแบบพลาสติก เริ่มเรียนรู้ และรู้ปัญหาละ ว่าเกิดจาก หน้าขาดการบำรุง โอเค หน้าฉันขาดการบำรุง
ภาคที่ 2 การบำรุงผิว เริ่มหาความรู้จากการบำรุงผิว เรียนรู้ผิวตัวเอง จนรู้ละว่าเราผิวมันทีโซน แก้มแห่ง หน้าผาก จมูก คางมัน หน้าที่ขาดการดูแลแถมแก่ลง ผิวย่อมหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง ถ่ายรูป ขนาดใช้ฟิลเตอร์ยังไม่สวย จึงหาความรู้จาก tt เขาบอก ต้องบำรุงด้วยมอยเจอร์เยอะๆ อ่ะเราก็ทำ แต่พอทำแล้วก็ยังรู้สึก มันยังไม่ใช่ ก็เรียนรู้ต่อไป จึงถึงบางอ้อว่า เออ ผิวเรามันแก่แล้วนะ ผลัดเซลผิวช้า เวลามามอบ มันก๋เหมือนแค่ไปเคลือบๆไว้บนๆ เราต้องผลัดเซลผิวก่อน จากนั้น เราเลยไปซื้อ ตัวผลัดเซลผิว มาใช้ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ร่วมกับการทามอญเจอร์ รู้สึกผิวดีขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ อ่ะ ศึกษาต่อไป จนเรียนรู้ว่า ผิวเรานอกจากมีน้ำเป็นส่วนประกอบแล้ว ก็ยังมีน้ำมัน เราเลยลองซื้อออยที่สกัดจากธรรมชาติมาลองทาผิว ก่อนลงมอยเจอร์ สรุปมันเวิร์คมาก ผิวดูฟูขึ้น รูขุมขนเริ่มเล็กลง เริ่มมาถูกทางละ แต่พอดูหน้าละ ผิวเริ่มเนียนเรียบละ แต่สีผิวยังดูไม่ค่อยสว่าง อ่ะ ศึกษาต่อ เขาว่า ให้ใช้ ไนอะซินนามาย (วิตามินB3) หรือ วิตามินซี ทาหน้า แต่ เราเลือกเป็นไนอะซินนามาย ทาเช้าเย็น อืม สีผิวค่อยดูสม่ำเสมอละ แล้วเราก็กินวิตามินซี วันละ 2000 Mg โดยแบ่งกิน 2 มื้อ กินแอสต้าแซนทีน 6 mg วันละ 1 มื้อ โอเค หน้าดีขึ้นมาก ในส่วนของใบหน้าเริ่มดีขึ้น ส่วนผิวตัวเราก็ทาออยผสมมอญเจอร์ทาผิว ก็ดีขึ้นมาก จากคนที่ต้องทำงานในห้องแอร์ที่เย็นจัด แต่พอดูกระจก ผิวก๋เริ่มดีแล้วนะ แต่ทำไม มันยังดู ไม่ใช่นะ สังเกตดู ผิวดีขึ้น แต่ผมยังกระเซิงมันก็ยังดูไม่สวยสะอาดอยู่ดี ต้องบอกก่อน ว่า เมื่อก่อนเราเป็นคนผมตรงวอลลุ่มช่วงปลาย สวยแบบสระแล้วเป่าแค่พัดลมก็อยู่ทรงมีวอลลุ่มสปริงสวย แต่มาระยะหลัง พออายุ 45 หงอกเริ่มมาชัดขึ้น เราต้องย้อมผมทุกเดือน ผมเริ่มแห้งเสีย เวลาเราสระผมก็ไม่ใช่ครีมนวดเลย กินก็ไม่ดี ผมก็เริ่มแห้ง ขาด หลุดร่วง อาศัยว่า ผมหนา เลยดูไม่บางมาก หลังจากแก้เรื่องหน้าได้ละ เลยมาดูที่เรื่องผม หาซื้อพวกเคราตินมาหมัก ตอนแรกที่หมักแล้วล้างออก ผมนิ่มเลยแหละ ไม่ฟูละ แต่ผมมันเร็ว อยู่ได้แค่วันเดียว เราเลยลองเอาใหม่ สระผม 1 รอบ หมักเคราติน ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก จากนั้นใช้ยาสระผม สระอีกรอบ จากนั้นใช้ไดร์เป่าผมด้วยลมเย็น จนผมหมาดๆเริ่มแห้ง แล้วก็ใส่เซรั่มกันความร้อนและบำรุงผมในตัว แล้วค่อยเป่าด้วยลมร้อนจนแห้ง แม่เจ้า ผมกลับมาสลวยเหมือนเดิม แบบไม่หนักหัว อยู่ทรงสวยได้ 2 วัน พอผมสวย บุคลิกมันดูดีขึ้นเยอะ ดูสะอาด ดูเป็นคนดูแลตัวเองขึ้นมาทันที แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมเรายังรู้สึก มันหน้าจะดูสดใสได้มากกว่านี้นะ คือ ผิวดูเรียบเนียนและ ผมสวยละ แต่ยังดูไม่สดใสเลย คิดถึงช่วงที่เราดูสดใสที่สุด ตอนอายุ 38-39 ตอนนั้นเราทำอ
