จากผู้รับเหมาภายใน สู่ฟาร์มดอกไม้กินได้สุดปัง!
ธุรกิจที่ว่านี้คือ
At Flower – Edible Flower Farm “ฟาร์มดอกไม้กินได้” ที่ใช้เวลาไม่ถึงสองปี กลายเป็นตัวท็อปในตลาด และทำยอดขายได้เดือนละ
800,000–900,000 บาท เลยทีเดียว!
จุดเริ่มต้นที่มาจากโอกาส + ไอเดียของเด็กมหาวิทยาลัย
- เจ้าของแบรนด์
คุณณิชชา สารพุทธิเดชา เดิมเป็นผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน แต่วันหนึ่งเธอไปเจองาน Pitching ของนักศึกษาที่ราชมงคลธัญบุรี มีน้องสองคนเสนอไอเดีย “ปลูกดอกไม้กินได้ และเพิ่มนวัตกรรมยืดอายุการเก็บ”
- ไอเดียมันใหม่ น่าสนใจ และตลาดระดับโรงแรม-คาเฟ่กำลังต้องการ เธอเลยชวนทั้งคู่มาตั้งบริษัทด้วยกัน กลายเป็นจุดเริ่มของแบรนด์ At Flower
ปีแรก = ปีแห่งการทดลอง (ล้มบ้าง รอดบ้าง)
- เธอยอมรับว่าเริ่มต้นแบบไม่รู้อะไรเลย ต้องลองปลูกเอง ศึกษาดิน วิธีดูแล เวลาเก็บ วิธีคัดพันธุ์ ฯลฯ
ช่วงแรกมีตายบ้าง รอดบ้าง แต่ถือเป็นบทเรียนที่ต้องผ่าน
- พื้นที่เพาะแรก ๆ อยู่ “คลอง 9” บนที่ดินของอาสาสมัครมหาวิทยาลัยที่อยากช่วยชาวบ้านมีอาชีพ จึงเริ่มขยายรูปแบบสู่ “วิสาหกิจชุมชน”
จากทีมเล็ก ๆ → สู่ Contract Farming กับชาวบ้าน 30 ครัวเรือน
- เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้แบบมั่นคง แบรนด์จึงพัฒนาเป็นระบบ
Contract Farming
ตอนนี้มีชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือนในปทุมธานี-ปราจีนบุรี ปลูกให้แบรนด์โดยตรง
- ดอกไม้ต้องผ่านการอบรมมาตรฐานเดียวกัน คัดคุณภาพ ตรวจแล็บ มีอัตราใช้งานได้ถึง 80–90%
ปัจจุบันมี “ดอกไม้กินได้กว่า 40 ชนิด” และเข้าโรงแรมกว่า 20–30 แห่ง!
ตลาดดอกไม้กินได้โตอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่ม
- โรงแรม
- คาเฟ่พรีเมียม
- ร้านอาหาร
- แบรนด์การบินไทย
- และโรงแรมใหญ่ เช่น เซ็นทารา
แม้ราคาจะสูงกว่าคู่แข่ง แต่ลูกค้าเชื่อมั่นเพราะควบคุมคุณภาพดีมาก และช่วยชุมชนไปด้วย
รายได้ดีขนาดไหน?
- ปีแรก
ขายแทบไม่ได้เลย
- พอจับตลาดถูก → รายได้พุ่ง
จาก
1,200 บาท/เดือน → 800,000–900,000 บาทต่อเดือน!
เรียกว่าปั้นธุรกิจจาก 0 แต่ทะยานเร็วมาก.
ใครสนใจทำอาชีพเสริม?
เขาบอกว่า
ทำได้จริง แต่ต้องมีวินัย พื้นที่เล็ก ๆ ก็เริ่มปลูกได้ เป็นอาชีพเสริมรายได้ดี เช่น
- ดอกเล็ก ๆ ขายได้ 0.20–1.50 บาทต่อต้น
- อัญชัน อยู่ได้นาน รายได้ยาว ๆ
ถ้าปลูกจริงจัง → ทำเงินได้ ถ้าปลูกแต่งบ้านเฉย ๆ → ได้ค่าขนมเล็กน้อย
แบรนด์เองยังเปิดอบรมการปลูกอย่างเป็นระบบด้วย
ที่มา
khaosod
ดอกไม้กินได้ At Flower ทำไมแค่ 2 ปี รายได้พุ่งเดือนละเกือบล้าน?
