
TITLE: Hunger 2023 : ดูจบแล้วอยากจะบอกว่า... เห้ย! มันมีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะเลยครับ!
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังไทยเรื่องนึงที่เพิ่งได้ดูมาสดๆ ร้อนๆ แล้วรู้สึกว่ามันน่าเอามาเล่าสู่กันฟังมากๆ เลยครับ ชื่อเรื่องก็ตรงตัวเลย "Hunger" หรือ "ความหิว" นั่นแหละครับ ตอนแรกที่เห็นโปสเตอร์ เห็นนักแสดงนำอย่าง พี่ชาลี (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) กับ น้องชู (กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา) ก็แอบคิดว่าคงจะเป็นหนังดราม่าชีวิต หรือไม่ก็แนวการแข่งขันทำอาหารอะไรเทือกนั้นแหละครับ แต่พอดูไปเรื่อยๆ อ้าวเฮ้ย! มันไม่ใช่แค่นั้นจริงๆ ครับ
หนังเล่าเรื่องของ "ออย" (กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา) เชฟหนุ่มไฟแรงที่ทำงานในร้านอาหารเล็กๆ ริมถนน วันนึงเขาได้รับโอกาสครั้งใหญ่ให้เข้าร่วมทีม "Hunger" สตูดิโออาหารสุดหรูที่โด่งดังและมีชื่อเสียงระดับโลก นำโดยเชฟ "พอล" (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) ผู้เปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์และมาตรฐานอันเข้มงวด ออยต้องผ่านการฝึกฝนสุดโหดที่เรียกว่า "การแข่งขัน" ที่ไม่ใช่แค่การทำอาหาร แต่เป็นการทดสอบทั้งร่างกาย จิตใจ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่า "Hunger" มันโดดเด่นกว่าหนังแนวทำอาหารทั่วไปก็คือ การที่มันเจาะลึกเข้าไปถึงเบื้องหลังของวงการอาหารระดับสูงครับ มันไม่ใช่แค่การโชว์สกิลการทำอาหารสวยๆ งามๆ แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงโลกที่เบื้องหน้าดูหรูหรา แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด การเมืองภายในองค์กร การกดดัน การเหยียบย่ำกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จและชื่อเสียง
ผมชอบที่หนังมันไม่ได้นำเสนอแค่ด้านดีๆ ของวงการนี้ แต่มันกล้าที่จะเปิดเผยด้านมืดออกมาให้เราเห็นอย่างชัดเจน การทำงานที่กดดันจนแทบจะระเบิด การต้องทำตามคำสั่งที่บางครั้งก็ดูไร้เหตุผล การที่ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ สามารถทำลายทุกอย่างที่สร้างมาได้ทั้งหมด มันทำให้เราเห็นภาพเลยว่า กว่าจะมาถึงจุดสูงสุดของวงการนี้ มันต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง
ตัวละคร "เชฟพอล" นี่เป็นตัวละครที่ผมมองว่ามีมิติมากๆ ครับ ในสายตาคนนอก เขาอาจจะดูเป็นคนเย็นชา โหดร้าย ไร้หัวใจ แต่เมื่อเราได้ดูเรื่องราวของเขามากขึ้น เราจะเริ่มเข้าใจว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น แรงกดดันอะไรที่หล่อหลอมให้เขาเป็นแบบนี้ การตัดสินใจบางอย่างของเขา ถึงแม้จะดูรุนแรง แต่มันก็มีเหตุผลรองรับในแบบของเขาเอง พี่ปีเตอร์แสดงได้ดีมากๆ ครับ ถ่ายทอดอารมณ์ความกดดัน ความคาดหวัง และความเปราะบางออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ
ส่วน "ออย" ก็เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีความฝัน มีไฟ แต่ก็ยังต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับโลกที่โหดร้ายใบนี้ การเดินทางของออยตั้งแต่เริ่มต้นจนเกือบจะถึงจุดสุดยอด มันเต็มไปด้วยอุปสรรค การตั้งคำถามกับตัวเอง และการค้นหาความหมายที่แท้จริงของ "การทำอาหาร" ในมุมมองของเขาเอง น้องชูเองก็แสดงได้สมบทบาทครับ สื่อสารความมุ่งมั่น ความสับสน และการเติบโตของตัวละครออกมาได้ดี
