ตามหัวกระทู้เลยค่ะ คิดว่าคนที่เข้ามาอ่านคำถามนี้คงจะเบะปาก มองบน ไม่ก็คงบอกว่าเจ้าของกระทู้จะมาอวดหรอ แต่จริงๆ ไม่ใช่นะคะ แต่รู้สึกว่าเหมือนมันเป็นปมของตัวเราเอง เราแค่อยากก้าวข้ามปมนี้ไปให้ได้ (อาจจะยาวนิดหน่อยนะคะ คือเราไม่เคยเล่าหรือปรึกษาเรื่องส่วนตัวกับใครเลย)
ก่อนอื่นเลย ขอแนะนำตัวเองก่อนะคะ เราเป็นสาวประเภทสอง สาวสอง หญิงข้ามเพศ กะเทย LGBTQIA+ ฯลฯ แล้วแต่คนละเรียก แต่ยังไม่ได้แปลงเพศนะคะ ในชีวิตนี้ยังไม่เคยมีแฟนจนตอนนี้กำลังจะเข้าวัยเลข 3 แล้ว (แม้แต่เรื่องเพศสัมพันธ์ก็ยังไม่เคย) ซึ่งไม่รู้ว่ามันแปลกสำหรับคนอื่นมั้ยนะคะ ที่อายุขนาดนี้แล้วยังไม่เคยมีแม้แต่ประสบการณ์เรื่องนั้น เพราะคนรอบตัวที่รู้จักต่างก็เคยมีประสบการณ์มาแล้ว (จากเท่าที่รู้มา) ปัจจุบันอาศัยและทำงานใน กทม.ค่ะ
ในส่วนของเรื่องราวที่ทำให้เราตั้งคำถามนี้ เกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นวันนี้ คือเราเลิกงานแล้วเดินทางกลับที่พักด้วย MRT ที่นี้พอถึงสถานีที่เราต้องลง เราก็ลงมาปกตินี้แหละค่ะ แต่ที่ไม่ปกติคือพอเราเดินออกมาจาก MRT แล้ว กำลังจะเดินไปจุดรอรถรับส่งของที่พัก เรารู้สึกเหมือนมีคนเดินตามมาขนาบมาด้านข้าง พอหันไปมองก็เห็นผู้ชายคนหนึ่ง น่าจะพนักงานออฟฟิตทั่วไป ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร เค้าคงจะอยู่ที่พีกเดียวกับเราแหละ แต่จู่ๆเค้าก็เดินมาขวางหน้าเรา แล้วถามเราว่า "ขอโทษนะครับ เป็นสาวสองหรือเปล่าคะ" ตอนนั้นคือเรางงไปเลย ในหัวคิดว่าเค้าถามทำไม เราโดนหาเรื่องหรืออะไรหรือเปล่าว่ะ ตอนนี้เราลกมาค่ะ 5555
พอตั้งสติได้ เลยตอบไปว่า "ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ" แล้วเราก็ขยับออกห่างมาหน่อย ตอนนั้นมันแอบกลัวในหัวคิดไปเรื่อยมาก เค้าจะตีเราเปล่าวะ หรือเราไปเดินชนเค้ามา บลาๆๆๆๆ แล้วผู้ชายคนนั้นก็อ้ำๆอึ้งๆ ไปสักพักนึง เราก็ใจไม่ดีละ เริ่มมองหาคนเเถวนั้น ดีหน่อยที่คนเดินไปมาพลุกพล่านอยู่ เพราะบริเวณนั้นเป็นพื้นที่หน้าธนาคาร จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของกินตอนเย็นๆ
ทางผู้ชายเค้าเงียบไปพักหนึ่ง แล้วเค้าก็ถามเราว่า "ขอไลน์ได้มั้ยครับ" พอเราได้ยินคือแบลงค์ไปเลย แล้วอุทานมาว่า "ห๊ะ ยังไงนะคะ" แล้วเค้าก็ตอบเรากลับมาว่า "ผมชอบคับ แบบชอบสาวสองคับ ขอไลน์ไว้ได้มั้ยคับ" พอเค้าพูดจบ เราอึ้งมาก คือในมุมมองเรา ตัวเราเองไม่ได้สวยเลย รูปร่างก็คือไม่ได้เหมือนผู้หญิงขนาดนั้น เพราะส่วนสูงก็ปาไป 173 แล้ว ถึงจะดีหน่อยตรงที่น้ำหนักไม่ได้เยอะเลยดูสมส่วน แต่มองยังไงเราก็ไม่ได้สวยขนาดนั้น ละตัวผู้ชายคนนั้นค่อนช้างที่จะดูดีเลย เลยงงมากทำไมถึงเลือกเข้ามาจีบเราว่ะ ทั้งๆที่เค้าสามารถไปจีบคนสวยๆ หรือผู้หญิงจริงๆ ก็ได้