ธุรกิจที่ว่านี้คือ At Flower – Edible Flower Farm “ฟาร์มดอกไม้กินได้” ที่ใช้เวลาไม่ถึงสองปี กลายเป็นตัวท็อปในตลาด และทำยอดขายได้เดือนละ 800,000–900,000 บาท เลยทีเดียว!
จุดเริ่มต้นที่มาจากโอกาส + ไอเดียของเด็กมหาวิทยาลัย
- เจ้าของแบรนด์ คุณณิชชา สารพุทธิเดชา เดิมเป็นผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน แต่วันหนึ่งเธอไปเจองาน Pitching ของนักศึกษาที่ราชมงคลธัญบุรี มีน้องสองคนเสนอไอเดีย “ปลูกดอกไม้กินได้ และเพิ่มนวัตกรรมยืดอายุการเก็บ”
- ไอเดียมันใหม่ น่าสนใจ และตลาดระดับโรงแรม-คาเฟ่กำลังต้องการ เธอเลยชวนทั้งคู่มาตั้งบริษัทด้วยกัน กลายเป็นจุดเริ่มของแบรนด์ At Flower
ปีแรก = ปีแห่งการทดลอง (ล้มบ้าง รอดบ้าง)
- เธอยอมรับว่าเริ่มต้นแบบไม่รู้อะไรเลย ต้องลองปลูกเอง ศึกษาดิน วิธีดูแล เวลาเก็บ วิธีคัดพันธุ์ ฯลฯ
ช่วงแรกมีตายบ้าง รอดบ้าง แต่ถือเป็นบทเรียนที่ต้องผ่าน
- พื้นที่เพาะแรก ๆ อยู่ “คลอง 9” บนที่ดินของอาสาสมัครมหาวิทยาลัยที่อยากช่วยชาวบ้านมีอาชีพ จึงเริ่มขยายรูปแบบสู่ “วิสาหกิจชุมชน”
จากทีมเล็ก ๆ → สู่ Contract Farming กับชาวบ้าน 30 ครัวเรือน
- เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้แบบมั่นคง แบรนด์จึงพัฒนาเป็นระบบ Contract Farming
ตอนนี้มีชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือนในปทุมธานี-ปราจีนบุรี ปลูกให้แบรนด์โดยตรง
- ดอกไม้ต้องผ่านการอบรมมาตรฐานเดียวกัน คัดคุณภาพ ตรวจแล็บ มีอัตราใช้งานได้ถึง 80–90%
ปัจจุบันมี “ดอกไม้กินได้กว่า 40 ชนิด” และเข้าโรงแรมกว่า 20–30 แห่ง!
ตลาดดอกไม้กินได้โตอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่ม
- โรงแรม
- คาเฟ่พรีเมียม
- ร้านอาหาร
- แบรนด์การบินไทย
- และโรงแรมใหญ่ เช่น เซ็นทารา
แม้ราคาจะสูงกว่าคู่แข่ง แต่ลูกค้าเชื่อมั่นเพราะควบคุมคุณภาพดีมาก และช่วยชุมชนไปด้วย
รายได้ดีขนาดไหน?
- ปีแรก ขายแทบไม่ได้เลย
- พอจับตลาดถูก → รายได้พุ่ง
จาก 1,200 บาท/เดือน → 800,000–900,000 บาทต่อเดือน!
เรียกว่าปั้นธุรกิจจาก 0 แต่ทะยานเร็วมาก.
ใครสนใจทำอาชีพเสริม?
เขาบอกว่า ทำได้จริง แต่ต้องมีวินัย พื้นที่เล็ก ๆ ก็เริ่มปลูกได้ เป็นอาชีพเสริมรายได้ดี เช่น
- ดอกเล็ก ๆ ขายได้ 0.20–1.50 บาทต่อต้น
- อัญชัน อยู่ได้นาน รายได้ยาว ๆ
ถ้าปลูกจริงจัง → ทำเงินได้ ถ้าปลูกแต่งบ้านเฉย ๆ → ได้ค่าขนมเล็กน้อย
แบรนด์เองยังเปิดอบรมการปลูกอย่างเป็นระบบด้วย
ที่มา khaosod