นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก เกิดที่เมืองบรา(Bra) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในแคว้นปีเยมอนเต (Piedmont - Piemonte) ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1786 บิดามารดาของท่านมีฐานะยากจนในทรัพย์สมบัติทางโลก แต่ร่ำรวยคุณธรรมอันสูงส่งทั้งด้านจิตใจและนิสัย บิดามารดาผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมคู่นี้ให้กำเนิดบุตร 12 คน นักบุญยอแซฟเป็นบุตรคนโต และร่างกายอ่อนแอมากเทามื่อตอนยังเป็นทารก มารดาจึงหวาดกลัวที่จะสูญเสียท่านไปอยู่เสมอ แต่การสวดภาวนาอย่างแรงกล้าและการดูแลเอาใจใส่อย่างซื่อสัตย์ของผู้เป็นมารดาทำให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง ทันทีที่มารดาของท่านเข้าใจ แล้วก็ทำให้จิตใจของมารดาเต็มไปด้วยความคิดถึงแต่พระเจ้าและพระแม่มารีย์ และมารดาของท่านก็เอาใจใส่อบรมสั่งสอนท่านให้ทำกิจเมตตาแก่คนยากจน
เมื่อครั้งที่นักบุญยอแซฟยังหนุ่ม ท่านได้เข้าเป็นสมาชิกคณะฟรังซินกัน ชั้น 3 (Third Order of Saint Francis) และได้แสดงตนด้วยจิตวิญญาณแห่งความยากจนที่สุด ท่านยังพยายามอย่างขยันขันแข็งที่จะปลูกฝังความรักต่อศีลมหาสนิทและพระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าทั้งในตัวท่านเองและผู้อื่น ควบคู่ไปกับความวางใจอย่างสูงสุดในพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้า อารมณ์ขันแบบคณะฟรังซินกันก็ประดับประดาท่านนักบุญผู้นี้ ปราศจากอุปสรรค , พายุ หรือความยากลำบากใดๆที่จะสลัดออกไปได้
โลโก้ คณะฟรังซินกัน ชั้น 3 (Third Order of Saint Francis)
คณะฟรังซินกัน ชั้น 3 (Third Order of Saint Francis)
คณะฟรังซินกัน ชั้น 3 (Third Order of Saint Francis)
ในการเตรียมผู้รับใช้ของพระองค์ให้พร้อมสำหรับภารกิจในชีวิต พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพได้ประทานสิ่งจำเป็นที่สุดของจิตวิญญาณมนุษย์แก่นักบุญยอแซฟ นั่นคือ “หนึ่งในหมื่น (one in ten thousand.)” ที่ “นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ (Saint Francis de Sales - Saint François de Sales)” แนะนำให้ “ฟีโอเธีย (Phiothea)” เลือกเป็นพระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาป พระสงฆ์ประจำเขตวัดนักบุญอันดรูว์ อัครสาวก (Saint Andrew the Apostle) นอกจากจะเป็นพระสงฆ์ผู้เปี่ยมด้วยความกระตือรือร้น , วาทศิลป์ และความศรัทธาอันแรงกล้าแล้ว ท่านยังมีความรักพิเศษต่อคนยากจนและผู้ทุกข์ยาก ท่านอนุญาตให้เด็กน้อยผู้อ่อนโยนและบริสุทธิ์คนนี้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 9 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่ไม่ธรรมดาในขณะนั้น
“นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ (Saint Francis de Sales - Saint François de Sales)”
นักบุญอันดรูว์ อัครสาวก (Saint Andrew the Apostle)
