KEY POINTS
ทายาทรุ่นที่ 4 "แพทย์หญิง เพชรไพลิน พงษ์บริบูรณ์" นำความรู้การแพทย์สมัยใหม่ยกระดับยาแผนไทย
พลิกตำนานสมุนไพรไทยจาก "ยาผีบอก" ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์และงานวิจัย พิสูจน์ความปลอดภัย สร้างความน่าเชื่อถือในระดับโลก
ใช้ "ตำนาน" และ "มาตรฐาน" เป็นจุดแข็งในการบุกตลาดเจาะดูไบเปิดประตูสู่เวทีสากล
ธุรกิจครอบครัวที่สามารถดำเนินมาจนถึงรุ่นที่ 4 นั้นถือเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกในยุคปัจจุบัน บริษัท ขาวละออเภสัช จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมุนไพรเพื่อสุขภาพที่อยู่คู่ประเทศไทยมาเกือบศตวรรษ (ก่อตั้งปี พ.ศ. 2472) กำลังเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ในฐานะทายาทรุ่นที่ 4 “แพทย์หญิง เพชรไพลิน พงษ์บริบูรณ์” (คุณหมอเพชร) กับการเข้ามารับภารกิจการสานต่อตำนานอันยาวนานนี้ พร้อมกับนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เกือบ 100 ปี ให้ต่ออายุให้ยาวนานอย่างยั่งยืน
คุณหมอเพชร กล่าวว่า เธอไม่สามารถปล่อยให้บริษัทที่มีองค์ความรู้และความสามารถอันเป็นประโยชน์นี้ค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลาได้ ภารกิจหลักคือการหลอมรวม ภูมิปัญญาไทยอันเก่าแก่เข้ากับการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมยุคใหม่ เพื่อสร้างมาตรฐานโลก และลบภาพจำของ “สมุนไพร” ที่ครั้งหนึ่งถูกมองว่าเป็นเพียง ‘ยาผีบอก’
เปิดตำนาน 100 ปี กับ “ลุงขาวไขอาชีพ”
ตำนานของขาวละออเริ่มต้นจาก รุ่นที่ 1 คุณทวด ซึ่งเป็นแพทย์แผนไทย ท่านเริ่มต้นจากการปรุงยาสมุนไพรรักษาคนในครอบครัว ก่อนจะขยายวิสัยทัศน์เพื่อช่วยคนนอกครอบครัว โดยตั้งชื่อบริษัทในยุคนั้นว่า ขาวละออโอสถ วิธีการรักษาของคุณทวดมีความเป็นระบบ โดยเฉพาะยาถ่ายพยาธิ ที่ผู้ป่วยจะต้องนำพยาธิที่ถ่ายออกมาให้ดู เพื่อให้มั่นใจว่ายาได้ผลจริง ซึ่งยาหลักในยุคนั้น ของขาวละออ คือ ยา กวาด สมาน ลิ้น ซึ่งใช้รักษาแผลในปาก ร้อนใน และฝ้าขาวในลิ้นของเด็ก
เมื่อมาถึง รุ่นที่ 2 ซึ่งนำโดยคุณย่าและคุณปู่ คุณย่าเองก็เป็นแพทย์แผนไทยที่ต้องพากเพียรอย่างหนักเพื่อเรียนรู้และสอบใบประกอบโรคศิลป์ได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี ในยุคที่ผู้หญิงแทบไม่ได้เรียนหนังสือ ส่วนคุณปู่เข้ามาเสริมในด้านการตลาด
ช่วงนี้เองที่ ตำนาน "ลุงขาวไขอาชีพ" ได้ถือกำเนิดขึ้น คุณปู่เริ่มจากการเดินสายฉายหนังกลางแปลงในชนบท (ความบันเทิงหลักในยุคนั้น) เพื่อขายยา ยาหลักยังคงเป็นยา กวาด สมาน ลิ้น พร้อมสโลแกนติดปากที่คนอายุ 60 ปีขึ้นไปยังจำได้ คือ "1 บาท อย่าเหนียว ไม่เคี้ยว ใช้ป้าย"
