ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย คือรสชาติที่ "จัดจ้าน" ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และเผ็ดร้อน ซึ่งกระตุ้นต่อมรับรสและสร้างความพึงพอใจอย่างยิ่งสำหรับผู้บริโภคที่คุ้นชินกับรสชาติเข้มข้นเหล่านี้ อาหารรสจืดอาจดูไร้ชีวิตชีวาเมื่อเปรียบเทียบกัน แต่เบื้องหลังความอร่อยที่ถูกปากนั้น หากบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปและต่อเนื่อง อาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาด้านสุขภาพที่ร้ายแรง โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคหัวใจ
รสชาติที่ "เกินพอดี" ต้นตอของ NCDs
กลุ่มโรค NCDs เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการบริโภคที่ไม่เหมาะสม การเสพติดรสชาติใดรสชาติหนึ่งที่มากเกินไป ล้วนส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งสิ้น
เค็มจัด (โซเดียมสูง) : การบริโภคโซเดียมเกินกว่าปริมาณที่แนะนำ (ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน) ทำให้ไตทำงานหนักเพื่อขับเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย นำไปสู่ความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง โรคไตวายเรื้อรัง และโรคหัวใจ
หวานจัด (น้ำตาลสูง) : น้ำตาลส่วนเกินในร่างกายเป็นปัจจัยสำคัญของโรคอ้วนและโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา
มันจัด (ไขมันสูง) : อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น ของทอด หรืออาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันปริมาณมาก อาจทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ
เปรี้ยวจัดและเผ็ดจัด : รสชาติที่จัดเกินไปอาจระคายเคืองกระเพาะอาหารและระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนหรือโรคกระเพาะได้
ผลกระทบต่ออวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
เมื่อพฤติกรรมการกินรสจัดดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง อวัยวะภายในต้องรับภาระหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ไต : เป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการบริโภคเค็มจัด ไตต้องทำงานอย่างหนักในการกรองโซเดียม ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไตเสื่อมและไตวายเรื้อรังในที่สุด
หัวใจและหลอดเลือด : ความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการกินเค็มเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง
ตับอ่อน : การบริโภคน้ำตาลสูงเรื้อรังทำให้ตับอ่อนต้องผลิตอินซูลินอย่างต่อเนื่องจนอาจเสื่อมประสิทธิภาพลง เกิดเป็นโรคเบาหวาน
ปรับสมดุลรสชาติเพื่อสุขภาพที่ดี
การลดการบริโภคอาหารรสจัดไม่ได้หมายถึงการงดอาหารไทยรสแซ่บโดยสิ้นเชิง แต่คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เคล็ดลับง่ายๆ เช่น การลดการเติมเครื่องปรุงรสในทุกมื้ออาหาร การเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน และการใช้วิธีปรุงอาหารด้วยการต้มหรือนึ่งแทนการทอด การสร้างความตระหนักรู้และปรับลิ้นให้คุ้นเคยกับรสชาติที่อ่อนลงเป็นกุญแจสำคัญสู่สุขภาพที่ดีในระยะยาว
ที่มา : โรงพยาบาลท่าตูม, เพื่อนภาคี, โรงพยาบาลนครธน, สสส., Gemini
บทความความรู้รอบตัวย้อนหลัง
https://pantip.com/profile/933113/topics
ความรู้รอบตัว - EP14 : อาหารรสจัด ... อร่อยปาก แต่ลำบากร่างกาย
รสชาติที่ "เกินพอดี" ต้นตอของ NCDs
กลุ่มโรค NCDs เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการบริโภคที่ไม่เหมาะสม การเสพติดรสชาติใดรสชาติหนึ่งที่มากเกินไป ล้วนส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งสิ้น
เค็มจัด (โซเดียมสูง) : การบริโภคโซเดียมเกินกว่าปริมาณที่แนะนำ (ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน) ทำให้ไตทำงานหนักเพื่อขับเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย นำไปสู่ความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง โรคไตวายเรื้อรัง และโรคหัวใจ
หวานจัด (น้ำตาลสูง) : น้ำตาลส่วนเกินในร่างกายเป็นปัจจัยสำคัญของโรคอ้วนและโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา
มันจัด (ไขมันสูง) : อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น ของทอด หรืออาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันปริมาณมาก อาจทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ
เปรี้ยวจัดและเผ็ดจัด : รสชาติที่จัดเกินไปอาจระคายเคืองกระเพาะอาหารและระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนหรือโรคกระเพาะได้
ผลกระทบต่ออวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
เมื่อพฤติกรรมการกินรสจัดดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง อวัยวะภายในต้องรับภาระหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ไต : เป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการบริโภคเค็มจัด ไตต้องทำงานอย่างหนักในการกรองโซเดียม ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไตเสื่อมและไตวายเรื้อรังในที่สุด
หัวใจและหลอดเลือด : ความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการกินเค็มเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง
ปรับสมดุลรสชาติเพื่อสุขภาพที่ดี
การลดการบริโภคอาหารรสจัดไม่ได้หมายถึงการงดอาหารไทยรสแซ่บโดยสิ้นเชิง แต่คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เคล็ดลับง่ายๆ เช่น การลดการเติมเครื่องปรุงรสในทุกมื้ออาหาร การเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน และการใช้วิธีปรุงอาหารด้วยการต้มหรือนึ่งแทนการทอด การสร้างความตระหนักรู้และปรับลิ้นให้คุ้นเคยกับรสชาติที่อ่อนลงเป็นกุญแจสำคัญสู่สุขภาพที่ดีในระยะยาว
ที่มา : โรงพยาบาลท่าตูม, เพื่อนภาคี, โรงพยาบาลนครธน, สสส., Gemini
บทความความรู้รอบตัวย้อนหลัง
https://pantip.com/profile/933113/topics