JJNY : 5in1 เท้งขอโทษปชช.│โรมบอกทำไทยเสียเปรียบ│โค้ชแซมยันไปต่อ│ชี้ไทยผิดหวังทรัมป์โพสต์│รัสเซียถล่มระบบไฟฟ้ายูเครน

เท้ง นำอดีตหัวหน้าอนค.-ก้าวไกล ขอโทษปชช. แก้รธน.ไม่สำเร็จ มั่นใจเลือกตั้งหน้าเป็น ‘รบ.พรรคเดี่ยว’
https://www.matichon.co.th/politics/election69/news_5503043
.

.
เท้ง พร้อมหัวหน้าอนาคตใหม่-ก้าวไกล จัดกิจกรรม “ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน” ขอโทษปชช.แก้ รธน.ไม่สำเร็จ มั่นใจ เลือกตั้งหน้าเป็นรัฐบาลพรรคเดี่ยวได้ ตอบกลับหลังถูกมองเป็นพรรคเด็กน้อย ยอมรับรู้อยู่แล้วว่าเสี่ยงเซ็น MOA กับ ‘ภูมิใจไทย’ ลั่น อนาคตจะไม่ถูกหักหลังอีก
.
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร พรรคประชาชน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน จัดร่วมกิจกรรม “ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน” โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมเวทีด้วย
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอบคุณที่ทุกคนมาเป็นแรงใจช่วยสนับสนุนกัน ขอส่งคำขอโทษถึงทุกคน ไม่ว่าแต่ละคนจะมีความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นความรู้สึกผิดหวังในกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ หรือความรู้สึกอื่น ๆ ในการตัดสินของพรรคที่เราเดินทางมาร่วมกันไม่ว่าจะเกิดจากความรู้สึกใดก็ตาม ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความรับผิดชอบของตนเองและเป็นความรับผิดชอบของผู้นำพรรคคนปัจจุบัน
.
ตนเองไม่อยากให้ตกอยู่ในบรรยากาศโศกเศร้า ตั้งใจจะส่งคำขอโทษถึงทุกคน แต่อยากชวนทุกคนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพราะไม่นานจะมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งช่วงต้นเดือน ก.พ.69 แม้รัฐบาลจะไม่ให้ความชัดเจน มีสถานการณ์บางอย่างที่ยังไม่ได้เคาะวันเลือกตั้ง แต่เหลือเวลาอีกไม่นานที่พวกเราจะต้องชี้ชะตาตัดสินอนาคตของประเทศ จึงหวังว่าเวทีวันนี้จะเป็นการพูดคุยกันแบบเปิดอก เปิดให้สมาชิกพรรคทุกคนรวมถึงประชาชนทุกคนที่เป็นเจ้าของประเทศตัวจริงมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างเปิดกว้าง
.
วันนี้เป็นเวทีแรกที่มีหัวหน้าพรรคและอดีตหัวหน้าพรรค 4 คนอยู่ในเวทีเดียวกัน เพราะฉะนั้นทุกคำถามมีคำตอบ รวมถึงการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำอย่างไรให้พรรคประชาชนโดยเสียงของประชาชนมีความเข้มแข็งพอที่จะเปลี่ยนอนาคตของประเทศได้จริง
.
จากนั้นได้เปิดเวทีให้ สส.พรรคประชาชน อาทิ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายรังสิมันต์ โรม นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รวมถึงนายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาชนร่วมตอบคำถามประชาชน ด้วย
.
