เล่าเรื่องอาหาร ปลาส้มฟัก



ย้อนเวลากลับไปอีกครั้งในช่วงปิดเทอม ชีวิตมหาวิทยาลัยของฉัน เป็นกิจวัตรประจำที่พวกเราจะแวะเวียนไปเที่ยวบ้านเพื่อนในจังหวัดต่างๆ ตามประสาเด็กหอ ที่มีเพื่อนอยู่แทบทุกจังหวัดทั่วไทย

แดดร้อนจัดตามแบบฉบับเดือนเมษายน พวกเรากำลังไปลพบุรี
การเดินทางไปต่างจังหวัดถือเป็นเรื่องตื่นเต้นสำหรับฉันเสมอ แต่ความทรงจำเรื่องการเดินทางมันขาดหายไปเป็นช่วงๆ ตามประสาผู้สูงอายุ ฉันจำไม่ได้ว่าเดินทางด้วยรถไฟ หรือรถประจำทาง 

แต่ที่จำได้ไม่ลืมคือ การเดินตลาดเช้า ตลาดไม่ได้ใหญ่โต แต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความหลากหลายของข้าวของเครื่องใช้และอาหารพื้นถิ่นที่น่าสนใจ
ในตลาดสด กลิ่นหอมของเครื่องเทศและปลาหมักปะปนกัน ปลาถูกแปรรูปเป็นรูปแบบต่าง ๆ วางขายกันเต็มไปหมด
สายตาไปสะดุดเข้ากับก้อนสีเนื้อ ที่ถูกบรรจุในถุงพลาสติกใส สอบถามดูพบว่าเป็นเนื้อปลาบดละเอียดที่ผสมกับข้าวเหนียวนึ่งและกระเทียม มองเผิน ๆ คล้ายแหนม แต่ไม่ใช่...
มันคือ... ปลาส้มฟัก…ของดังลพบุรีเลยนะ ประโยคท้ายเพื่อนฉันเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ

…ปลาส้มฟักแตกต่างจากปลาส้มที่เราเคยกินแบบเป็นตัวหรือเป็นชิ้น ตรงที่ปลาส้มฟักจะใช้เนื้อปลาสับหรือโขลกจนละเอียด แล้วคลุกเคล้ากับ กระเทียม เกลือ และข้าวเหนียวนึ่ง (ฉันนึกในใจว่า เรียกแหนมปลาก็คงจะได้)

 คำว่า 'ฟัก' มันมาจากไหน ตอนแรกฉันนึกว่ามีส่วนผสมของผลฟักเขียว แต่จริง ๆ แล้วมันมาจากวิธีการทำที่ 'ฟัก' หรือ 'บ่ม' ให้เกิดรสเปรี้ยวโดยธรรมชาติจากการหมักข้าว หรืออีกฝั่ง บอกว่า ฟัก เป็นภาษาพื้นถิ่นแปลว่า การสับละเอียด … อันนี้แบบไหนถูกต้อง เพื่อนของฉันก็ไม่ได้ยืนยัน

 เย็นวันนั้น พวกเราได้ลองลิ้มชิมรส ปลาส้มฟักหั่นเป็นชิ้นทอดในน้ำมันร้อน ๆ กลิ่นหอมของมันชวนน้ำลายสอทีเดียว
ปลาส้มฟักทอดร้อน ๆ กินคู่กับ พริกขี้หนูสดและใบมะกรูดทอดกรอบ เป็นความอร่อยที่ลงตัว เนื้อสัมผัสจะมีความแน่น มีความหนึบ รสชาติเปรี้ยวอมเค็มเด่นชัด กินกับข้าวเหนียวนึ่งหรือข้าวสวยก็อร่อยทั้งนั้น  เนื้อสัมผัสแตกต่างจากปลาส้มแบบเป็นตัวโดยสิ้นเชิง ให้ความอร่อยคนละแบบ ฉันชอบปลาส้มฟักมากกว่าปลาส้มธรรมดา เพราะมันไม่มีก้างมากวนใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่