ธุรกิจรับทำความสะอาดบ้านของผู้เสียชีวิตในญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า
Tokushu Seiso (特殊清掃) หรือ "การทำความสะอาดพิเศษ" เป็นธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างมากในสังคมญี่ปุ่นยุคปัจจุบันครับ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมที่โดดเดี่ยวและความเปราะบางของความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ชัดเจนมาก
นี่คือสรุปข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจนี้ครับ
1. สาเหตุของการเติบโต
ขณะนี้ญี่ปุนเกิดปรากฏการณ์ที่มีชื่อเรียกว่า "
Kodokushi (
孤独死)" แปลว่า
"การตายอย่างโดดเดี่ยว" ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ลำพังและเสียชีวิตโดยไม่มีใครทราบข่าวเป็นเวลานาน (บางครั้งนานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน) สาเหตุมาจาก 2 ปัญหาใหญ่ได้แก่
- สังคมสูงวัย
ญี่ปุ่นมีประชากรผู้สูงอายุจำนวนมากที่แยกตัวจากลูกหลาน
- ความสัมพันธ์ที่ห่างเหิน
คนรุ่นใหม่นิยมใช้ชีวิตในเมืองใหญ่และไม่ค่อยกลับบ้านเกิด
2. ขอบเขตงานของ "พนักงานทำความสะอาดพิเศษ"
งานนี้ไม่ใช่แค่การกวาดถูบ้านทั่วไป แต่เป็นงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงและสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง ซึ่งงานโดยทั่วไปได้แก่
- การกำจัดรอยและกลิ่น
ร่างกายที่เน่าเปื่อยจะทิ้งคราบและกลิ่นที่รุนแรงมาก พนักงานต้องใช้สารเคมีเฉพาะทางและเครื่องผลิตโอโซนเพื่อกำจัดกลิ่นให้สิ้นซาก
- การจัดการแมลง
ต้องกำจัดแมลงที่เกิดขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติ
- การจัดเก็บสมบัติ (Ihin Seiri)
คัดแยกสิ่งของของผู้ตายเพื่อส่งต่อให้ญาติ หรือนำไปทำลาย/รีไซเคิลอย่างเหมาะสม
- พิธีกรรมทางศาสนา
หลายบริษัทจะมีบริการนิมนต์พระมาสวดส่งวิญญาณหรือทำพิธีชำระล้างพื้นที่ตามความเชื่อ เพื่อความสบายใจของเจ้าของตึกหรือผู้เช่ารายใหม่
3. มูลค่าและค่าใช้จ่ายของบริการ
ราคาค่าบริการจะขึ้นอยู่กับสภาพของห้องและระยะเวลาที่เสียชีวิตทิ้งไว้ ได้แก่
- ราคาเริ่มต้น
อาจอยู่ที่ประมาณ 50,000 เยน (ราว 12,000 บาท) สำหรับเคสที่ไม่หนักมาก
- เคสที่รุนแรง
หากต้องรื้อพื้นไม้ เปลี่ยนวอลเปเปอร์ หรือกำจัดเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ราคาอาจพุ่งสูงถึง 300,000 - 1,000,000 เยน (70,000 - 240,000 บาท) หรือมากกว่านั้น
4. มุมมองทางสังคมและจิตวิทยา
- อาชีพที่เป็นที่ต้องการแต่ถูกมองข้าม
ในอดีตงานนี้อาจถูกมองในแง่ลบ แต่ปัจจุบันสังคมญี่ปุ่นยอมรับว่าเป็น "งานที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา" เพราะเป็นการส่งผู้ล่วงลับในขั้นตอนสุดท้าย
- ความสะเทือนใจ
พนักงานมักเล่าว่าสิ่งที่เศร้าที่สุดไม่ใช่สภาพศพ แต่คือการเห็นจดหมายที่ยังไม่ได้ส่ง หรือปฏิทินที่ถูกขีดฆ่าทิ้งไว้ ซึ่งแสดงถึงความเหงาก่อนที่เขาจะจากไป
5. เทรนด์ใหม่: การเตรียมตัวก่อนตาย (Shu-katsu)
ปัจจุบันคนญี่ปุ่นหันมาทำ
Shu-katsu (終活) หรือ "กิจกรรมเตรียมตัวสู่บั้นปลาย" มากขึ้น โดยการจ้างบริษัทเหล่านี้มาคัดแยกข้าวของตั้งแต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่คนข้างหลังหรือพนักงานทำความสะอาดในอนาคต
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยขั้นสุดยอด (Super- Aged Society) ในอีกไม่ถึงสิบปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าธุรกิจแบบนี้ในประเทศไทยอาจเติบโตในอนาคตก็เป็นได้ ดังนั้นนักธุรกิจ และ Start-up ทั้งหลายสนใจลงทุนธุรกิจนี้ในประเทศไทยมั้ยครับ น่าจะได้บุญแถมได้เงินอีกด้วย