อีกอย่างที่ผมประทับใจคือ งานภาพและโปรดักชั่นครับ การถ่ายทำฉากอาหารออกมาได้สวยงาม น่ากินมากๆ ครับ สีสัน การจัดวาง ทุกอย่างดูประณีต ใส่ใจในรายละเอียดจริงๆ ทำให้เราอินไปกับบรรยากาศของร้านอาหารหรูๆ และการแข่งขันอันเข้มข้นได้เป็นอย่างดี เสียงประกอบและดนตรีก็ช่วยเสริมอารมณ์ของหนังได้ดีเลยครับ
แต่ต้องบอกก่อนว่า "Hunger" ไม่ใช่หนังที่ดูแล้วสบายใจนะครับ มันมีความตึงเครียด ค่อนข้างกดดันตลอดเวลา เพราะมันสะท้อนความจริงของวงการที่เต็มไปด้วยการแข่งขันสูงมากๆ ครับ บางฉากอาจจะทำให้เรารู้สึกอึดอัด หรือไม่สบายใจไปกับตัวละครได้เหมือนกัน แต่ผมว่านี่แหละคือเสน่ห์ของมัน ที่ทำให้เราได้คิดตาม และตั้งคำถามกับตัวเอง
โดยรวมแล้ว ผมว่า "Hunger" เป็นหนังไทยที่น่าสนใจและทำออกมาได้ดีเลยครับ มันไม่ใช่แค่หนังทำอาหาร แต่เป็นการสำรวจจิตใจมนุษย์ การต่อสู้เพื่อความฝัน และความหมายของความสำเร็จในอีกมุมมองหนึ่ง ถ้าใครกำลังมองหาหนังที่ดูแล้วได้คิด ได้ลุ้น ได้เห็นอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม ผมว่าเรื่องนี้ไม่ควรพลาดครับ
ส่วนใครที่ดูแล้วเป็นยังไงบ้าง หรือมีความคิดเห็นยังไงกับหนังเรื่องนี้ มาแชร์กันได้นะครับ ผมพร้อมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเสมอครับ ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านรีวิวของผมครับ
Hunger 2023 : ดูจบแล้วอยากจะบอกว่า... เห้ย! มันมีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะเลยครับ!
TITLE: Hunger 2023 : ดูจบแล้วอยากจะบอกว่า... เห้ย! มันมีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะเลยครับ!
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังไทยเรื่องนึงที่เพิ่งได้ดูมาสดๆ ร้อนๆ แล้วรู้สึกว่ามันน่าเอามาเล่าสู่กันฟังมากๆ เลยครับ ชื่อเรื่องก็ตรงตัวเลย "Hunger" หรือ "ความหิว" นั่นแหละครับ ตอนแรกที่เห็นโปสเตอร์ เห็นนักแสดงนำอย่าง พี่ชาลี (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) กับ น้องชู (กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา) ก็แอบคิดว่าคงจะเป็นหนังดราม่าชีวิต หรือไม่ก็แนวการแข่งขันทำอาหารอะไรเทือกนั้นแหละครับ แต่พอดูไปเรื่อยๆ อ้าวเฮ้ย! มันไม่ใช่แค่นั้นจริงๆ ครับ
หนังเล่าเรื่องของ "ออย" (กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา) เชฟหนุ่มไฟแรงที่ทำงานในร้านอาหารเล็กๆ ริมถนน วันนึงเขาได้รับโอกาสครั้งใหญ่ให้เข้าร่วมทีม "Hunger" สตูดิโออาหารสุดหรูที่โด่งดังและมีชื่อเสียงระดับโลก นำโดยเชฟ "พอล" (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) ผู้เปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์และมาตรฐานอันเข้มงวด ออยต้องผ่านการฝึกฝนสุดโหดที่เรียกว่า "การแข่งขัน" ที่ไม่ใช่แค่การทำอาหาร แต่เป็นการทดสอบทั้งร่างกาย จิตใจ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่า "Hunger" มันโดดเด่นกว่าหนังแนวทำอาหารทั่วไปก็คือ การที่มันเจาะลึกเข้าไปถึงเบื้องหลังของวงการอาหารระดับสูงครับ มันไม่ใช่แค่การโชว์สกิลการทำอาหารสวยๆ งามๆ แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงโลกที่เบื้องหน้าดูหรูหรา แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด การเมืองภายในองค์กร การกดดัน การเหยียบย่ำกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จและชื่อเสียง
