”ทำธุรกิจกงสี แค่ขยันอย่างเดียว ไม่พออีกต่อไปแล้ว“

นี่คือความจริงที่น่าตกใจจากรายงาน Global Family Business Report 2025 ที่ไปสำรวจธุรกิจครอบครัวเกือบ 3,000 แห่งทั่วโลก แล้วพบว่า มีเพียง 32% เท่านั้นที่ถูกจัดว่าเป็น "ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ"
.
อีก 68% ที่เหลือ... กำลังติดอยู่ใน "กับดัก"
กับดักของคำว่า "ทำแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว"
กับดักของระบบ "เดี๋ยวค่อยคุยกันที่บ้าน"
.
แล้วกลุ่ม 32% ที่รอดและรุ่ง เขาทำอะไรต่างจากเรา?
รายงานสรุปออกมาเป็น "ทางรอด" ที่คุณทำตามได้ทันที เพื่อเปลี่ยนทิศทางของปีหน้าให้ดีขึ้น
.
1. กล้าให้ "คนนอก" มาคุมเกม (Professional Board)
สถิติบอกชัดเจนว่า ธุรกิจที่มีคณะกรรมการอย่างเป็นทางการ มีโอกาสสำเร็จมากกว่าถึง 10% นั่นคือต้องเลิกบริหารแบบ "พ่อสั่งลูก ลูกเกรงใจแม่" แต่ต้องมีคนนอก หรือบอร์ดที่กล้าทุบโต๊ะ กล้าขัดใจ และตัดสินด้วย Data ไม่ใช่อารมณ์มาบริหารร่วม
.
2. เปลี่ยน "มรดก" ให้เป็น "Start-up" (Transgenerational Entrepreneurship)
อย่าให้ลูกหลานมารับช่วงต่อเพื่อ "เฝ้าร้าน" แต่ต้องให้เขามาเพื่อ "สร้างเรื่องใหม่"
ธุรกิจที่อนุญาตให้ลูกหลานใส่ความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ลงไป สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ โดยไม่ติดกรอบเดิม มีโอกาสสำเร็จพุ่งสูงขึ้นถึง 43%!
.
3. ระบบครอบครัวต้องแข็งเท่าระบบบัญชี (Family Governance)
จุดตายของกงสีคือ "ความสัมพันธ์พัง" ธุรกิจที่รอด คือธุรกิจที่แยก "เรื่องงาน" กับ "เรื่องบ้าน" ออกจากกันชัดเจน มีการสื่อสารที่โปร่งใส ไม่ใช่การซุบซิบ และมีธรรมนูญครอบครัวที่ทุกคนยอมรับ
.
สำหรับปี 2025 โลกโหดร้ายกับธุรกิจที่อ่อนแอ และล้าหลัง
การรักกันในครอบครัวเป็นเรื่องดี แต่ความรักอย่างเดียวบริหารธุรกิจไม่ได้
ดังนั้น ถ้าไม่อยากเป็น 68% ที่หายไป เราต้องเลิกบริหารแบบ "บ้านๆ" แล้วก้าวสู่ความเป็น "มืออาชีพ" อย่างเต็มตัว
.
.
#ทำที่บ้าน
#FamilyBusiness
#ธุรกิจครอบครัว
CR https://www.facebook.com/share/18uPfRhvSC/?mibextid=wwXIfr

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่