โดยช่วงหนึ่งที่เปิดประชาชนได้ถามคำถาม ประชาชนคนหนึ่งระบุว่าอยากให้พรรคประชาชนชนะ 300 เสียง อยากให้ชนะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว และให้นายณัฐพงษ์เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนประชาชนอีกรายระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการเลือกพรรคภูมิใจไทย ตอนนี้มีเสียงเย้ยหยันว่า “เราโง่ซ้ำซาก เราถูกหลอก
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวตอบโดยเชื่อว่าการตัดสินใจที่ผ่านฃมาเกิดจากการสอบถามสมาชิกพรรคผ่านกระบวนการที่เปิดกว้าง เราทำดีที่สุดแล้วได้สอบถามสมาชิกผู้เป็นเจ้าของพรรคอย่างรอบด้าน หากมองไปข้างหน้า เราจะเป็นพรรคมวลชนที่ซื่อตรงกับประชาชนตรงไปตรงมา มีดีลอะไรเอามาเซ็นใน MOA บนโต๊ะให้ประชาชนทุกคนเห็น การทำตรงไปตรงมาแล้วถูกฉีก MOA มีเสียงสะท้อนบอกว่าตกลงแล้วพรรคนี้เป็นพรรคเด็กน้อย โดนเขาหลอกอีกหรือไม่ ตนเองไม่เชื่อในการเมืองแบบนั้น เพราะจะต้องมีการดีลแบบลับ ๆ แบบนั้นคงไม่ใช่ตัวตนของเราที่เริ่มมาตั้งแต่สมัยนายธนาธร นายพิธา และนายชัยธวัช
.
สิ่งที่สำคัญเรามีการประเมินสถานการณ์รู้ว่ามีความเสี่ยงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่คำตอบคือเราจะป้องกันตัวเองอย่างไรในอนาคตไม่ให้ถูกหักหลังแบบนี้อีก สำหรับตนเองมีทางเลือกเดียวในระบบการเมืองไทยที่มีอยู่ ไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากเอาพลังของเราอิงกับเสียงของประชาชนเท่านั้น
.
ผมเชื่อมั่นในตัวทีมงาน ในตัวของพวกเรา โจทย์การเลือกตั้ง นอกจากจะมาแลกเปลี่ยนความรู้สึกแล้ว การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะทำอย่างไรให้ เราสามารถเป็นรัฐบาลพรรคเดียวให้ได้
.
ด้าน นายชัยธวัช กล่าวเสริมว่าการตัดสินใจของพรรคประชาชนในอนาคตจะทำอย่างไรไม่ผิดพลาดหรือทำให้ผู้สนับสนุนที่ให้เสียงเราสูญเสียความไว้วางใจ คิดว่าบทเรียน ที่ผ่านมาเห็นถึงข้อจำกัดในทางการเมืองในปัจจุบัน เมื่อวันที่ยุบสภา (11 ธ.ค.68) สะท้อนว่าตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล ประชาชนมีสิ่งหนึ่งที่เราทำอยากให้เกิดขึ้นคือ อยากทำให้สังคมไทยมีฉันทามติขึ้นชุดใหม่ แม้ว่าเราอาจจะเห็นไม่ตรงกันทุกเรื่อง มีความคิดทางการเมืองคนละเฉด แต่สุดท้ายหลังจากที่ผ่านความขัดแย้งน่าจะหาจุดตรงกลางที่พอจะยอมรับร่วมกันได้ โดยเฉพาะกติกาทางการเมืองที่ไม่มีใครได้ทั้งหมดเสียทั้งหมด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมีสิ่งที่ยังไม่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงแข็งตัวมากในระดับที่ไม่ถอยแม้สักก้าวเดียว ทำให้เกิดโจทย์ความเป็นไปได้ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างสันติที่อยู่ร่วมกันได้ หากเป็นไปได้จะต้องใช้ราคาที่ต้องจ่ายร่วมกันแค่ไหน สิ่งนี้เป็นโจทย์ที่เกิดขึ้นมาในใจ
.

.
"โรม" บอก "อนุทิน" ทำไทยเสียเปรียบ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_10058623
.
“โรม” บอก “อนุทิน” ทำไทยเสียเปรียบ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขอให้ข้อเท็จจริงกับประชาชนตรงๆ ฝาก การบ้านกต. ช่วงหลังอ่อน เร่งสื่อสารเชิงรุก เหตุ กพช. พยายามเบี่ยงประเด็นสแกมเมอร์ ตอกกลับคนวิจารณ์สนใจแต่แก้รธน.-เลือกตั้ง เหน็บ พรรคอื่นดูดสส.หนักกว่า ขออย่าเลือก คนพายเรือให้โจรเข้าสภา เป็นมือไม้กลุ่มทุนเทา
.