ยังไงนะ อ๋อ เราใส่ใจเรื่องการกินนี่เอง งั้นไปภาคต่อไปต่อเลย ภาคดูแลจากภายใน
ภาคที่ 3 การดูแลตัวเองจากภายใน ค่ะ หลังจากที่ได้ดูแลตัวเองจากภายนอกแล้ว เหมือนจะดี แต่ก็ดีไม่สุด เพราะการที่เรากินอาหารตามสามีมานาน ผักผลไม้ไม่กิน กินของหวาน กินอาหารโซเดียมสูง กินไขมันเลว แม้จะไม่อ้วน เพราะต้องทำงานเดินวันละเกือบๆ 8000 ก้าว ใหนจะงานบ้านอีก เลยเหมือนออกกำลังกายไปในตัว เลยกินแค่ไหน ก็แค่อวบๆ ที่นี้มาต่อเครื่องสุขภาพภายในกัน ด้วยความที่เรากินตามสามี แต่วามีเราเป็นคนขับถ่ายดี ขับถ่ายทุกวัน แต่เราเป็นคนท้องผูก แถมเป็นริดสีดวง สองสามวันถ่ายที โดยเราต้องใช้ตัวช่วยเป็นยาระบาย ทุกครั้งที่ถ่าย ก็จะมีเลือดออกมาเต็มโถส้วมตลอด เพราะความที่กินแต่ของที่ทำให้ร่างกายอักเสบ เคยไปตรวจร่างกาย หมอเห็นผลเลือด จะส่งให้เราตรวจแผนกเลือด เพราะคิดว่า เลือดเรามีปัญหา เพราะจางมาก ดังนั้นเมื่อเราดูแลตัวเองมาขนาดนี้แล้ว ก็กลับมาดูแลตัวเองเหมือนเดิมดีกว่า เริ่มต้นจากหยุดกินของหวาน กินข้าวกล้อง ปรากฏว่า พอกินข้าวกล้องงดของหวาน การขับถ่ายดีขึ้น เลือดไม่ออกแล้ว เมื่อขับถ่ายไม่มีเลือด ผิวก็เริ่มกลับมามีสีเบือดเพิ่มขึ้น ไม่หน้าซีดหน้าเหลืองแล้ว คราวนี้ติดใจ ไปต่อค่ะ หาเครื่องปั่นมา 1 เครื่อง ปั้นน้ำผักผลไม้ ปั่นถั่ว 5 สี กินเน้นโปรตีน กินคาร์บเชิงซ้อน กินไขมันดี แม่เจ้า ทำแค่เดือนสองร่างกายเบาขึ้นเยอะ ไม่ง่วงหงาวหาวนอนตลอดเวลา ตื่นมาสดชื่น ขับถ่ายวันเว้นวัน หรือทุกวัน แถมซึ่งที่ได้ คือหุ่นที่น้ำหนักไม่ลด แต่หุ่นลด ตัวเล็กลงดูหุ่นเฟิร์มขึ้น หน้ากรอบหน้าชัดขึ้น ถึงได้ถึงบางอ้อ ว่า ที่เราเคยถ่ายรูปแล้วหน้าดูแปลกๆ มันเกิดจากการที่เราบวมน้ำ จากการที่เรากินแต่ของที่ทำให้ร่างกายอักเสบ จากที่เคยคิดว่า ควเพราะเราแก่แล้ว จริงๆ ไม่ใช่เลย เพราะเราเคยสงสัย บางคนดูแก่จริง แต่ทำไมเขายังดูสดใสได้ ความแก่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เราเร่งสปีดความโทรม คือการละเลยสุขภาพตัวเองนั่นเอง การดูแลตัวเองในวัยสาวๆ แค่สกินแคร์ แค่นั้นก็คงสวยแล้ว แต่ไม่ใช่กับวัย 40 อัพ จริงอยู่ แม้สมัยนี้จะมีคลีนิคความงามมากมาย ถ้าคุณดึงหน้า ฉีดโบ ฉีดฟิลเลอร์มากมาย แต่ดูแลภายในไม่ถึง มันก็ตึงเฉพาะหน้า ส่วนอื่นๆ ยังไงคุณก็สู้สาวๆไม่ได้ ส่วนเรา เราขอแค่เป็นคนแก่ ที่ไม่ต้องสวยแบบสาวๆ แต่ขอเป็นคนแก่ที่ ผู้คนเห็นปั๊บ จะรู้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้ มีวินัยในการดูแลตัวเอง เพราะการดูแลตัวเอง คือการบอกรักตัวเองที่ดังที่สุด