สุดท้ายเราเลยตอบปฏิเสธเค้าไปว่า "ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ" ละก้มหัวขอโทษเค้าไปด้วย พอปฏิเสธไปเราก็เห็นเค้ายิ้มให้ละบอกว่า "ขอโทษด้วยครับ" ซึ่งสีหน้าเค้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เรารู้ได้เลยว่าเค้าคงเสียเซลฟ์แน่ๆ จากนั้นเราก็เดินไปขึ้นรถกอล์ฟเข้าที่พัก พอถึงห้องเรื่องเมื่อกี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว เราเลยมานั่งคิด ทำไมเราไม่ลองให้ไลน์เค้าไปก่อน อย่างลองคุยดูก็ได้ นานๆทีจะมีคนเข้ามาจีบ ในใจก็แอบเสียดายแล้วเราก็รู้สึกผิดด้วยที่ไปปฏิเสธเค้า พอมานั่งคิดไปคิดมา อยากย้อนเวลาไปแล้วให้ไลน์เค้ามาก 555555
แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอเหมือนกัน แต่ทุกๆครั้งที่เจอแบบนี้ เราก็ปฏิเสธออกไปทุกครั้ง ทั้งๆที่ในใจเราเองก็อยากมีแฟน อยากลองมีความรักดูบ้าง เพราะตั้งแต่เกิดจนตอนนี้เข้าเลข 3 แล้ว ยังไม่เคยมีประสบการณ์ความรักแบบคนอื่น มันทำเราหงุดหงิดตัวเองมากจนมานั่งคิดทบทวนว่าทำไมเราถึงปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาด้วย พอคิดไปเรื่อยๆ เราเลยได้คำตอบมาค่ะ หรือว่าจริงๆ ที่เราปฏิเสธคนที่เค้าเข้ามา อาจจะเป็นเพราะปมเรื่องปัญหาครอบครัวที่เราเจอมาหรือเปล่า เราถึงทำแบบนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภูมิหลังครอบครัวเราไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาการนอกใจ ที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็ก คือพ่อเราเค้าค่อนข้างอารมณ์ร้อนและมีเมียน้อยด้วย ความทรงเกี่ยวกับพ่อตั้งแต่เด็กที่เรามี ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลักๆที่จำได้จะมี
" 1. แม่จับได้ว่าพ่อมีเมียน้อยเลยทะเลาะกันเสียงมาก มีปาข้าวของแตกกระจาย แล้วตอนนั้นเรายังอยู่แค่ ป. 2 เอง เรากลัวมาก เพราะเราแอบเปิดประตูไปดู สำหรับเราเป็นภาพที่น่ากลัวสุดหัวใจ เพราะเค้าตบตีเเม่ แล้วตอนนั้นน้องสาวเราก็นอนหลับอยู่ เราไม่อยากให้น้องได้ยินเลยต้องนั่งเอามือปิดหูน้องทั้งคืน
2. เราเคยโดนพ่อบีบคอจนสลบ เพราะเราไปเอาถุงเท้าของเค้ามา คือตอนเด็กๆ พ่อเราทำงานขับรถทัวร์นานๆทีถึงจะกลับบ้าน แต่เค้าก็จะโทรมาคุยด้วยบ่อยๆ ซึ่งตอนนั้นที่พ่อจะกลับมาที่บ้าน เราโทรไปขอให้เค้าซื้อถุงเท้าใหม่ให้ได้มั้ย เพราะเราถุงเท้าขาดหมดแล้ว เค้าก็บอกว่าจะซื้อมาให้ แต่พอมาจริงๆเค้ากลับไม่ำด้ซื้อมา แต่เราก็ซนเนาะเลยไปรื้อกระเป็าเค้าเจอถุงเท้าใหม่อยู่ 2-3 คู่ มันอยู่ในซองอยู่เลย เลยเอามา ที่นี้พอเค้าจะกลับไปทำงานแล้วเห็นว่าถุงหาย เค้าเลยอาละวาด พอเราบอกว่าเราเอาไป เค้าก็ด่าเรา ตีเรา แล้วบีบคอเราจนสลบไปเลย มารู้ทีหลังเค้าซ่อนเงินไว้ เพราะจะเอาไปให้เมียน้อย 55