ที่โรงเรียน นักบุญยอแซฟรู้สึกโศกเศร้าอย่างยิ่งที่ต้องเป็นเด็กหลังห้องเสมอ พระสงฆ์บางคนแนะนำให้เขาสวดภาวนาต่อ “นักบุญโทมัส อไควนัส (Saint Thomas Aquinas - San Tommaso d'Aquino)” หลังจากนั้นท่านก็ได้เลื่อนขั้นจากเเรียนด็กหลังห้องขึ้นเป็นหัวหน้าห้อง ด้วยตระหนักว่า เหตุการณ์นี้เป็นพระพรพิเศษจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจึงปรารถนาที่จะตอบแทนอย่างสุดความสามารถ จึงประกาศอยู่เสมอว่า “ข้าพเจ้าจะพยายามเป็นนักบุญ”
“นักบุญโทมัส อไควนัส (Saint Thomas Aquinas - San Tommaso d'Aquino)” ที่ “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)” สวดภาวนาต่อท่าน
แม้ต้องเผชิญอุปสรรคมากมายในการเตรียมตัวสู่ฐานะสงฆ์อันศักดิ์สิทธิ์ แต่ท่านก็สามารถผ่านการทดสอบต่างๆของการเป็นสงฆ์ได้ และในวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 1811 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระสงฆ์ประจำวัดแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล (Church of the Immaculate Conception) ในเมืองตูริน (Turin - Torino) ท่านทุ่มเทอย่างแรงกล้าให้กับหน้าที่พระสงฆ์ทุกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนยากจนและคนป่วย ถึงกระนั้น ใจของท่านก็ยังไม่รู้จักพอ เพราะท่านรู้สึกว่า “พระเจ้าทรงตั้งพระทัยให้ท่านกิจการพิเศษบางอย่าง”
แม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล (Immaculate Conception)
ในฐานะสงฆ์ประจำวัดพระกายพระคริสตเจ้า (Church of Corpus Christi) ในเมืองตูริน ท่านได้รับแรงบันดาลใจจากภาพความทุกข์ยากที่ปรากฏอยู่ทั่วไป และจากการอ่านชีวประวัติของ “นักบุญวินเซน เดอ ปอล (Saint Vincent de Paul)” ให้ท่านมีส่วนร่วมในการบรรเทาทุกข์ของมนุษยชาติ ก้าวแรกของท่าน คือ การจัดหาการดูแลและที่พักพิงแก่ผู้ยากจจนในเขตวัด โดยการเช่าห้องพักบางส่วนเป็นโรงพยาบาล และดึงดูดให้เบายาวขนหญิงบางคนมาร่วมงาน
พระกายพระคริสตเจ้า (Corpus Christi)
“นักบุญวินเซน เดอ ปอล (Saint Vincent de Paul)” ผู้ที่ “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)” อ่านชีวประวัติ ทำให้ท่านมีส่วนร่วมในการบรรเทาทุกข์ของมนุษยชาติ
ในปีค.ศ. 1832 ได้มีการก่อตั้งสถานสงเคราะห์ขึ้นที่เมืองวัลด็อกโก บุญราศีพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 9 (Blessed Pope Pius IX) ทรงเรียกสถานสงเคราะห์แห่งนี้ว่า “บ้านแห่งอัศจรรย์” และเป็นที่รู้จักกันในชื่อมหาวิทยาลัยการกุศล เนื่องจากงานการกุศลที่หลากหลายซึ่งท่านนักบุญได้ริเริ่มขึ้น ณ ที่แห่งนี้ โดยไม่มีรายได้หรือวิสัยทัศน์ใดๆ นอกจากความไว้วางใจอย่างกล้าหาญในพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้า แม้ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว งานการกุศลดังกล่าว ซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว มีทั้งโรงพยาบาล , โรงฝึกงาน , โรงเรียน , สามเณราลัย , อารามชีลับและชีสว่าง มีสถานสงเคราะห์สำหรับผู้สูงอายุ , ผู้ที่อ่อนแอและป่วยทางจิต , คนพิการ , ผู้ป่วยโรคลมชัก , คนตาบอด , คนหูหนวก ,คนใบ้ และอื่นๆอีกมากมาย
“บุญราศีพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 9 (Blessed Pope Pius IX)” ทรงเรียกสถานสงเคราะห์ที่เมืองวัลด็อกโกแห่งนี้ว่า “บ้านแห่งอัศจรรย์” และเป็นที่รู้จักกันในชื่อมหาวิทยาลัยการกุศล ซึ่งก่อตั้งโดย “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)”
นักบุญยอแซฟซื้ออาหารให้ผู้ป่วยยากจนด้วยความน่าเชื่อถือของท่าน แต่ครั้งหนึ่งลืมจ่ายหนี้หลังจากผ่านไปหลายเดือน เจ้าหนี้ผู้นั้นรู้สึกไม่พอใจ จึงไปทวงหนี้ด้วยตนเอง ท่านนักบุญไม่มีเงิน และพิสูจน์ด้วยการล้วงกระเป๋าและลิ้นชักทั้งหมดในบ้าน เจ้าหนี้โกรธจัดมากจนเริ่มทำร้ายนักบุญยอแซฟ ท่านจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าอีกครั้ง คราวนี้ท่านหยิบเหรียญทองหลายเหรียญ ทั้งที่ไม่เคยอยู่ในกระเป๋ามาก่อนออกมาจ่ายให้เจ้าหนี้ที่กำลังผู้ประหลาดใจ
เมื่อ “เมืองแห่งการกุศล” นี้มีประชากรราวๆ 8,000 คน และพวกเขาพยายามต่อต้านอย่างหนักที่จะจ่ายรายได้ที่แน่นอนให้กับสถานที่แห่งนี้
เมื่อเจ้าหน้าที่ของเมืองตูรินยอมให้ประชาชนต่อต้านและสั่งปิดสถานสงเคราะห์หลังเดิม ท่านนักบุญก็ทำตามด้วยรอยยิ้มและพาโรงพยาบาลกลับเข้าเมืองโดยกล่าวว่า “กะหล่ำปลีเจริญเติบโตได้ดีกว่าเมื่อปลูก” ชุมชนอันกว้างใหญ่ของท่านพร้อมด้วยส่วนต่างๆท่านทรงเรียกว่า “เรือโนอาห์ (Noah’s Ark)”
นักบุญยอแซฟ เพิ่งมีอายุได้ 55 ปีเมื่อท่านได้เสียชีวิต ชั่วโมงสุดท้ายของท่านถูกใช้ไปกับการสวดภาวนาอย่างแรงกล้า ท่านเสียชีวิตในเวลาเย็น เมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1842 มีอัศจรรย์มากมายเกิดขึ้นที่หลุมศพของท่าน รวมถึงการรักษาโรคภัยไข้เจ็บทางกายและทางใจมากมาย บางคนถึงกับได้เห็นท่านประจักษ์ให้เห็นด้วยซ้ำ
ท่านได้รับการประกาศเป็นบุญราศี (Blessed) โดยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 15 (Pope Benedict XV) เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1917 และได้รับการประกาศเป็นนักบุญ (Saint) โดยพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 11 (Pope Pius XI) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1934 วันฉลองของท่าน คือ วันที่ 30 เมษายน ของทุกปี
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 15 (Pope Benedict XV) ผู้ประกาศให้ “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)” เป็นบุญราศี (Blessed) เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1917
พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 11 (Pope Pius XI) ผู้ประกาศให้ “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)” เป็นนักบุญ (Saint) เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1917
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญยอแซฟเบเนดิกต์คอตโตเลนโก #นักบุญยอแซฟ #กิจเมตตา #เมตตาธรรม #กิจเมตตา #การกุศล #catholic #SaintJosephBenedictCottolengo #SaintJoseph #SanGiuseppeBenedettoCottolengo #SanGiuseppe
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/17fwX8XZ7Q/?mibextid=wwXIfr
ชีวประวัติ นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)
นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก เกิดที่เมืองบรา(Bra) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในแคว้นปีเยมอนเต (Piedmont - Piemonte) ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1786 บิดามารดาของท่านมีฐานะยากจนในทรัพย์สมบัติทางโลก แต่ร่ำรวยคุณธรรมอันสูงส่งทั้งด้านจิตใจและนิสัย บิดามารดาผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมคู่นี้ให้กำเนิดบุตร 12 คน นักบุญยอแซฟเป็นบุตรคนโต และร่างกายอ่อนแอมากเทามื่อตอนยังเป็นทารก มารดาจึงหวาดกลัวที่จะสูญเสียท่านไปอยู่เสมอ แต่การสวดภาวนาอย่างแรงกล้าและการดูแลเอาใจใส่อย่างซื่อสัตย์ของผู้เป็นมารดาทำให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง ทันทีที่มารดาของท่านเข้าใจ แล้วก็ทำให้จิตใจของมารดาเต็มไปด้วยความคิดถึงแต่พระเจ้าและพระแม่มารีย์ และมารดาของท่านก็เอาใจใส่อบรมสั่งสอนท่านให้ทำกิจเมตตาแก่คนยากจน
เมื่อครั้งที่นักบุญยอแซฟยังหนุ่ม ท่านได้เข้าเป็นสมาชิกคณะฟรังซินกัน ชั้น 3 (Third Order of Saint Francis) และได้แสดงตนด้วยจิตวิญญาณแห่งความยากจนที่สุด ท่านยังพยายามอย่างขยันขันแข็งที่จะปลูกฝังความรักต่อศีลมหาสนิทและพระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าทั้งในตัวท่านเองและผู้อื่น ควบคู่ไปกับความวางใจอย่างสูงสุดในพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้า อารมณ์ขันแบบคณะฟรังซินกันก็ประดับประดาท่านนักบุญผู้นี้ ปราศจากอุปสรรค , พายุ หรือความยากลำบากใดๆที่จะสลัดออกไปได้
โลโก้ คณะฟรังซินกัน ชั้น 3 (Third Order of Saint Francis)
คณะฟรังซินกัน ชั้น 3 (Third Order of Saint Francis)
คณะฟรังซินกัน ชั้น 3 (Third Order of Saint Francis)
ในการเตรียมผู้รับใช้ของพระองค์ให้พร้อมสำหรับภารกิจในชีวิต พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพได้ประทานสิ่งจำเป็นที่สุดของจิตวิญญาณมนุษย์แก่นักบุญยอแซฟ นั่นคือ “หนึ่งในหมื่น (one in ten thousand.)” ที่ “นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ (Saint Francis de Sales - Saint François de Sales)” แนะนำให้ “ฟีโอเธีย (Phiothea)” เลือกเป็นพระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาป พระสงฆ์ประจำเขตวัดนักบุญอันดรูว์ อัครสาวก (Saint Andrew the Apostle) นอกจากจะเป็นพระสงฆ์ผู้เปี่ยมด้วยความกระตือรือร้น , วาทศิลป์ และความศรัทธาอันแรงกล้าแล้ว ท่านยังมีความรักพิเศษต่อคนยากจนและผู้ทุกข์ยาก ท่านอนุญาตให้เด็กน้อยผู้อ่อนโยนและบริสุทธิ์คนนี้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 9 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่ไม่ธรรมดาในขณะนั้น
“นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ (Saint Francis de Sales - Saint François de Sales)”
นักบุญอันดรูว์ อัครสาวก (Saint Andrew the Apostle)
