สวัสดีครับเพื่อน ๆ สมาชิกชาวพันทิปทุกท่าน ผมหมอพูมครับ
กระทู้นี้เกิดจากคำถามยอดฮิตที่ผมเจอมาตลอด คือ "ควรแลกเงินเยนเมื่อไหร่ดี? ล่วงหน้านานๆ หรือรอใกล้ๆ?" วันนี้ผมจึงขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงจากการแลกเงินเยนสะสมใน Travel Card มาเป็นระยะเวลา 3 ปีเต็ม (ตั้งแต่ปลายปี 2022 จนถึงปลายปี 2025) เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพรวมของอัตราแลกเปลี่ยน และใช้ประกอบการตัดสินใจครับ
1. ทำไมผมถึงเลือก youtrip (และเลิกใช้บัตรอื่น)?
ผมเป็นสายเที่ยวญี่ปุ่นตัวยง ไปมาแล้ว 11 รอบ ตั้งแต่สมัยต้องวิ่งหาร้านแลกเงินดีๆ จนเข้าสู่ยุค Travel Card ผมเคยใช้ SCB PLANET เป็นใบแรกๆ ครับ
แต่สุดท้ายมาลงตัวที่ Youtrip เหตุผลหลักคือ:
• ✅ ฟรีค่าธรรมเนียมกดเงินเยนที่ตู้ ATM (7Bank, Aeon, Japan Post) ซึ่งโปรนี้ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผมเลือกใช้บัตรนี้แบบต่อเนื่อง
• ✅ สไตล์การใช้: ผมจะกดเงินสดที่ญี่ปุ่นทีละ ¥100,000 (สูงสุดต่อครั้งที่ตู้รองรับ) ทำให้ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากตั้งแต่แรก
• ✅ ความยืดหยุ่น: สามารถใส่เงินบาทเตรียมไว้ใช้ในประเทศอื่นๆ ที่ไม่มีให้แลกล่วงหน้าได้ด้วย (ผมเคยใช้ที่เกาหลี ยุโรป จีนผูก Alipay และสิงคโปร์ ไม่มีปัญหาเลยครับ)
2. แผนการล่าเรท: "ยิ่งอ่อนยิ่งแลก" สะสม 3 ปี
ผมมีเป้าหมายชัดเจนว่า "ยิ่งเงินเยนอ่อน จะยิ่งทยอยแลกสะสม" โดยกำหนดวงเงินแลกแต่ละครั้งที่ 10,000 บาท ไล่มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2022
📊 ตารางอัตราแลกเปลี่ยนที่ผมแลกสะสม (พ.ย. 2022 - พ.ย. 2025):
💡 ข้อสังเกตสำคัญจากตาราง:
• เรทไม่ได้แข็งช่วงเทศกาล: หลายคนกังวลว่าแลกใกล้ช่วงฤดูท่องเที่ยว (เช่น ซากุระ หรือใบไม้เปลี่ยนสี) แล้วเรทจะพุ่งสูง แต่จากข้อมูลของผมจะสังเกตได้ว่า เงินเยนกลับอ่อนค่าลงจากปกติด้วยซ้ำ
• ความผันผวน: แม้จะแลกสะสมมาเรื่อยๆ แต่หากดูเรท ณ วันที่เดินทางจริง บางครั้งก็ไม่ได้ต่างจากเรทที่สะสมไว้มากนัก (หากไม่ได้แลกเป็นเงินหลักล้าน)
3. ข้อคิดสำคัญ: "หยุดจมเงิน! ดอกเบี้ยสำคัญกว่าส่วนต่างเรท"
นี่คือประเด็นหลักที่ผมอยากเน้นย้ำครับ:
"ถ้าคุณไม่ได้แลกเงินเป็นหลัก 'ล้านบาท' ส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้ดีกว่า/แย่กว่า 0.01-0.03 สตางค์ ไม่ได้มากขนาดนั้นเลยครับ"
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ดอกเบี้ยที่คุณเสียโอกาสไป
• เงินจมในบัตร: เมื่อคุณแลกเงินเป็นเยนแล้ว เงินก้อนนั้นจะ "ถูกแช่แข็ง" อยู่ใน Travel Card และ ไม่ได้ดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว
• เงินทำงาน: การเอาเงินก้อนนั้นไปฝากใน บัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูง หรือบัญชีอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำ จะทำให้เงินของคุณเติบโตไประหว่างที่รอวันเดินทาง
✅ คำแนะนำของผม: ไม่ต้องรีบแลกเงินก้อนใหญ่ล่วงหน้าเป็นปี จะใช้เมื่อไหร่ ค่อยรอจังหวะที่เรทถูกแล้วแลกใกล้ๆ ทริป หรือเอาเงินไปฝากกินดอกเบี้ยไว้ก่อนดีกว่าครับ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเกี่ยวกับการแลกเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสบายใจนะครับ ไม่ต้องเครียดเรื่องเรทจนเกินไปจนลืมวางแผนเที่ยว!