3. เหตุการณ์นี้รุนแรงสุด มันเกิดขึ้นช่วงที่เราเรียนจบพอดี ละกำลังหางาน ตอนนั้นเราอยู่ที่บ้านที่ต่างจังหวัด แม่ใช้เราไปของที่ตลาดในช่วงบ่ายๆ พอเรากลับมาถึงบ้านแล้ว เราเจอแม่หน้าช้ำ ตาบวม มีเลือดตรงปาก เราตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น พอดีกับที่พ่อเดินมาจากหลังบ้าน เค้าถือมีดพร้ายาวๆไว้ในมือ แล้วบอกว่าจะฆ่าเราสองแม่ลูกให้ได้ ตอนนั้นเรารู้สึกกลัวมากที่สุดในชีวิต พอเห็นเค้าเดินเข้ามา เราเลยหยิบเอาไม้ถูพื้นด้ามเหล็กที่อยู่ใกล้ๆ มาป้องกันตัว ยิ่งเค้าเดิยมมใกล้ เรายิ่งฟาดไม่คิดชีวิต เรากลัวจนจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ พอเห็นอีกทีแม่เอาตัวมาบัง แล้วโดนฟันเข้าที่เเขนกับมือ จากนั้นแม่เราเข้าโรงพยาบาลไปเดือนนึง แล้วเป็นจุดแตกหักมีเรื่องฟ้องร้อง แม่ก็หย่ากับมือ พร้อมคำสั่งศาลห้ามเค้าเข้าใกล้บ้านเรา
เหตุการณ์ฝังใจเรามาก เวลาเรานึกถึงเรื่องทีไรมือจะสั่น แล้วหายใจไม่ค่อยออก จำได้ว่าตอนที่แม่รักษาตัวอยู่ ทางโรงพยาบาลให้แม่เราเข้าไปประเมินสภาพจิตใจด้วย แล้วเราก็ได้ถูกเชิญเข้าไปประเมินเหมือน แต่ตอนนั้นเราปฏิเสธไป (เหตุการณ์ตอนนี้น้องสาวเราเรียนอยู่ที่ กทม. ค่ะ บางทีก็แบบสงสัยนะ ว่าทำไมมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ต้องเป็นเราคนเดียวด้วยนะที่จะต้องมาเผชิญกับมัน) "
เพราะเรื่องราวพวกนี้ที่เราเคยเจอมาหรือเปล่า (จริงๆ เจอมาเยอะกว่านี้ แต่เล่าแค่นี้ดีกว่า) ที่ทำให้เราไม่กล้าเปิดใจ หรือให้โอกาสใครเช้ามา ทุกๆครั้งที่เราเคยลองคุยกับใครสักคน เราจะชอบคิดว่ามันดีแล้วหรอที่จะคุยกับเค้าต่อไป ถ้าในอนาคตได้คบกันชึ้นมาแล้วเค้าไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด หรือเค้าเป็นคนแบบพ่อเราขึ้นมาละ หรือไม่ก็ถ้าคบกันแล้วเค้าไม่ชอบตัวตนเรา ไม่ชอบครอบครัวเราละ บางทีเรายังเคยคิดเลยว่าเราดีพอสำหรับใครสักคนหรือเปล่า
ทั้งหมดที่พิมพ์มายาวขนาดนี้ เราแค่อยากปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดีที่จะขจัดความคิดพวกนี้ออกไปได้ ทำอย่างไรดีที่เราจะก้าวข้ามความรู้สึกพวกนี้ไปแล้วลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีความรักในแบบคู่รักแบบคนอื่นเค้าบ้างค่ะ
อย่างไรเราขอขอบคุณใครก็ตามที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ของเรานะคะ มันเป็นครั้งแรกที่เราได้ระบายเรื่องราวในชีวิตออกมาบ้าง ถ้ากระทู้เราไม่ดีอย่างไร หรือทำให้ใครรู้สึกไม่ดีต้องขอโทษด้วยจริงๆ
