สวัสดีครับ .. ช่วงนี้มีเพื่อนๆ หลายคนทักมาหา พี่เม่น ให้ช่วยเช็คเบี้ยประกันภัยสำหรับรถที่จะเอาไปวิ่งงานรถสาธารณะให้หน่อย ซึ่งพี่เม่นยินดีบริการเต็มที่ครับ
แต่ปัญหามันอยู่ที่ หลายคนมักจะสงสัยและหงุดหงิดนิดๆ ว่า...
พี่เม่นครับ ทำไมถามเยอะจัง? ขอเอกสารนั่นนี่วุ่นวายจัง? ทีรถเก๋งคันเก่าผม บอกแค่ ยี่ห้อ-รุ่น-ปี ก็รู้ราคาแล้วนะ
วันนี้พี่เม่นเลยขอมาเล่าให้ฟังแบบเปิดอกครับ ว่าทำไมข้อมูลพวกนี้ถึงจำเป็นมาก และถ้าไม่มีข้อมูล พี่เม่นก็เสนอราคาให้ไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ไม่อยากขายนะครับ แต่มันมีเหตุผลของมันอยู่
ทำไมรถบ้าน เช็คราคาง่ายกว่า?
รถยนต์ส่วนบุคคลที่เราใช้ขับไปทำงาน ไปเที่ยว (ไม่ได้รับจ้าง) บริษัทประกันเขามีข้อมูลสถิติอยู่เยอะมากครับ เขาเลยทำออกมาเป็น เบี้ยแพ็กเกจสำเร็จรูป ได้เลย ซึ่งเราทุกคนสามารถเช็คเบี้ยประกันภัยออนไลน์ด้วยตนเองได้อยู่แล้ว แต่การเช็คเบี้ยออนไลน์ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องการซื้อประกันภัยผิดประเภท หรือการใส่ข้อมุลผิดพลาด เนื่องจากการเช็คเบี้ยออนไลน์เราทำด้วยตัวเราเอง อาจจะเผลอทำอะไรผิดพลาดโดยที่เราไม่รุ้ตัว
กรณีที่ให้นายหน้าประกันภัยอย่างพี่เม่นช่วยดูแลการเช็คราคาประกันภัยรถยนต์ส่วนบุคคลให้ ถ้าทำงานลวก ๆ พี่เม่นก็เช็คเบี้ยออนไลน์ให้ได้เลย
แต่ถ้าต้องการทำงานให้ถูกต้อง พี่เม่นก็ต้องป้องกันความผิดพลาดจากการขอตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องเช่นกัน ซึ่งรายละเอียดของข้อมูลส่วนใหญ่จะอยู่ในเอกสาร 2 ฉบับนี้คือ
1 รายการจดทะเบียน
2 กรมธรรม์เดิม
แต่นี้ก็ยังไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมดที่เราจะต้องใช้ในการป้องกันความผิดพลาดยังมีข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมายที่จะต้องได้รับจากการพูดคุยกัน เมื่อได้รับข้อมุลแล้วนายหน้าประกันภัยก็สามารถคัดกรองแพคเกจสำเร็จรูปจากระบบแล้วบอกลูกค้าได้ทันที รวดเร็วทันใจครับ
แล้ว รถสาธารณะ ต่างกันตรงไหน?