ใครมีประสบการณ์หรือเทคนิคอื่น ๆ ในการแลกเงิน แชร์กันได้เลยนะครับ! 🙏
[CR] 📌 รีวิวหมดเปลือก! แลกเงินเยนกับ youtrip สะสม 3 ปี (2022-2025) ได้เรทดีแค่ไหน? พร้อมคำแนะนำจากคนเที่ยวญี่ปุ่น 11 รอบ
กระทู้นี้เกิดจากคำถามยอดฮิตที่ผมเจอมาตลอด คือ "ควรแลกเงินเยนเมื่อไหร่ดี? ล่วงหน้านานๆ หรือรอใกล้ๆ?" วันนี้ผมจึงขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงจากการแลกเงินเยนสะสมใน Travel Card มาเป็นระยะเวลา 3 ปีเต็ม (ตั้งแต่ปลายปี 2022 จนถึงปลายปี 2025) เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพรวมของอัตราแลกเปลี่ยน และใช้ประกอบการตัดสินใจครับ
1. ทำไมผมถึงเลือก youtrip (และเลิกใช้บัตรอื่น)?
ผมเป็นสายเที่ยวญี่ปุ่นตัวยง ไปมาแล้ว 11 รอบ ตั้งแต่สมัยต้องวิ่งหาร้านแลกเงินดีๆ จนเข้าสู่ยุค Travel Card ผมเคยใช้ SCB PLANET เป็นใบแรกๆ ครับ
แต่สุดท้ายมาลงตัวที่ Youtrip เหตุผลหลักคือ:
• ✅ ฟรีค่าธรรมเนียมกดเงินเยนที่ตู้ ATM (7Bank, Aeon, Japan Post) ซึ่งโปรนี้ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผมเลือกใช้บัตรนี้แบบต่อเนื่อง
• ✅ สไตล์การใช้: ผมจะกดเงินสดที่ญี่ปุ่นทีละ ¥100,000 (สูงสุดต่อครั้งที่ตู้รองรับ) ทำให้ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากตั้งแต่แรก
• ✅ ความยืดหยุ่น: สามารถใส่เงินบาทเตรียมไว้ใช้ในประเทศอื่นๆ ที่ไม่มีให้แลกล่วงหน้าได้ด้วย (ผมเคยใช้ที่เกาหลี ยุโรป จีนผูก Alipay และสิงคโปร์ ไม่มีปัญหาเลยครับ)
2. แผนการล่าเรท: "ยิ่งอ่อนยิ่งแลก" สะสม 3 ปี
ผมมีเป้าหมายชัดเจนว่า "ยิ่งเงินเยนอ่อน จะยิ่งทยอยแลกสะสม" โดยกำหนดวงเงินแลกแต่ละครั้งที่ 10,000 บาท ไล่มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2022
📊 ตารางอัตราแลกเปลี่ยนที่ผมแลกสะสม (พ.ย. 2022 - พ.ย. 2025):
• เรทไม่ได้แข็งช่วงเทศกาล: หลายคนกังวลว่าแลกใกล้ช่วงฤดูท่องเที่ยว (เช่น ซากุระ หรือใบไม้เปลี่ยนสี) แล้วเรทจะพุ่งสูง แต่จากข้อมูลของผมจะสังเกตได้ว่า เงินเยนกลับอ่อนค่าลงจากปกติด้วยซ้ำ
• ความผันผวน: แม้จะแลกสะสมมาเรื่อยๆ แต่หากดูเรท ณ วันที่เดินทางจริง บางครั้งก็ไม่ได้ต่างจากเรทที่สะสมไว้มากนัก (หากไม่ได้แลกเป็นเงินหลักล้าน)
3. ข้อคิดสำคัญ: "หยุดจมเงิน! ดอกเบี้ยสำคัญกว่าส่วนต่างเรท"
นี่คือประเด็นหลักที่ผมอยากเน้นย้ำครับ:
"ถ้าคุณไม่ได้แลกเงินเป็นหลัก 'ล้านบาท' ส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้ดีกว่า/แย่กว่า 0.01-0.03 สตางค์ ไม่ได้มากขนาดนั้นเลยครับ"
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ดอกเบี้ยที่คุณเสียโอกาสไป
• เงินจมในบัตร: เมื่อคุณแลกเงินเป็นเยนแล้ว เงินก้อนนั้นจะ "ถูกแช่แข็ง" อยู่ใน Travel Card และ ไม่ได้ดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว
• เงินทำงาน: การเอาเงินก้อนนั้นไปฝากใน บัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูง หรือบัญชีอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำ จะทำให้เงินของคุณเติบโตไประหว่างที่รอวันเดินทาง
✅ คำแนะนำของผม: ไม่ต้องรีบแลกเงินก้อนใหญ่ล่วงหน้าเป็นปี จะใช้เมื่อไหร่ ค่อยรอจังหวะที่เรทถูกแล้วแลกใกล้ๆ ทริป หรือเอาเงินไปฝากกินดอกเบี้ยไว้ก่อนดีกว่าครับ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเกี่ยวกับการแลกเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสบายใจนะครับ ไม่ต้องเครียดเรื่องเรทจนเกินไปจนลืมวางแผนเที่ยว!
ใครมีประสบการณ์หรือเทคนิคอื่น ๆ ในการแลกเงิน แชร์กันได้เลยนะครับ! 🙏
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้