🌼"แอสโตรไฟตัม" กระบองเพชรไร้หนามที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนือ
🌵🌼
ถ้าพูดถึงวงการกระบองเพชร (Cactus) แอสโตร (Astrophytum) คือหนึ่งในสกุลยอดนิยมอันดับต้นๆ ตลอดกาล เพราะเลี้ยงง่าย รูปทรงสวยงาม และมีความหลากหลายสูงมาก
🌵🌼ชื่อ "Astrophytum" มาจากภาษากรีก แปลว่า "พืชดวงดาว" (Star Plant) ซึ่งมาจากลักษณะรูปทรงของเค้านั่นเอง
ลักษณะเด่นของแอสโตร
จุดเด่นที่ทำให้คนหลงรักแอสโตรคือ
🌵🌼ไม่มีหนาม (ส่วนใหญ่) ต่างจากกระบองเพชรทั่วไปที่มักจะหนามแหลมคม แอสโตรส่วนใหญ่จะไม่มีหนาม หรือมีหนามที่นิ่ม สั้น ทำให้จับเล่นได้ไม่เจ็บมือ
🌵🌼ประจุดสีขาว (V-Type/Sand) ผิวลำต้นมักจะมีจุดสีขาวเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไปเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า
🌵🌼รูปทรง มีตั้งแต่ทรงกลมแป้น ทรงเหลี่ยม (เหมือนมะเฟือง) ไปจนถึงทรงกระบอก
🌵🌼มักจะออกดอกบริเวณยอด สีส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลือง หรือเหลืองโคนแดง
สายพันธุ์ยอดนิยมที่ควรทำความรู้จัก
ในตระกูลแอสโตรมีหลายสายพันธุ์ย่อย แต่ที่นิยมที่สุดในไทยมีดังนี้
🌵🌼Astrophytum asterias (แอสทีเรียส)
ทรงกลมแป้น ไม่มีหนามเลย ดูนุ่มนิ่มเหมือนซาลาเปา
มีประจุดขาวกระจายทั่วตัว เป็นสายพันธุ์ที่คนสะสม "ลาย" มากที่สุด เช่น ลาย Super Kabuto (จุดขาวใหญ่และหนา)
🌵🌼Astrophytum myriostigma (ไมริโอสติกมา)
หรือที่เรียกกันว่า "หมวกสังฆราช" มักมี 5 พู ทรงสูงขึ้นเล็กน้อย
จุดเด่นคือความสมมาตรที่ดูเหมือนงานศิลปะ
🌵🌼Astrophytum ornatum (ออร์นาตัม)
เป็นสายพันธุ์ที่มีหนามแข็ง และโตไว ทนทานมากที่สุดในตระกูล
🌵🌼Astrophytum capricorne (คาร์ปรีคอร์น)
มีหนามยาวที่โค้งงอเหมือนเขาแพะ ดูเท่และดุดันกว่าสายพันธุ์อื่น
วิธีการเลี้ยงดูเบื้องต้น
แอสโตรเป็นไม้ที่เหมาะกับมือใหม่และมือโปร เพราะไม่ได้ต้องการการประคบประหงมมากเกินไป
ชอบแดดเช้า (แดดพรางสแลนประมาณ 50-70%) ไม่ควรตากแดดจัดโดยตรงทั้งวันเพราะผิวอาจไหม้ได้
รดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท (ประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง) ระวังอย่าให้มีน้ำขังที่ยอดหรือโคนต้น
ดิน ต้องเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดีเยี่ยม (ดินกระบองเพชรผสมหินภูเขาไฟเยอะๆ)
ชอบที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
⁉️ทำไมคนถึงสะสมแอสโตร
เสน่ห์ของมันอยู่ที่ "การลุ้นลาย" โดยเฉพาะการผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้ลวดลายแปลกๆ เช่น ลายวี (V-shape), ลายกิ๊กโกะ (Gikko - ผิวบั้งเหมือนกระดองเต่า) หรือไม้ด่าง (Variegated) ซึ่งบางต้นที่มีลักษณะหายากอาจมีราคาสูงถึงหลักหมื่นหรือหลักแสนบาทเลยทีเดียว
The Earth
#กระบองเพชร