รถที่เอามาวิ่งรับจ้าง หรือรถสาธารณะ ความเสี่ยงมันคนละเรื่องกับรถบ้านครับ และแต่ละคันก็มีความเสี่ยงไม่เท่ากัน
* วิ่งสาธารณะแบบไหน? มีหลายแบบ
* วิ่งโซนไหน? ความเสี่ยงไม่เท่ากัน
* ประวัติเก่าเป็นไง? ดูได้เบื้องต้นในกรมธรรม์เดิม
บริษัทประกันไม่มีแพ็กเกจสำเร็จรูป สำหรับรถใช้งานกลุ่มนี้ครับ
ขั้นตอนการทำงานคือ พี่เม่นต้องรวบรวมข้อมูลรถของเพื่อนๆ ส่งไปให้ฝ่ายรับประกันภัย (Underwriter) ของบริษัท คำนวณความเสี่ยงเป็น คันต่อคัน ครับ
ถ้าข้อมูลไม่ครบ บริษัทประกันเขาไม่รับพิจารณาครับ
ถ้าพี่เม่นส่งข้อมูลไปแค่ชื่อรุ่นรถ บริษัทประกันเขาจะตีกลับมาทันที เพราะเขาประเมินความเสี่ยงไม่ได้ครับ เค้าจะไม่เสียเวลาทำงานกับข้อมูลไม่แน่นอนที่ไม่ชัดเจนเพียงพอและอาจจะเกิดความผิดพลาด
ดังนั้น เพื่อให้ได้เบี้ยที่ถูกต้อง และราคาดีที่สุด พี่เม่นจำเป็นต้องขอ 6 อย่างนี้ครับ:
1. กรมธรรม์เดิม: มีข้อมูลเยอะแยะมากมายที่เกี่ยวข้องในกรมธรรม์เดิม ถ้าไม่มีเอกสารมาให้พี่เม่นอาจจะต้องถามคำถามเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก และบางคำถามผุ้เอาประกันภัยอาจจะตอบไม่ได้ แต่ภาพกรมธรรม์เดิมตอบได้ครับ
2. รายการจดทะเบียน: เพื่อดูรายละเอียดรถที่ถูกต้องเป๊ะๆ น้ำหนัก ซีซี ประเภทรถ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหาคำตอบได้เพียงแค่มีภาพเอกสาร
3. รายชื่อแอปฯ ที่วิ่ง: เช่น Grab, Bolt, LineMan ฯลฯ เพื่อเช็คและยืนยันลักษณะการใช้งาน เพราะประกันภัยรถยนต์สาธารณะ มีลักษณะการใช้งานหลากหลาย "รถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์" เป็น 1 ในความหลากหลายนั้น พี่เม่นจึงจำเป็นต้องคอนเฟิร์มลักษณะการใช้งานให้ตรงตามประเภทประกันภัยที่เสนอราคาด้วย
4. พื้นที่ที่วิ่งงาน: วิ่งแค่ในกรุงเทพฯ หรือวิ่งต่างจังหวัด ความเสี่ยงต่างกัน เบี้ยก็ต่างกันครับ
5. ประเภทประกันที่อยากได้: ป.1,และ ป3 เอาให้ชัวร์จะได้ไม่เสียเวลาในทุก ๆ ฝ่ายครับ ส่วน ป2+ และ ป3+ ไม่มีขายในประกันภัยรถยนต์สาธารณะครับ
6. วันเริ่มคุ้มครอง: การเช็คเบี้ยประกันภัยในช่วงปลายปี (ช่วงที่เขียนกระทู้นี้เดือนธันวาคม) จะต้องถามวันคุ้มครองด้วย เพราะฐานเบี้ยประกันภัยในแต่ละปีไม่เท่ากัน
สรุปง่ายๆ จากใจพี่เม่น
การเช็คเบี้ยรถสาธารณะ มันเหมือน การสั่งตัดสูท ครับ ช่างต้องวัดตัวละเอียด ถึงจะได้ชุดที่พอดีตัว
ต่างกับรถบ้าน ที่เหมือน เสื้อสำเร็จรูป ไซส์ S M L หยิบใส่ได้เลย
ถ้าเพื่อนๆ ให้ข้อมูลพี่เม่นไม่ครบ ก็เหมือนเดินไปหาช่างตัดเสื้อแต่ไม่ยอมให้วัดตัว ช่างเก่งแค่ไหนก็ตัดเสื้อให้ไม่ได้ครับ
พี่เม่นเองก็เหมือนกัน ถ้าข้อมูลไม่พอ ก็ไม่สามารถไปขอเบี้ยประกันภัยกับบริษัทประกันเพื่อเอาใบเสนอราคามาให้เพื่อนๆ ได้ครับ
โดยเฉพาะรายการจดทะเบียน และกรมธรรม์เดิม ต้องได้หลักฐานเป็นภาพเท่านั้น และบางกรณียังต้องขอรายละเอียดรุ่นย่อยเพิ่มเติม เพราะในเอกสารทั้ง 2 ใบนี้ไม่เขียนไว้
ใครที่กำลังมองหาประกันรถสาธารณะ เตรียม 6 ข้อนี้ให้พร้อมก่อนทักหาพี่เม่นหรือนายหน้าคนอื่น ๆ ครับ เดี๋ยวพี่เม่นจัดการหาข้อเสนอที่ดีที่สุดให้ครับ
ปล. เตือนนิดนึงนะครับ
รถที่เอาไปวิ่งงานรับจ้าง อย่าแอบซื้อประกันรถยนต์ส่วนบุคคลธรรมดานะครับ ถ้าเกิดเหตุแล้วเขาตรวจสอบเจอ ประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความคุ้มครองได้ตามกฎหมายเลยนะครับ เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายครับ
พี่เม่นนายหน้าประกันภัย
www.srikrung168.com
จะเช็คเบี้ยประกันรถวิ่งแอปฯ/รถสาธารณะ ทำไมต้องขอเอกสารเยอะจัง? บอกแค่รุ่นรถจบเลยไม่ได้เหรอ? พี่เม่น มีคำตอบครับ
แต่ปัญหามันอยู่ที่ หลายคนมักจะสงสัยและหงุดหงิดนิดๆ ว่า...
