ข้อคิดเห็นต่อผู้ออกนโยบายลดหย่อนภาษีTISA, RMF,บทเรียนจากLTF

เป็นมนุษย์ผู้ใช้การลดหย่อนภาษี ไม่ได้มีฐานเงินเดือนสูงอะไร
แต่มีข้อคิดเห็นต่อ ผู้ออกนโยบายการลดหย่อนภาษีในแต่ละปี
ที่ปีนี้ที่ประชุมพิจารณาจะใช้TISA เลียนแบบญี่ปุ่น(แม้ตลาดหุ้นเขาจะไม่ได้เลิศเลอแต่ก็น่าเชื่อถือว่าไทยมาก)

1.การออกนโยบายขอให้ประกาศระยะเวลาว่าจะใช้ไม่น้อยกว่ากี่ปี-หากประกาศแล้วน่าจะใช้ไม่น้อยกว่า20ปีไหม
ตัวอย่างคือLTF เราไม่แน่ใจว่าช่วงแรกมีการประกาศไหมว่าจะให้มีจนถึงปีอะไร
แต่พอมีข่าวว่าจะสิ้นสุดปี62_ราคากองทุนก็แนวโน้มดำดิ่ง เรียกว่าคนที่ซื้อใกล้ปีที่จะหมดอายุกองทุน ขาดทุนกันถ้วนหน้า

2.การออกกองทุน อยากให้คิดเพื่อคนออมเป็นหลัก(ตลาดหุ้นก็สำหรับคัญแต่คนออมน่าจะสำคัญกว่านะ)
ยุคต่อมาเมื่อหมดมุก LTF คือSSF ต่อมาก็มี ESG มีทั้งESG และ ESGX มาปลอบใจคนขาดทุนLTF
เราคิดว่า ผู้ออกนโยบายออกกอง SSF Thai ESG เพื่อมาแก้ปัญหาตลาดหุ้นเป็นหลัก ไม่ได้มองที่คนออม

3.เราเข้าใจว่า_ปีนี้TISA มีเพดานลดหย่อน_เพื่อเก็บภาษีจากคนรายได้สูงมาหล่อเลี้ยงคนทั้งประเทศ
คือเราก็ไม่ใช่กลุ่มคนมีรายได้สูง
แต่เมื่อคิดในฐานะปุถุชน คนมีมากจ่ายมาก คนมีน้อยจ่ายน้อย_เราคิดว่าสมเหตุสมผล
แต่จะดีกว่าไหมถ้าไม่แบ่งแยกให้มากไปคือ
หากมีอัตราภาษีเดียว_ลดหย่อนก็อัตราเดียว_ไม่ใช่เพดานจำกัดที่ตัวเลข
เช่น เงินได้ 100บาท อัตราภาษีถ้าไม่ลดหย่อนคือ 30%
ถ้าคุณลดหย่อนหักได้อีก 20%เพื่อให้คนออมเงินให้มาก
คนรายได้สูงเขาก็มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่เช่นกัน

4.ถ้าTISA ออกมาจริง จะมีผลให้RMF ที่เราคิดว่ามั่นคงมายาวนาน ด้อยค่าลงไหม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่