🌼"แอสโตรไฟตัม" กระบองเพชรไร้หนามที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนือ 🌵🌼
🌵🌼
ถ้าพูดถึงวงการกระบองเพชร (Cactus) แอสโตร (Astrophytum) คือหนึ่งในสกุลยอดนิยมอันดับต้นๆ ตลอดกาล เพราะเลี้ยงง่าย รูปทรงสวยงาม และมีความหลากหลายสูงมาก
🌵🌼ชื่อ "Astrophytum" มาจากภาษากรีก แปลว่า "พืชดวงดาว" (Star Plant) ซึ่งมาจากลักษณะรูปทรงของเค้านั่นเอง
ลักษณะเด่นของแอสโตร
จุดเด่นที่ทำให้คนหลงรักแอสโตรคือ
🌵🌼ไม่มีหนาม (ส่วนใหญ่) ต่างจากกระบองเพชรทั่วไปที่มักจะหนามแหลมคม แอสโตรส่วนใหญ่จะไม่มีหนาม หรือมีหนามที่นิ่ม สั้น ทำให้จับเล่นได้ไม่เจ็บมือ
🌵🌼ประจุดสีขาว (V-Type/Sand) ผิวลำต้นมักจะมีจุดสีขาวเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไปเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า
🌵🌼รูปทรง มีตั้งแต่ทรงกลมแป้น ทรงเหลี่ยม (เหมือนมะเฟือง) ไปจนถึงทรงกระบอก
🌵🌼มักจะออกดอกบริเวณยอด สีส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลือง หรือเหลืองโคนแดง
สายพันธุ์ยอดนิยมที่ควรทำความรู้จัก
ในตระกูลแอสโตรมีหลายสายพันธุ์ย่อย แต่ที่นิยมที่สุดในไทยมีดังนี้
🌵🌼Astrophytum asterias (แอสทีเรียส)
ทรงกลมแป้น ไม่มีหนามเลย ดูนุ่มนิ่มเหมือนซาลาเปา
มีประจุดขาวกระจายทั่วตัว เป็นสายพันธุ์ที่คนสะสม "ลาย" มากที่สุด เช่น ลาย Super Kabuto (จุดขาวใหญ่และหนา)
🌵🌼Astrophytum myriostigma (ไมริโอสติกมา)
หรือที่เรียกกันว่า "หมวกสังฆราช" มักมี 5 พู ทรงสูงขึ้นเล็กน้อย
จุดเด่นคือความสมมาตรที่ดูเหมือนงานศิลปะ
🌵🌼Astrophytum ornatum (ออร์นาตัม)
เป็นสายพันธุ์ที่มีหนามแข็ง และโตไว ทนทานมากที่สุดในตระกูล
🌵🌼Astrophytum capricorne (คาร์ปรีคอร์น)
มีหนามยาวที่โค้งงอเหมือนเขาแพะ ดูเท่และดุดันกว่าสายพันธุ์อื่น
วิธีการเลี้ยงดูเบื้องต้น
แอสโตรเป็นไม้ที่เหมาะกับมือใหม่และมือโปร เพราะไม่ได้ต้องการการประคบประหงมมากเกินไป
ชอบแดดเช้า (แดดพรางสแลนประมาณ 50-70%) ไม่ควรตากแดดจัดโดยตรงทั้งวันเพราะผิวอาจไหม้ได้
รดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท (ประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง) ระวังอย่าให้มีน้ำขังที่ยอดหรือโคนต้น
ดิน ต้องเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดีเยี่ยม (ดินกระบองเพชรผสมหินภูเขาไฟเยอะๆ)
ชอบที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
⁉️ทำไมคนถึงสะสมแอสโตร
เสน่ห์ของมันอยู่ที่ "การลุ้นลาย" โดยเฉพาะการผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้ลวดลายแปลกๆ เช่น ลายวี (V-shape), ลายกิ๊กโกะ (Gikko - ผิวบั้งเหมือนกระดองเต่า) หรือไม้ด่าง (Variegated) ซึ่งบางต้นที่มีลักษณะหายากอาจมีราคาสูงถึงหลักหมื่นหรือหลักแสนบาทเลยทีเดียว
The Earth
#กระบองเพชร