ดูภาพข่าว ทุกสมรภูมิ มีภาพยืนยันผลการยิง เยอะมากครับ นี่เพราะเราพัฒนาทั้งสามทัพเป็นแบบการรบ Network centric operation warfare ครับ
การรบแบบ Network-Centric Warfare (NCW) หรือ สงครามเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง
คือ แนวคิดการรบยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเชื่อมโยงทุกหน่วยรบ (เซ็นเซอร์, ผู้สั่งการ, ผู้ยิง) เข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน ทำให้เกิด การรับรู้สถานการณ์ร่วมกัน (Situation Awareness) อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และแม่นยำ เพื่อเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ การปฏิบัติการ และอำนาจการยิง ให้เกิดความได้เปรียบทางข้อมูลข่าวสารเหนือข้าศึก.
หลักการสำคัญ:
การแลกเปลี่ยนข้อมูล: เชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแหล่ง (เช่น เรดาร์, ข้อมูลข่าวกรอง) สู่ส่วนกลางและทุกหน่วยปฏิบัติการ.
การรับรู้สถานการณ์ร่วม: ทุกหน่วยมองเห็นภาพรวมสนามรบเดียวกัน ทำให้เข้าใจสถานการณ์ได้รวดเร็ว.
การประสานงาน: การสั่งการและปฏิบัติการเป็นไปอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกัน.
อำนาจการยิงที่มีประสิทธิภาพ: ส่งข้อมูลเป้าหมายตรงไปยังหน่วยยิงที่เหมาะสม ทำให้โจมตีได้แม่นยำและรวดเร็ว.
องค์ประกอบหลัก:
เซ็นเซอร์ (Sensor): ระบบตรวจจับ (เช่น เรดาร์, ขีปนาวุธ, โดรน) ที่เก็บข้อมูล.
ผู้สั่งการ (Command & Control - C2): ระบบประมวลผลและตัดสินใจ.
ผู้ยิง (Shooter): ระบบอาวุธที่ทำการโจมตีเป้าหมาย.
เครือข่ายการสื่อสาร (Network): การเชื่อมโยงระหว่างส่วนประกอบต่างๆ.
ประโยชน์:
ความเร็ว: ลดวงจรการตัดสินใจ (OODA Loop) และเพิ่มความเร็วในการตอบสนอง.
ประสิทธิภาพ: ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่าขึ้น และลดการปฏิบัติการซ้ำซ้อน.
ความแม่นยำ: โจมตีเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น.
การป้องกันฝ่ายเดียวกัน (Blue on Blue): ลดความเสี่ยงที่หน่วยรบเดียวกันจะโจมตีกันเอง.
การประยุกต์ใช้ในกองทัพ:
กองทัพไทยนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ โดยมีการฝึกซ้อมร่วมระหว่างกองทัพบก, กองทัพเรือ, และกองทัพอากาศ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและระบบอาวุธ
เช่น การใช้ข้อมูลจากเครื่องบินลาดตระเวน (Saab 340 AEW) เพื่อเสริมประสิทธิภาพการตรวจจับของเรือรบ และการโจมตีเป้าหมายร่วมกัน.
การรบแบบ network

ทหารไทยรบแบบไหนครับ สุดยอดที่สุด
การรบแบบ Network-Centric Warfare (NCW) หรือ สงครามเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง
คือ แนวคิดการรบยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเชื่อมโยงทุกหน่วยรบ (เซ็นเซอร์, ผู้สั่งการ, ผู้ยิง) เข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน ทำให้เกิด การรับรู้สถานการณ์ร่วมกัน (Situation Awareness) อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และแม่นยำ เพื่อเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ การปฏิบัติการ และอำนาจการยิง ให้เกิดความได้เปรียบทางข้อมูลข่าวสารเหนือข้าศึก.
หลักการสำคัญ:
การแลกเปลี่ยนข้อมูล: เชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแหล่ง (เช่น เรดาร์, ข้อมูลข่าวกรอง) สู่ส่วนกลางและทุกหน่วยปฏิบัติการ.
การรับรู้สถานการณ์ร่วม: ทุกหน่วยมองเห็นภาพรวมสนามรบเดียวกัน ทำให้เข้าใจสถานการณ์ได้รวดเร็ว.
การประสานงาน: การสั่งการและปฏิบัติการเป็นไปอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกัน.
อำนาจการยิงที่มีประสิทธิภาพ: ส่งข้อมูลเป้าหมายตรงไปยังหน่วยยิงที่เหมาะสม ทำให้โจมตีได้แม่นยำและรวดเร็ว.
องค์ประกอบหลัก:
เซ็นเซอร์ (Sensor): ระบบตรวจจับ (เช่น เรดาร์, ขีปนาวุธ, โดรน) ที่เก็บข้อมูล.
ผู้สั่งการ (Command & Control - C2): ระบบประมวลผลและตัดสินใจ.
ผู้ยิง (Shooter): ระบบอาวุธที่ทำการโจมตีเป้าหมาย.
เครือข่ายการสื่อสาร (Network): การเชื่อมโยงระหว่างส่วนประกอบต่างๆ.
ประโยชน์:
ความเร็ว: ลดวงจรการตัดสินใจ (OODA Loop) และเพิ่มความเร็วในการตอบสนอง.
ประสิทธิภาพ: ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่าขึ้น และลดการปฏิบัติการซ้ำซ้อน.
ความแม่นยำ: โจมตีเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น.
การป้องกันฝ่ายเดียวกัน (Blue on Blue): ลดความเสี่ยงที่หน่วยรบเดียวกันจะโจมตีกันเอง.
การประยุกต์ใช้ในกองทัพ:
กองทัพไทยนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ โดยมีการฝึกซ้อมร่วมระหว่างกองทัพบก, กองทัพเรือ, และกองทัพอากาศ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและระบบอาวุธ
เช่น การใช้ข้อมูลจากเครื่องบินลาดตระเวน (Saab 340 AEW) เพื่อเสริมประสิทธิภาพการตรวจจับของเรือรบ และการโจมตีเป้าหมายร่วมกัน.
การรบแบบ network