"เพลี้ยลายบ้านเชียง" เพลี้ยกระโดดลายสวยน่ารัก เพลี้ยชนิดใหม่ของโลก
🐞
#เพลี้ยลายบ้านเชียง
หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hemisphaerius binduseni Constant & Jiaranaisakul, 2020 เป็นเพลี้ยกระโดด (Planhopper) ขนาดเล็กในวงศ์ Issidae ที่ได้รับการค้นพบว่าเป็นชนิดใหม่ของโลก
🇹🇭
โดยนักกีฏวิทยาชาวไทยและชาวเบลเยียม คือ รศ.ดร.นันทศักดิ์ ปิ่นแก้ว และ นายกวินท์ เจียรไนสกุล จากภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)
ลักษณะเด่นของเพลี้ยลายบ้านเชียง
🐞มีขนาดโดยเฉลี่ยเพียงประมาณ 4 มิลลิเมตรเท่านั้น
🐞มีลวดลายที่สวยงามและสะดุดตา โดยมีสีส้มขดไปมาบนปีกคล้ายกับลายไหบ้านเชียง ซึ่งเป็นภาชนะดินเผาโบราณจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี
🐞สีพื้นของปีกเป็นสีฟ้าอมเขียว (turquoise) ตัดกับลวดลายสีส้มอย่างชัดเจน
💡 ที่มาของชื่อวิทยาศาสตร์ Hemisphaerius binduseni
ชื่อวิทยาศาสตร์นี้ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
🐞Hemisphaerius เป็นชื่อสกุล (Genus) ของเพลี้ยกระโดดในวงศ์ Issidae ซึ่งเพลี้ยชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในสกุลนี้
🐞binduseni เป็นชื่อชนิด (Specific Epithet) ที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ศาสตราจารย์ ดร. บุญส่ง บิณฑุเสน (Prof. Dr. Boonsong Binduseni) อดีตคณบดีคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้บุกเบิกงานกีฏวิทยาของประเทศไทย
การตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ชนิดนี้จึงเป็นการให้เกียรติและรำลึกถึงคุณูปการของ ศาสตราจารย์ ดร. บุญส่ง บิณฑุเสน ต่อวงการเกษตรและกีฏวิทยาไทย
📍 สถานที่ค้นพบ
เพลี้ยชนิดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในป่ารกร้างภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งทำให้ มก. วิทยาเขตกำแพงแสน กลายเป็นแหล่งค้นพบต้นแบบ (type locality) ของเพลี้ยชนิดนี้
เพลี้ยลายบ้านเชียงถูกจัดเป็นเพลี้ยที่มีความสวยงาม และจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่ามันกินน้ำเลี้ยงจากหญ้าขนเป็นอาหาร และยังไม่ได้จัดเป็นศัตรูพืชที่สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อพืชผลทางการเกษตร
The Earth
"เพลี้ยลายบ้านเชียง" เพลี้ยกระโดดลายสวยน่ารัก เพลี้ยชนิดใหม่ของโลก 🐞
🐞
#เพลี้ยลายบ้านเชียง
หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hemisphaerius binduseni Constant & Jiaranaisakul, 2020 เป็นเพลี้ยกระโดด (Planhopper) ขนาดเล็กในวงศ์ Issidae ที่ได้รับการค้นพบว่าเป็นชนิดใหม่ของโลก
🇹🇭
โดยนักกีฏวิทยาชาวไทยและชาวเบลเยียม คือ รศ.ดร.นันทศักดิ์ ปิ่นแก้ว และ นายกวินท์ เจียรไนสกุล จากภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)
ลักษณะเด่นของเพลี้ยลายบ้านเชียง
🐞มีขนาดโดยเฉลี่ยเพียงประมาณ 4 มิลลิเมตรเท่านั้น
🐞มีลวดลายที่สวยงามและสะดุดตา โดยมีสีส้มขดไปมาบนปีกคล้ายกับลายไหบ้านเชียง ซึ่งเป็นภาชนะดินเผาโบราณจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี
🐞สีพื้นของปีกเป็นสีฟ้าอมเขียว (turquoise) ตัดกับลวดลายสีส้มอย่างชัดเจน
💡 ที่มาของชื่อวิทยาศาสตร์ Hemisphaerius binduseni
ชื่อวิทยาศาสตร์นี้ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
🐞Hemisphaerius เป็นชื่อสกุล (Genus) ของเพลี้ยกระโดดในวงศ์ Issidae ซึ่งเพลี้ยชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในสกุลนี้
🐞binduseni เป็นชื่อชนิด (Specific Epithet) ที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ศาสตราจารย์ ดร. บุญส่ง บิณฑุเสน (Prof. Dr. Boonsong Binduseni) อดีตคณบดีคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้บุกเบิกงานกีฏวิทยาของประเทศไทย
การตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ชนิดนี้จึงเป็นการให้เกียรติและรำลึกถึงคุณูปการของ ศาสตราจารย์ ดร. บุญส่ง บิณฑุเสน ต่อวงการเกษตรและกีฏวิทยาไทย
📍 สถานที่ค้นพบ
เพลี้ยชนิดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในป่ารกร้างภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งทำให้ มก. วิทยาเขตกำแพงแสน กลายเป็นแหล่งค้นพบต้นแบบ (type locality) ของเพลี้ยชนิดนี้
เพลี้ยลายบ้านเชียงถูกจัดเป็นเพลี้ยที่มีความสวยงาม และจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่ามันกินน้ำเลี้ยงจากหญ้าขนเป็นอาหาร และยังไม่ได้จัดเป็นศัตรูพืชที่สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อพืชผลทางการเกษตร
The Earth