เมื่อวันที่13 ธ.ค. 2568 ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร นายรังสิมันต์ โรม อดีตสส.พรรคประชาชน กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ว่า จากการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หารือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งมีการโพสต์ผ่านโซเชียล ช่วงหนึ่งว่าการเหยียบทุ่นระเบิดของทหารไทย เป็นอุบัติเหตุ ว่า ตนขอใช้โอกาสนี้แสดงความเสียใจ ต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น และความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องอพยพ ตนในฐานะที่เป็นอดีตนักการเมือง และประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ มองสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง และเห็นว่าการปะทะกันนั้นมีการยกระดับ ทั้งการใช้โดรน หากพูดกันตรงไปตรงมา ฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินกันอยู่แล้วว่าจะมีการยกระดับในทิศทางแบบใด ซึ่งต้องยอมรับว่า ป้องกันได้ยากมากขึ้น แต่ถ้าหากมีการเตรียมตัวดีๆ เราก็สามารถเตรียมพร้อมและรับมือได้
.
ซึ่งฝ่ายทหารก็รับรู้และรับทราบเรื่องนี้ แต่ตนไม่รู้ว่าการสนับสนุนเครื่องมือในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้มีการปะทะกันอย่างเข้มข้น มีการเตรียมพร้อมเครื่องไม้เครื่องมือมากน้อยเพียงใด รวมทั้งมองว่าต้องกำหนดให้ชัด ว่าเหตุปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชา เราเน้นในการปกป้องประชาชน และบูรณภาพทางดินแดน ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำจึงมีหลายแนวรบ ไม่ใช่เฉพาะขาทหาร แต่ยังมีขาเรื่องปัญหาอาชญากรรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยรัฐ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายทำลายเสถียรภาพของประเทศเรา นอกจากนี้ยังมีขาในเรื่องของการต่างประเทศ
.
ทั้งนี้ยังมีเรื่องหนึ่งที่ตนเป็นห่วงคือบทสนทนา ที่นายอนุทินได้บอกต่อประชาชน ว่าสหรัฐเชื่อข้อเท็จจริงบางอย่าง ซึ่งไม่เป็นคุณต่อเรา ในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เป็นห่วงมาโดยตลอด เพราะปัญหาชายแดนไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยและประเทศอื่นๆ แต่เป็นปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชาที่จะต้องหาข้อยุติให้ได้ หากเรามีความขัดแย้งเพิ่มไปอีก จะทำให้ประเทศไทย บริหารสถานการณ์ที่วิกฤตได้ยากขึ้น ดังนั้นจึงต้องทำยุทธศาสตร์ ให้โลกล้อมกัมพูชา ไม่ใช่โลกล้อมไทย และรัฐบาลต้องใช้โอกาสนี้ แก้ปัญหาแนวรบเรื่องนี้ให้ได้ ทหารเป็นผู้ปฏิบัติ ทำหน้าที่ปกป้องตามแนวชายแดน แต่ในเรื่องการต่างประเทศ ปราบสแกมเมอร์ เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้ดีกว่านี้
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า สิ่งที่นายอนุทินกำลังปฏิบัติอยู่ไม่ดี ไม่ดีจริงๆ ทำให้ประเทศไทยไม่ได้ใช้ความได้เปรียบอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้เกิดบรรยากาศโลกล้อมกัมพูชา และสุดท้ายในปลายทางของความขัดแย้ง ตนเป็นห่วงว่า รัฐบาลยังบริหารจัดการแบบนี้ไม่ได้ ประเทศไทยอาจจะไม่ได้อยู่ในจุดที่ดีที่สุดอย่างที่เราควรจะได้
.