สุดท้ายแค่อยากบอกผู้ชายที่เข้ามาไลน์เราวันนี้ค่ะ เราขอโทษจริงๆ นะคะ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ช่องทางติดต่อกับคุณอีกครั้งนะ
มีผู้ชายเข้ามาจีบ แต่ดันตกใจเลยบอกปฏิเสธไป แต่พอมาตั้งสติได้รู้สึกพลาดที่ปฏิเสธไป ทำไงดีคะ เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย
ก่อนอื่นเลย ขอแนะนำตัวเองก่อนะคะ เราเป็นสาวประเภทสอง สาวสอง หญิงข้ามเพศ กะเทย LGBTQIA+ ฯลฯ แล้วแต่คนละเรียก แต่ยังไม่ได้แปลงเพศนะคะ ในชีวิตนี้ยังไม่เคยมีแฟนจนตอนนี้กำลังจะเข้าวัยเลข 3 แล้ว (แม้แต่เรื่องเพศสัมพันธ์ก็ยังไม่เคย) ซึ่งไม่รู้ว่ามันแปลกสำหรับคนอื่นมั้ยนะคะ ที่อายุขนาดนี้แล้วยังไม่เคยมีแม้แต่ประสบการณ์เรื่องนั้น เพราะคนรอบตัวที่รู้จักต่างก็เคยมีประสบการณ์มาแล้ว (จากเท่าที่รู้มา) ปัจจุบันอาศัยและทำงานใน กทม.ค่ะ
ในส่วนของเรื่องราวที่ทำให้เราตั้งคำถามนี้ เกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นวันนี้ คือเราเลิกงานแล้วเดินทางกลับที่พักด้วย MRT ที่นี้พอถึงสถานีที่เราต้องลง เราก็ลงมาปกตินี้แหละค่ะ แต่ที่ไม่ปกติคือพอเราเดินออกมาจาก MRT แล้ว กำลังจะเดินไปจุดรอรถรับส่งของที่พัก เรารู้สึกเหมือนมีคนเดินตามมาขนาบมาด้านข้าง พอหันไปมองก็เห็นผู้ชายคนหนึ่ง น่าจะพนักงานออฟฟิตทั่วไป ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร เค้าคงจะอยู่ที่พีกเดียวกับเราแหละ แต่จู่ๆเค้าก็เดินมาขวางหน้าเรา แล้วถามเราว่า "ขอโทษนะครับ เป็นสาวสองหรือเปล่าคะ" ตอนนั้นคือเรางงไปเลย ในหัวคิดว่าเค้าถามทำไม เราโดนหาเรื่องหรืออะไรหรือเปล่าว่ะ ตอนนี้เราลกมาค่ะ 5555
พอตั้งสติได้ เลยตอบไปว่า "ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ" แล้วเราก็ขยับออกห่างมาหน่อย ตอนนั้นมันแอบกลัวในหัวคิดไปเรื่อยมาก เค้าจะตีเราเปล่าวะ หรือเราไปเดินชนเค้ามา บลาๆๆๆๆ แล้วผู้ชายคนนั้นก็อ้ำๆอึ้งๆ ไปสักพักนึง เราก็ใจไม่ดีละ เริ่มมองหาคนเเถวนั้น ดีหน่อยที่คนเดินไปมาพลุกพล่านอยู่ เพราะบริเวณนั้นเป็นพื้นที่หน้าธนาคาร จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของกินตอนเย็นๆ
ทางผู้ชายเค้าเงียบไปพักหนึ่ง แล้วเค้าก็ถามเราว่า "ขอไลน์ได้มั้ยครับ" พอเราได้ยินคือแบลงค์ไปเลย แล้วอุทานมาว่า "ห๊ะ ยังไงนะคะ" แล้วเค้าก็ตอบเรากลับมาว่า "ผมชอบคับ แบบชอบสาวสองคับ ขอไลน์ไว้ได้มั้ยคับ" พอเค้าพูดจบ เราอึ้งมาก คือในมุมมองเรา ตัวเราเองไม่ได้สวยเลย รูปร่างก็คือไม่ได้เหมือนผู้หญิงขนาดนั้น เพราะส่วนสูงก็ปาไป 173 แล้ว ถึงจะดีหน่อยตรงที่น้ำหนักไม่ได้เยอะเลยดูสมส่วน แต่มองยังไงเราก็ไม่ได้สวยขนาดนั้น ละตัวผู้ชายคนนั้นค่อนช้างที่จะดูดีเลย เลยงงมากทำไมถึงเลือกเข้ามาจีบเราว่ะ ทั้งๆที่เค้าสามารถไปจีบคนสวยๆ หรือผู้หญิงจริงๆ ก็ได้