แหล่งอ้างอิงข้อมูลครับ
Dealing with the Dead in Japan: On Cleaning Up After the Departed
Insurance policy offered to cover costs for elderly who die alone
ธุรกิจแปลกๆ ที่กำลังเติบโตในประเทศญี่ปุ่น: ธุรกิจรับทำความสะอาดบ้านคนตาย
นี่คือสรุปข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจนี้ครับ
1. สาเหตุของการเติบโต
ขณะนี้ญี่ปุนเกิดปรากฏการณ์ที่มีชื่อเรียกว่า "Kodokushi (孤独死)" แปลว่า "การตายอย่างโดดเดี่ยว" ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ลำพังและเสียชีวิตโดยไม่มีใครทราบข่าวเป็นเวลานาน (บางครั้งนานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน) สาเหตุมาจาก 2 ปัญหาใหญ่ได้แก่
- สังคมสูงวัย
ญี่ปุ่นมีประชากรผู้สูงอายุจำนวนมากที่แยกตัวจากลูกหลาน
- ความสัมพันธ์ที่ห่างเหิน
คนรุ่นใหม่นิยมใช้ชีวิตในเมืองใหญ่และไม่ค่อยกลับบ้านเกิด
2. ขอบเขตงานของ "พนักงานทำความสะอาดพิเศษ"
งานนี้ไม่ใช่แค่การกวาดถูบ้านทั่วไป แต่เป็นงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงและสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง ซึ่งงานโดยทั่วไปได้แก่
- การกำจัดรอยและกลิ่น
ร่างกายที่เน่าเปื่อยจะทิ้งคราบและกลิ่นที่รุนแรงมาก พนักงานต้องใช้สารเคมีเฉพาะทางและเครื่องผลิตโอโซนเพื่อกำจัดกลิ่นให้สิ้นซาก
- การจัดการแมลง
ต้องกำจัดแมลงที่เกิดขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติ
- การจัดเก็บสมบัติ (Ihin Seiri)
คัดแยกสิ่งของของผู้ตายเพื่อส่งต่อให้ญาติ หรือนำไปทำลาย/รีไซเคิลอย่างเหมาะสม
- พิธีกรรมทางศาสนา
หลายบริษัทจะมีบริการนิมนต์พระมาสวดส่งวิญญาณหรือทำพิธีชำระล้างพื้นที่ตามความเชื่อ เพื่อความสบายใจของเจ้าของตึกหรือผู้เช่ารายใหม่
3. มูลค่าและค่าใช้จ่ายของบริการ
ราคาค่าบริการจะขึ้นอยู่กับสภาพของห้องและระยะเวลาที่เสียชีวิตทิ้งไว้ ได้แก่
- ราคาเริ่มต้น
อาจอยู่ที่ประมาณ 50,000 เยน (ราว 12,000 บาท) สำหรับเคสที่ไม่หนักมาก
- เคสที่รุนแรง
หากต้องรื้อพื้นไม้ เปลี่ยนวอลเปเปอร์ หรือกำจัดเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ราคาอาจพุ่งสูงถึง 300,000 - 1,000,000 เยน (70,000 - 240,000 บาท) หรือมากกว่านั้น
4. มุมมองทางสังคมและจิตวิทยา
- อาชีพที่เป็นที่ต้องการแต่ถูกมองข้าม
ในอดีตงานนี้อาจถูกมองในแง่ลบ แต่ปัจจุบันสังคมญี่ปุ่นยอมรับว่าเป็น "งานที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา" เพราะเป็นการส่งผู้ล่วงลับในขั้นตอนสุดท้าย
- ความสะเทือนใจ
พนักงานมักเล่าว่าสิ่งที่เศร้าที่สุดไม่ใช่สภาพศพ แต่คือการเห็นจดหมายที่ยังไม่ได้ส่ง หรือปฏิทินที่ถูกขีดฆ่าทิ้งไว้ ซึ่งแสดงถึงความเหงาก่อนที่เขาจะจากไป
5. เทรนด์ใหม่: การเตรียมตัวก่อนตาย (Shu-katsu)
ปัจจุบันคนญี่ปุ่นหันมาทำ Shu-katsu (終活) หรือ "กิจกรรมเตรียมตัวสู่บั้นปลาย" มากขึ้น โดยการจ้างบริษัทเหล่านี้มาคัดแยกข้าวของตั้งแต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่คนข้างหลังหรือพนักงานทำความสะอาดในอนาคต
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยขั้นสุดยอด (Super- Aged Society) ในอีกไม่ถึงสิบปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าธุรกิจแบบนี้ในประเทศไทยอาจเติบโตในอนาคตก็เป็นได้ ดังนั้นนักธุรกิจ และ Start-up ทั้งหลายสนใจลงทุนธุรกิจนี้ในประเทศไทยมั้ยครับ น่าจะได้บุญแถมได้เงินอีกด้วย
แหล่งอ้างอิงข้อมูลครับ
Dealing with the Dead in Japan: On Cleaning Up After the Departed
Insurance policy offered to cover costs for elderly who die alone