ส่วนภาพรวมไม่รู้ว่าใครพูดจริงหรือเท็จ เพราะไม่ได้อยู่ในห้องที่มีการสนทนากัน แล้ววันนี้ที่มีคำพูดออกมาว่าจะมีการหยุดยิง เวลา 22:00 น. ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นการสื่อสารจาก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่ตนคิดว่า ท่ามกลางความสับสนในเรื่องนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงกับประชาชน ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร และรัฐบาลต้องทำให้ประเทศไทยอยู่ในจุดที่ดีที่สุด มีเพื่อนมากที่สุด และโดดเดี่ยวกัมพูชาให้ได้ นั่นคือภารกิจของรัฐบาลที่ต้องทำ
.
ส่วนจะฝากการบ้านอย่างไรไปให้รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน
.
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไทยอยู่ในจุดที่ได้เปรียบหลายเรื่อง กัมพูชาไม่มีจุดได้เปรียบ แต่กลายเป็นว่างานข้อมูลข่าวสารกับต่างประเทศ กลับมีแนวโน้มฝั่งกัมพูชามากกว่าไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้องทำ คือต้องทำให้เข้าใจว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ฝ่ายที่ไม่ทำตามข้อตกลงคือกัมพูชา ไทยไม่ใช่ผู้รุกราน หรือทำลายสันติภาพ แต่เป็นฝ่ายกัมพูชาที่เป็นผู้ริเริ่ม หากไม่สามารถทำให้เรื่องนี้เกิดความชัดเจนได้ ไทยจะไม่ใช่ประเทศที่ได้เปรียบ
.
นอกจากนี้ต้องทำให้ทั่วโลกเข้าใจให้ได้ ว่ากัมพูชาต้องการนำปัญหาความขัดแย้ง เบี่ยงประเด็นการแก้ปัญหาสแกมเมอร์ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใหญ่กว่ากัมพูชา งานของกระทรวงการต่างประเทศแรกๆเหมือนจะดี แต่ตอนนี้กลายเป็นอ่อน จึงต้องเพิ่มการสื่อสารทำความเข้าใจ และรุกให้มากกว่านี้ เพิ่มช่องทางการสื่อสาร
.
ส่วนตั้งข้อสังเกตอย่างไรกับการที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และผู้นำกัมพูชา ออกมาระบุว่าเวลา 22:00 น คืนนี้จะหยุดยิง
.
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องตั้งคำถามว่าเป้าหมายของนายอนุทินคืออะไร การปกป้องประชาชนและการบูรณภาพทางดินแดน ตนเข้าใจว่ามันต้องเดิน แต่ที่สุดไม่ได้มีแค่สนามตรงนั้นในการสู้ แต่หากเราใช้ความคิด ข้อเท็จจริงข้อมูล ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึก ต้องเข้าใจว่าสนามรบไม่ได้มีแค่จุดนั้น แต่หากแพ้ในสนามอื่น สุดท้ายอาจจะเป็นโดมิโนได้ เพราะฉะนั้นจุดสำคัญคือนายอนุทิน ต้องมียุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน ทั้งแนวรบด้านการทูต แนวรบด้านการปราบปรามอาชญากรรม ด้านการพูดและแนวโน้มด้านการปราบปรามอาชญากรรม หากสิ่งเหล่านี้อ่อนลงจะเป็นการเสริมจุดแข็งให้กับกัมพูชา ตนก็ไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร แต่ต้องเอาข้อมูลความจริง พูดกับประชาชนตรงๆ ว่าสถานการณ์ถูกยกระดับไปถึงจุดใด ยอมรับว่าแนวหน้ามีความรุนแรงมาก โดรนราคาถูก มีการเตรียมไว้ 3,000 ลำ ซึ่งเป็นข้อมูลที่กองทัพรู้มาอยู่แล้ว จึงคาดหวังว่ารัฐบาลจะสนับสนุน ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถ ปกป้องบูรณภาพดินแดนและประชาชนได้อย่างเต็มที่ พร้อมยอมรับว่าการสู้รบย่อมมีการสูญเสีย ตนไม่อยากให้ลูกหลานที่อยู่ในแนวหน้า ได้รับความสูญเสีย จึงอยากให้มีเครื่องไม้เครื่องมือในการปกป้องชีวิตของพวกเขาอย่างสูงสุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่