พี่เม่นครับ ทำไมถามเยอะจัง? ขอเอกสารนั่นนี่วุ่นวายจัง? ทีรถเก๋งคันเก่าผม บอกแค่ ยี่ห้อ-รุ่น-ปี ก็รู้ราคาแล้วนะ
วันนี้พี่เม่นเลยขอมาเล่าให้ฟังแบบเปิดอกครับ ว่าทำไมข้อมูลพวกนี้ถึงจำเป็นมาก และถ้าไม่มีข้อมูล พี่เม่นก็เสนอราคาให้ไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ไม่อยากขายนะครับ แต่มันมีเหตุผลของมันอยู่
ทำไมรถบ้าน เช็คราคาง่ายกว่า?
รถยนต์ส่วนบุคคลที่เราใช้ขับไปทำงาน ไปเที่ยว (ไม่ได้รับจ้าง) บริษัทประกันเขามีข้อมูลสถิติอยู่เยอะมากครับ เขาเลยทำออกมาเป็น เบี้ยแพ็กเกจสำเร็จรูป ได้เลย ซึ่งเราทุกคนสามารถเช็คเบี้ยประกันภัยออนไลน์ด้วยตนเองได้อยู่แล้ว แต่การเช็คเบี้ยออนไลน์ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องการซื้อประกันภัยผิดประเภท หรือการใส่ข้อมุลผิดพลาด เนื่องจากการเช็คเบี้ยออนไลน์เราทำด้วยตัวเราเอง อาจจะเผลอทำอะไรผิดพลาดโดยที่เราไม่รุ้ตัว
กรณีที่ให้นายหน้าประกันภัยอย่างพี่เม่นช่วยดูแลการเช็คราคาประกันภัยรถยนต์ส่วนบุคคลให้ ถ้าทำงานลวก ๆ พี่เม่นก็เช็คเบี้ยออนไลน์ให้ได้เลย
แต่ถ้าต้องการทำงานให้ถูกต้อง พี่เม่นก็ต้องป้องกันความผิดพลาดจากการขอตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องเช่นกัน ซึ่งรายละเอียดของข้อมูลส่วนใหญ่จะอยู่ในเอกสาร 2 ฉบับนี้คือ
1 รายการจดทะเบียน
2 กรมธรรม์เดิม
แต่นี้ก็ยังไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมดที่เราจะต้องใช้ในการป้องกันความผิดพลาดยังมีข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมายที่จะต้องได้รับจากการพูดคุยกัน เมื่อได้รับข้อมุลแล้วนายหน้าประกันภัยก็สามารถคัดกรองแพคเกจสำเร็จรูปจากระบบแล้วบอกลูกค้าได้ทันที รวดเร็วทันใจครับ
แล้ว รถสาธารณะ ต่างกันตรงไหน?
