ผมกับภรรยา ซึ่งแต่ก่อนทำงานอยู่กทม แล้วพอแม่อยู่บ้านคนเดียวเพราะคุณพ่อได้เสียไปแล้ว ร่างกายก็โรยราตามอายุ ผม แฟน พี่ชายแฟน ตัดสินใจลาออกจากงาน ซึ่งที่ทำอยู่กทม ตัดสิใจกลับมาทำงานที่บ้าน ซึ่งผมกับแฟน มาทำร้านของชำต่อจากที่ทำไว้ให้แม่อยู่แล้ว (ตอนนั้นเพื่อให้แม่ได้พอมีรายได้) พอเรากลับมาเลยตัดสินใจมาทำต่อขยับขยาย ส่วนพี่ชายแฟนได้ไปทำงานโรงงานปกติแต่อยู่แถวบ้านไป-กลับ เข้าเรื่องครับ ผมไม่รู้ว่าปกติรึป่าว เหมือนแม่แกจะจับจ้องผมตลอดเวลา พยายามบอกนั้นนี่ทุกๆเรื่องแบบน้ำเสียงใช้ไม่ได้เลยครับ บอกแบบไม่มองหน้าหันหนี อาจจะงง ยกตัวอย่างมอเตอร์ไซค์ของแกซึ่งแกไม่เก็บจอดตากแดดไว้ ผมซึ่งขายของอยู่ในร้านหรือทำอะไรในบ้านก็โดนด่าว่าทำไมไม่รู้จักเก็บมักง่ายซึ่งว่าผม เศษกระดาษปลิวมาจากไหนไม่รู้ตกลงในครัวที่บ้านก็บอกว่าผมเป็นคนไปทิ้งไม่รู้จักเก็บ จานชามที่แฟนพี่กินไว้กับเพื่อนๆ ไม่เก็บไม่ล้างผมไปเก็บมาล้างให้ ซึ่งผมเป็นคนล้างจานเองทุกวัน คน4คนในครอบครัว ผมทำให้หมด ทุกเรื่อง ผมตื่นตี2-3ไปตลาด กลับมาขายของเช้า พอผมนอนกลางวันหรือพักผ่อนชัวโมงสองชัวโมงว่าผมขี้เกียจ บ่นผมต่างๆนาๆ อะไรที่ไม่ดีคือนึกถึงผมไว้ก่อน ซึ้งลูกชายผมนี่ไม่อยากจะพูดเลยครับ แม่คือหาให้ทุกอย่าง จานชามไม่เก็บ รอผมจัดการให้อย่างเดียว รถผมยืมไปไม่เก็บไม่ถอดกุญแจค้างคืนไว้ ผมต้องคอยเก็บเอง และะเรื่องจุกจิกอีกเยอะมาก ผมควรทำยังไง ปรึกษาใครก็มีแต่บอกว่าทนไปรักลูกสาวเขา คือผมต้องทนมากแค่ไหน ผมทำถูกต้องทุกอย่าง ลาออกจากงานมาดูแล แต่งสู่ขอมีขันหมากตามที่เรียกร้องทุกอย่าง ผมช่วยสุดๆเท่าที่ผมจะช่วยได้ คือผมไม่รู้จะทนได้อีกเท่าไหร่ ผมต้องทำยังไงดีครับ อาจเป็นคนเล่าเรื่องไม่เก่ง แต่เป็นลักษณะแบบนี้ จากตื่นนอนจนเข้านอนเลยครับ ผมไม่เข้าใจเลย
ปัญหาแม่ยายกับลูกเขย