สุดท้ายเราเลยตอบปฏิเสธเค้าไปว่า "ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ" ละก้มหัวขอโทษเค้าไปด้วย พอปฏิเสธไปเราก็เห็นเค้ายิ้มให้ละบอกว่า "ขอโทษด้วยครับ" ซึ่งสีหน้าเค้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เรารู้ได้เลยว่าเค้าคงเสียเซลฟ์แน่ๆ จากนั้นเราก็เดินไปขึ้นรถกอล์ฟเข้าที่พัก พอถึงห้องเรื่องเมื่อกี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว เราเลยมานั่งคิด ทำไมเราไม่ลองให้ไลน์เค้าไปก่อน อย่างลองคุยดูก็ได้ นานๆทีจะมีคนเข้ามาจีบ ในใจก็แอบเสียดายแล้วเราก็รู้สึกผิดด้วยที่ไปปฏิเสธเค้า พอมานั่งคิดไปคิดมา อยากย้อนเวลาไปแล้วให้ไลน์เค้ามาก 555555
แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอเหมือนกัน แต่ทุกๆครั้งที่เจอแบบนี้ เราก็ปฏิเสธออกไปทุกครั้ง ทั้งๆที่ในใจเราเองก็อยากมีแฟน อยากลองมีความรักดูบ้าง เพราะตั้งแต่เกิดจนตอนนี้เข้าเลข 3 แล้ว ยังไม่เคยมีประสบการณ์ความรักแบบคนอื่น มันทำเราหงุดหงิดตัวเองมากจนมานั่งคิดทบทวนว่าทำไมเราถึงปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาด้วย พอคิดไปเรื่อยๆ เราเลยได้คำตอบมาค่ะ หรือว่าจริงๆ ที่เราปฏิเสธคนที่เค้าเข้ามา อาจจะเป็นเพราะปมเรื่องปัญหาครอบครัวที่เราเจอมาหรือเปล่า เราถึงทำแบบนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพราะเรื่องราวพวกนี้ที่เราเคยเจอมาหรือเปล่า (จริงๆ เจอมาเยอะกว่านี้ แต่เล่าแค่นี้ดีกว่า) ที่ทำให้เราไม่กล้าเปิดใจ หรือให้โอกาสใครเช้ามา ทุกๆครั้งที่เราเคยลองคุยกับใครสักคน เราจะชอบคิดว่ามันดีแล้วหรอที่จะคุยกับเค้าต่อไป ถ้าในอนาคตได้คบกันชึ้นมาแล้วเค้าไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด หรือเค้าเป็นคนแบบพ่อเราขึ้นมาละ หรือไม่ก็ถ้าคบกันแล้วเค้าไม่ชอบตัวตนเรา ไม่ชอบครอบครัวเราละ บางทีเรายังเคยคิดเลยว่าเราดีพอสำหรับใครสักคนหรือเปล่า
ทั้งหมดที่พิมพ์มายาวขนาดนี้ เราแค่อยากปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดีที่จะขจัดความคิดพวกนี้ออกไปได้ ทำอย่างไรดีที่เราจะก้าวข้ามความรู้สึกพวกนี้ไปแล้วลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีความรักในแบบคู่รักแบบคนอื่นเค้าบ้างค่ะ
อย่างไรเราขอขอบคุณใครก็ตามที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ของเรานะคะ มันเป็นครั้งแรกที่เราได้ระบายเรื่องราวในชีวิตออกมาบ้าง ถ้ากระทู้เราไม่ดีอย่างไร หรือทำให้ใครรู้สึกไม่ดีต้องขอโทษด้วยจริงๆ
สุดท้ายแค่อยากบอกผู้ชายที่เข้ามาไลน์เราวันนี้ค่ะ เราขอโทษจริงๆ นะคะ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ช่องทางติดต่อกับคุณอีกครั้งนะ