ถ้ารถของคุณมีปัญหา และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่รับรถ… คุณจะรู้สึกยังไงบ้าง?

สำหรับผม เรื่องนี้ผมพยายามอดทนและทำตามขั้นตอนของฮอนด้ามาตลอด เข้า–ออกศูนย์บริการเฉพาะเรื่อง ซันรูฟ เพียงเรื่องเดียวมากกว่า 8–9 ครั้ง จอดรถทิ้งไว้ก็ทำแล้ว ให้ศูนย์นำรถไปวิ่งทดสอบ 300–400 กิโลเมตรก็ทำแล้ว แต่ปัญหาก็ยังอยู่เหมือนเดิม และสุดท้ายทางเทคนิคกลับไม่ยอมรับว่าตัวอุปกรณ์อาจมีปัญหาคุณภาพตั้งแต่ต้น

ผมอยู่กับปัญหานี้มาเกือบ 1 ปี ใช้งานรถไปกว่า 50,000 กิโลเมตร และทำหนังสือร้องเรียนไปยังฮอนด้า ออโตโมบิล ถึง 4 ครั้ง ทว่าทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรคืบหน้า

จากรถใหม่ป้ายแดงที่ดีใจมากในวันแรก กลับต้องมาถูกรื้อ ถอดชิ้นส่วน ทั้งผ้าหลังคาและแผงประตูเพื่อเข้าถึงจุดที่คาดว่ามีปัญหา แต่สุดท้ายก็ยังแก้ไม่ได้ การถอดประกอบเหล่านั้นไม่เพียงไร้ผล แต่กลับทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ และหมดความเชื่อมั่นในความคงทนของรถในระยะยาว

ยิ่งซ่อมยิ่งชัดเจนว่าปัญหาน่าจะมาจากตัวซันรูฟเองที่อาจมีปัญหาคุณภาพ แต่กลับถูกปฏิเสธการเปลี่ยนอะไหล่ โดยให้เหตุผลว่า

“ประเมินเป็นเสียงดังเฉพาะจุด ถ้าวิ่งทั่วไปแล้วไม่เกิดเสียง ให้ยืนยันว่าปกติ ยังไม่อนุมัติ”

เป็นการปฎิเสธที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าผมได้ทำการทดสอบกับรถยนต์ CRV-G6 RS รุ่นเดียวกัน ถนนเส้นเดียวกัน ก็ไม่พบเสียงที่ซันรูฟที่ผมกำลังประสบปัญหาอยู่

ที่เจ็บใจยิ่งกว่า คือคลิปเสียงที่ทางฮอนด้าพูดถึง ผมเป็นผู้บันทึกเอง และส่งให้เมื่อวันที 30/11/2025 ที่ผ่านมา

และเมื่อวันที่ 2/12/2025 ที่ผมมีนัดตรวจเช็คระยะ 50,000 กม. พร้อมขอให้ศูนย์เก็บคลิปเสียงเพื่อยืนยันปัญหากับฮอนด้าด้วยอีกทางหนึ่ง ก็กลับถูกปฏิเสธไม่ตรวจสอบ

ผมพยายามเจรจาผ่านศูนย์บริการด้วยความอดทนมาตลอด แต่จากนี้ผมคงต้องใช้สิทธิผู้บริโภคผ่าน สคบ. เพื่อให้ทั้งฮอนด้าและศูนย์บริการแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงจัง

เพราะตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่พบความผิดปกติ คำตอบที่ผมได้รับแทบทุกครั้งคือ “ปกติ”… ทั้งที่มันไม่ปกติเลย

รถยนต์ทุกคันมีโอกาสเกิดปัญหาได้ แต่ปัญหาควรได้รับการแก้ไข ไม่ใช่หน้าที่ของผู้บริโภคที่ต้องแบกรับปัญหาเหล่านั้นไว้

ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