ที่โรงเรียน นักบุญยอแซฟรู้สึกโศกเศร้าอย่างยิ่งที่ต้องเป็นเด็กหลังห้องเสมอ พระสงฆ์บางคนแนะนำให้เขาสวดภาวนาต่อ “นักบุญโทมัส อไควนัส (Saint Thomas Aquinas - San Tommaso d'Aquino)” หลังจากนั้นท่านก็ได้เลื่อนขั้นจากเเรียนด็กหลังห้องขึ้นเป็นหัวหน้าห้อง ด้วยตระหนักว่า เหตุการณ์นี้เป็นพระพรพิเศษจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจึงปรารถนาที่จะตอบแทนอย่างสุดความสามารถ จึงประกาศอยู่เสมอว่า “ข้าพเจ้าจะพยายามเป็นนักบุญ”
“นักบุญโทมัส อไควนัส (Saint Thomas Aquinas - San Tommaso d'Aquino)” ที่ “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)” สวดภาวนาต่อท่าน
แม้ต้องเผชิญอุปสรรคมากมายในการเตรียมตัวสู่ฐานะสงฆ์อันศักดิ์สิทธิ์ แต่ท่านก็สามารถผ่านการทดสอบต่างๆของการเป็นสงฆ์ได้ และในวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 1811 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระสงฆ์ประจำวัดแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล (Church of the Immaculate Conception) ในเมืองตูริน (Turin - Torino) ท่านทุ่มเทอย่างแรงกล้าให้กับหน้าที่พระสงฆ์ทุกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนยากจนและคนป่วย ถึงกระนั้น ใจของท่านก็ยังไม่รู้จักพอ เพราะท่านรู้สึกว่า “พระเจ้าทรงตั้งพระทัยให้ท่านกิจการพิเศษบางอย่าง”
แม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล (Immaculate Conception)
ในฐานะสงฆ์ประจำวัดพระกายพระคริสตเจ้า (Church of Corpus Christi) ในเมืองตูริน ท่านได้รับแรงบันดาลใจจากภาพความทุกข์ยากที่ปรากฏอยู่ทั่วไป และจากการอ่านชีวประวัติของ “นักบุญวินเซน เดอ ปอล (Saint Vincent de Paul)” ให้ท่านมีส่วนร่วมในการบรรเทาทุกข์ของมนุษยชาติ ก้าวแรกของท่าน คือ การจัดหาการดูแลและที่พักพิงแก่ผู้ยากจจนในเขตวัด โดยการเช่าห้องพักบางส่วนเป็นโรงพยาบาล และดึงดูดให้เบายาวขนหญิงบางคนมาร่วมงาน
พระกายพระคริสตเจ้า (Corpus Christi)
“นักบุญวินเซน เดอ ปอล (Saint Vincent de Paul)” ผู้ที่ “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)” อ่านชีวประวัติ ทำให้ท่านมีส่วนร่วมในการบรรเทาทุกข์ของมนุษยชาติ
ในปีค.ศ. 1832 ได้มีการก่อตั้งสถานสงเคราะห์ขึ้นที่เมืองวัลด็อกโก บุญราศีพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 9 (Blessed Pope Pius IX) ทรงเรียกสถานสงเคราะห์แห่งนี้ว่า “บ้านแห่งอัศจรรย์” และเป็นที่รู้จักกันในชื่อมหาวิทยาลัยการกุศล เนื่องจากงานการกุศลที่หลากหลายซึ่งท่านนักบุญได้ริเริ่มขึ้น ณ ที่แห่งนี้ โดยไม่มีรายได้หรือวิสัยทัศน์ใดๆ นอกจากความไว้วางใจอย่างกล้าหาญในพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้า แม้ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว งานการกุศลดังกล่าว ซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว มีทั้งโรงพยาบาล , โรงฝึกงาน , โรงเรียน , สามเณราลัย , อารามชีลับและชีสว่าง มีสถานสงเคราะห์สำหรับผู้สูงอายุ , ผู้ที่อ่อนแอและป่วยทางจิต , คนพิการ , ผู้ป่วยโรคลมชัก , คนตาบอด , คนหูหนวก ,คนใบ้ และอื่นๆอีกมากมาย
“บุญราศีพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 9 (Blessed Pope Pius IX)” ทรงเรียกสถานสงเคราะห์ที่เมืองวัลด็อกโกแห่งนี้ว่า “บ้านแห่งอัศจรรย์” และเป็นที่รู้จักกันในชื่อมหาวิทยาลัยการกุศล ซึ่งก่อตั้งโดย “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)”
นักบุญยอแซฟซื้ออาหารให้ผู้ป่วยยากจนด้วยความน่าเชื่อถือของท่าน แต่ครั้งหนึ่งลืมจ่ายหนี้หลังจากผ่านไปหลายเดือน เจ้าหนี้ผู้นั้นรู้สึกไม่พอใจ จึงไปทวงหนี้ด้วยตนเอง ท่านนักบุญไม่มีเงิน และพิสูจน์ด้วยการล้วงกระเป๋าและลิ้นชักทั้งหมดในบ้าน เจ้าหนี้โกรธจัดมากจนเริ่มทำร้ายนักบุญยอแซฟ ท่านจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าอีกครั้ง คราวนี้ท่านหยิบเหรียญทองหลายเหรียญ ทั้งที่ไม่เคยอยู่ในกระเป๋ามาก่อนออกมาจ่ายให้เจ้าหนี้ที่กำลังผู้ประหลาดใจ
เมื่อ “เมืองแห่งการกุศล” นี้มีประชากรราวๆ 8,000 คน และพวกเขาพยายามต่อต้านอย่างหนักที่จะจ่ายรายได้ที่แน่นอนให้กับสถานที่แห่งนี้
เมื่อเจ้าหน้าที่ของเมืองตูรินยอมให้ประชาชนต่อต้านและสั่งปิดสถานสงเคราะห์หลังเดิม ท่านนักบุญก็ทำตามด้วยรอยยิ้มและพาโรงพยาบาลกลับเข้าเมืองโดยกล่าวว่า “กะหล่ำปลีเจริญเติบโตได้ดีกว่าเมื่อปลูก” ชุมชนอันกว้างใหญ่ของท่านพร้อมด้วยส่วนต่างๆท่านทรงเรียกว่า “เรือโนอาห์ (Noah’s Ark)”
นักบุญยอแซฟ เพิ่งมีอายุได้ 55 ปีเมื่อท่านได้เสียชีวิต ชั่วโมงสุดท้ายของท่านถูกใช้ไปกับการสวดภาวนาอย่างแรงกล้า ท่านเสียชีวิตในเวลาเย็น เมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1842 มีอัศจรรย์มากมายเกิดขึ้นที่หลุมศพของท่าน รวมถึงการรักษาโรคภัยไข้เจ็บทางกายและทางใจมากมาย บางคนถึงกับได้เห็นท่านประจักษ์ให้เห็นด้วยซ้ำ
ท่านได้รับการประกาศเป็นบุญราศี (Blessed) โดยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 15 (Pope Benedict XV) เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1917 และได้รับการประกาศเป็นนักบุญ (Saint) โดยพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 11 (Pope Pius XI) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1934 วันฉลองของท่าน คือ วันที่ 30 เมษายน ของทุกปี
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 15 (Pope Benedict XV) ผู้ประกาศให้ “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)” เป็นบุญราศี (Blessed) เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1917
พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 11 (Pope Pius XI) ผู้ประกาศให้ “นักบุญยอแซฟ เบเนดิกต์ คอตโตเลนโก (Saint Joseph Benedict Cottolengo - San Giuseppe Benedetto Cottolengo)” เป็นนักบุญ (Saint) เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1917
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญยอแซฟเบเนดิกต์คอตโตเลนโก #นักบุญยอแซฟ #กิจเมตตา #เมตตาธรรม #กิจเมตตา #การกุศล #catholic #SaintJosephBenedictCottolengo #SaintJoseph #SanGiuseppeBenedettoCottolengo #SanGiuseppe
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/17fwX8XZ7Q/?mibextid=wwXIfr