หนุ่ม(เหมือนจะ)กล้ามโต เพราะการดำน้ำ...

หนุ่ม(เหมือนจะ)กล้ามโต เพราะการดำน้ำไม่ถูกวิธี และอุบัติเหตุ



ย้อนกลับไปในปี 2013 ในขณะที่ อเลฮานโดร “วิลลี่” รามอส มาร์ติเนซ หรือ วิลลี่ ชาวประมงจากเปรู กำลังดำน้ำลึกลงไปกว่า 30 เมตร เพื่อหาสัตว์ทะเลบริเวณนอกชายฝั่งเมืองปิสโก

จู่ ๆ ท่อหายใจจากการดำน้ำแบบปั๊มลมของเขาก็ขาด ทำให้เขาต้องขึ้นมาสู่ผิวน้ำอย่างเร่งด่วน(จขกท. - จุดปลอดภัยสำหรับการขึ้นผิวน้ำตัวเปล่าของนักดำน้ำอยู่ที่๑ฟุต/๑วินาที หรือตามฟองอากาศฟองที่เล็กที่สุด และห้ามกลั้นหายใจ ต้องปล่อยลมในปอดออกมาเรื่อยๆ) นั่นจึงทำให้ร่างกายของเขาต้องเผชิญกับความกดอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดฟองไนโตรเจนขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นบริเวณหน้าอกและแขนของเขา จนทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนไป

ซึ่งสิ่งที่วิลลีต้องเผชิญถูกเรียกว่า โรคน้ำหนีบ (Decompression Sickness)

หลังจากถูกส่งไปโรงพยาบาล แพทย์สามารถกำจัดฟองไนโตรเจนได้ประมาณ 30% และมีความหวังว่าสุดท้ายแล้วเขาจะหายดี แต่หลังจากผ่านไป 8 ปี วิลลี่ยังคงมีร่างกายบวมโตและเขายังคงหาวิธีรักษาร่างกายของเขาอยู่

ในกรณีของวิลลี่ถือเป็นกรณีพิเศษหนึ่งเดียวในโลก เพราะโรคน้ำหนีบมักมีอาการที่แตกต่างกันไป ปกติแล้วจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณกระดูกและข้อ และอาจส่งผลต่อระบบประสาท บางครั้งอาจทำให้เป็นอัมพาตหรือถึงขนาดไม่รอดชีวิต

แต่ก็ไม่เคยมีใครต้องเจออาการแบบวิลลี่ เพราะมันทำให้กล้ามเนื้อไบเซ็ปส์ของเขามีขนาดใหญ่ขึ้นจนมีเส้นรอบวงประมาณ 62 ซม. และ 72 ซม. เนื่องจากฟองไนโตรเจนเกาะติดกับกล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ ของเขา

ดังนั้น การผ่าตัดจึงไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย เขาต้องใช้ชีวิตอยู่แบบนี้จนกว่าแพทย์จะหาวิธีรักษาเขาได้ ซึ่งตอนนี้ถือว่ายังมืดแปดด้าน มีแต่ต้องรักษาตามอาการเท่านั้น 


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่