รถที่เอามาวิ่งรับจ้าง หรือรถสาธารณะ ความเสี่ยงมันคนละเรื่องกับรถบ้านครับ และแต่ละคันก็มีความเสี่ยงไม่เท่ากัน
* วิ่งสาธารณะแบบไหน? มีหลายแบบ
* วิ่งโซนไหน? ความเสี่ยงไม่เท่ากัน
* ประวัติเก่าเป็นไง? ดูได้เบื้องต้นในกรมธรรม์เดิม
บริษัทประกันไม่มีแพ็กเกจสำเร็จรูป สำหรับรถใช้งานกลุ่มนี้ครับ
ขั้นตอนการทำงานคือ พี่เม่นต้องรวบรวมข้อมูลรถของเพื่อนๆ ส่งไปให้ฝ่ายรับประกันภัย (Underwriter) ของบริษัท คำนวณความเสี่ยงเป็น คันต่อคัน ครับ
ถ้าข้อมูลไม่ครบ บริษัทประกันเขาไม่รับพิจารณาครับ
ถ้าพี่เม่นส่งข้อมูลไปแค่ชื่อรุ่นรถ บริษัทประกันเขาจะตีกลับมาทันที เพราะเขาประเมินความเสี่ยงไม่ได้ครับ เค้าจะไม่เสียเวลาทำงานกับข้อมูลไม่แน่นอนที่ไม่ชัดเจนเพียงพอและอาจจะเกิดความผิดพลาด
ดังนั้น เพื่อให้ได้เบี้ยที่ถูกต้อง และราคาดีที่สุด พี่เม่นจำเป็นต้องขอ 6 อย่างนี้ครับ:
1. กรมธรรม์เดิม: มีข้อมูลเยอะแยะมากมายที่เกี่ยวข้องในกรมธรรม์เดิม ถ้าไม่มีเอกสารมาให้พี่เม่นอาจจะต้องถามคำถามเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก และบางคำถามผุ้เอาประกันภัยอาจจะตอบไม่ได้ แต่ภาพกรมธรรม์เดิมตอบได้ครับ
2. รายการจดทะเบียน: เพื่อดูรายละเอียดรถที่ถูกต้องเป๊ะๆ น้ำหนัก ซีซี ประเภทรถ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหาคำตอบได้เพียงแค่มีภาพเอกสาร
3. รายชื่อแอปฯ ที่วิ่ง: เช่น Grab, Bolt, LineMan ฯลฯ เพื่อเช็คและยืนยันลักษณะการใช้งาน เพราะประกันภัยรถยนต์สาธารณะ มีลักษณะการใช้งานหลากหลาย "รถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์" เป็น 1 ในความหลากหลายนั้น พี่เม่นจึงจำเป็นต้องคอนเฟิร์มลักษณะการใช้งานให้ตรงตามประเภทประกันภัยที่เสนอราคาด้วย
4. พื้นที่ที่วิ่งงาน: วิ่งแค่ในกรุงเทพฯ หรือวิ่งต่างจังหวัด ความเสี่ยงต่างกัน เบี้ยก็ต่างกันครับ
5. ประเภทประกันที่อยากได้: ป.1,และ ป3 เอาให้ชัวร์จะได้ไม่เสียเวลาในทุก ๆ ฝ่ายครับ ส่วน ป2+ และ ป3+ ไม่มีขายในประกันภัยรถยนต์สาธารณะครับ
6. วันเริ่มคุ้มครอง: การเช็คเบี้ยประกันภัยในช่วงปลายปี (ช่วงที่เขียนกระทู้นี้เดือนธันวาคม) จะต้องถามวันคุ้มครองด้วย เพราะฐานเบี้ยประกันภัยในแต่ละปีไม่เท่ากัน
สรุปง่ายๆ จากใจพี่เม่น
การเช็คเบี้ยรถสาธารณะ มันเหมือน การสั่งตัดสูท ครับ ช่างต้องวัดตัวละเอียด ถึงจะได้ชุดที่พอดีตัว
ต่างกับรถบ้าน ที่เหมือน เสื้อสำเร็จรูป ไซส์ S M L หยิบใส่ได้เลย
ถ้าเพื่อนๆ ให้ข้อมูลพี่เม่นไม่ครบ ก็เหมือนเดินไปหาช่างตัดเสื้อแต่ไม่ยอมให้วัดตัว ช่างเก่งแค่ไหนก็ตัดเสื้อให้ไม่ได้ครับ
พี่เม่นเองก็เหมือนกัน ถ้าข้อมูลไม่พอ ก็ไม่สามารถไปขอเบี้ยประกันภัยกับบริษัทประกันเพื่อเอาใบเสนอราคามาให้เพื่อนๆ ได้ครับ
โดยเฉพาะรายการจดทะเบียน และกรมธรรม์เดิม ต้องได้หลักฐานเป็นภาพเท่านั้น และบางกรณียังต้องขอรายละเอียดรุ่นย่อยเพิ่มเติม เพราะในเอกสารทั้ง 2 ใบนี้ไม่เขียนไว้
ใครที่กำลังมองหาประกันรถสาธารณะ เตรียม 6 ข้อนี้ให้พร้อมก่อนทักหาพี่เม่นหรือนายหน้าคนอื่น ๆ ครับ เดี๋ยวพี่เม่นจัดการหาข้อเสนอที่ดีที่สุดให้ครับ
ปล. เตือนนิดนึงนะครับ
รถที่เอาไปวิ่งงานรับจ้าง อย่าแอบซื้อประกันรถยนต์ส่วนบุคคลธรรมดานะครับ ถ้าเกิดเหตุแล้วเขาตรวจสอบเจอ ประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความคุ้มครองได้ตามกฎหมายเลยนะครับ เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายครับ
พี่เม่นนายหน้าประกันภัย
www.srikrung168.com