ผมชอบที่หนังมันไม่ได้นำเสนอแค่ด้านดีๆ ของวงการนี้ แต่มันกล้าที่จะเปิดเผยด้านมืดออกมาให้เราเห็นอย่างชัดเจน การทำงานที่กดดันจนแทบจะระเบิด การต้องทำตามคำสั่งที่บางครั้งก็ดูไร้เหตุผล การที่ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ สามารถทำลายทุกอย่างที่สร้างมาได้ทั้งหมด มันทำให้เราเห็นภาพเลยว่า กว่าจะมาถึงจุดสูงสุดของวงการนี้ มันต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง
ตัวละคร "เชฟพอล" นี่เป็นตัวละครที่ผมมองว่ามีมิติมากๆ ครับ ในสายตาคนนอก เขาอาจจะดูเป็นคนเย็นชา โหดร้าย ไร้หัวใจ แต่เมื่อเราได้ดูเรื่องราวของเขามากขึ้น เราจะเริ่มเข้าใจว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น แรงกดดันอะไรที่หล่อหลอมให้เขาเป็นแบบนี้ การตัดสินใจบางอย่างของเขา ถึงแม้จะดูรุนแรง แต่มันก็มีเหตุผลรองรับในแบบของเขาเอง พี่ปีเตอร์แสดงได้ดีมากๆ ครับ ถ่ายทอดอารมณ์ความกดดัน ความคาดหวัง และความเปราะบางออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ
ส่วน "ออย" ก็เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีความฝัน มีไฟ แต่ก็ยังต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับโลกที่โหดร้ายใบนี้ การเดินทางของออยตั้งแต่เริ่มต้นจนเกือบจะถึงจุดสุดยอด มันเต็มไปด้วยอุปสรรค การตั้งคำถามกับตัวเอง และการค้นหาความหมายที่แท้จริงของ "การทำอาหาร" ในมุมมองของเขาเอง น้องชูเองก็แสดงได้สมบทบาทครับ สื่อสารความมุ่งมั่น ความสับสน และการเติบโตของตัวละครออกมาได้ดี
อีกอย่างที่ผมประทับใจคือ งานภาพและโปรดักชั่นครับ การถ่ายทำฉากอาหารออกมาได้สวยงาม น่ากินมากๆ ครับ สีสัน การจัดวาง ทุกอย่างดูประณีต ใส่ใจในรายละเอียดจริงๆ ทำให้เราอินไปกับบรรยากาศของร้านอาหารหรูๆ และการแข่งขันอันเข้มข้นได้เป็นอย่างดี เสียงประกอบและดนตรีก็ช่วยเสริมอารมณ์ของหนังได้ดีเลยครับ
แต่ต้องบอกก่อนว่า "Hunger" ไม่ใช่หนังที่ดูแล้วสบายใจนะครับ มันมีความตึงเครียด ค่อนข้างกดดันตลอดเวลา เพราะมันสะท้อนความจริงของวงการที่เต็มไปด้วยการแข่งขันสูงมากๆ ครับ บางฉากอาจจะทำให้เรารู้สึกอึดอัด หรือไม่สบายใจไปกับตัวละครได้เหมือนกัน แต่ผมว่านี่แหละคือเสน่ห์ของมัน ที่ทำให้เราได้คิดตาม และตั้งคำถามกับตัวเอง
โดยรวมแล้ว ผมว่า "Hunger" เป็นหนังไทยที่น่าสนใจและทำออกมาได้ดีเลยครับ มันไม่ใช่แค่หนังทำอาหาร แต่เป็นการสำรวจจิตใจมนุษย์ การต่อสู้เพื่อความฝัน และความหมายของความสำเร็จในอีกมุมมองหนึ่ง ถ้าใครกำลังมองหาหนังที่ดูแล้วได้คิด ได้ลุ้น ได้เห็นอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม ผมว่าเรื่องนี้ไม่ควรพลาดครับ
ส่วนใครที่ดูแล้วเป็นยังไงบ้าง หรือมีความคิดเห็นยังไงกับหนังเรื่องนี้ มาแชร์กันได้นะครับ ผมพร้อมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเสมอครับ ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านรีวิวของผมครับ