นอกจากขายยาแล้ว คุณปู่ยังเห็นว่าชาวบ้านว่างงานรอเพียงแต่น้ำฝน จึงริเริ่มสอนอาชีพง่าย ๆ เช่น การทำโอ่งเก็บน้ำ และทำลูกอม นี่คือจุดเริ่มต้นของการช่วยเหลือสังคมที่ขยายจากวิทยุ (รายการ "ชีวิตนี้ยังมีหวัง") ไปสู่รายการโทรทัศน์ และกลายเป็น มูลนิธิ ลุงขาวไขอาชีพ ในปัจจุบัน ซึ่งยังคงดำเนินการสอนอาชีพให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมานานกว่า 50 ปี โดยเน้นจัดสอนในสถานที่ที่คนรากหญ้าเข้าถึงง่าย เพราะคนในยุคนั้นบางคนยังไม่มีรองเท้าใส่และกลัวสถานที่ราชการ
วิทยาศาสตร์Xแผนไทย ลบภาพ “ยาผีบอก”
ยุคที่ 3 (รุ่นคุณพ่อและคุณอา) เป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย เนื่องจากยาแผนไทยถูกมองในแง่ลบ ถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘ยาผีบอก’ หรือมียาปลอม ยาเถื่อน ใส่สเตียรอยด์ จนอาจนำไปสู่ภาวะไตวายได้
คุณพ่อและคุณอา ของคุณหมอ จึงร่วมกันสร้างโรงงานเพื่อยกระดับมาตรฐาน พวกเขาเริ่มทำ มาตรฐาน GMP และเริ่มการวิจัยร่วมกับหน่วยงานต่างประเทศและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้ามีประโยชน์ ปลอดภัย และสามารถรักษาคนได้จริง
คุณหมอเพชร ซึ่งเข้ามาสานต่อกิจการใน รุ่นที่ 4 ไม่เพียงแต่เป็นทายาท แต่ยังเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และยังศึกษาศาสตร์ฝังเข็มจีนเพิ่มเติม ทำให้เธอมีความรู้ถึง 3 ศาสตร์ ในการรักษาคนไข้
การเข้ามาของคุณหมอเพชร มีเป้าหมายเพื่อนำพาขาวละออไปข้างหน้า โดยมีแกนหลักคือการผสานความรู้ โดยการแปลองค์ความรู้แผนไทยดั้งเดิมให้เป็นภาษาที่โลกวิทยาศาสตร์ปัจจุบันสามารถเข้าใจและเชื่อถือได้
ปัจจุบัน ขาวละออไม่ได้เป็นเพียงยาแบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่เป็น "ภูมิปัญญาไทย ที่มีวิทยาศาสตร์สนับสนุน แล้วเราท็อปอัพนวัตกรรมเข้ามาด้วย" คุณหมอเพชร เข้ามาช่วยดูแลในส่วนวิชาการ การฝึกอบรม (Training) R&D การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ และการควบคุมมาตรฐานการผลิต (ISO, มรท., Green Industry)
ในขณะที่ตำรับยาเก่า ๆ ยังคงอยู่และได้รับการยอมรับ (เช่น ยาถ่ายพยาธิ หรือตำรับลูกใต้ใบที่ช่วยเรื่องตับ) ขาวละออยังมุ่งเน้นตลาด Health Supplement (อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ) มากขึ้น โดยใช้สมุนไพรไทยร่วมกับส่วนผสมระดับนานาชาติ (International Ingredient) ที่เสริมฤทธิ์กัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด ทุกผลิตภัณฑ์จะต้องผ่านการทดสอบ R&D เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพก่อนออกสู่ตลาดจริง โดยยึดหลักความยั่งยืนที่ว่า "เราจะทำของที่คนกินได้ประโยชน์และคนทำได้บุญ"
เจนเก่า-เจนใหม่ อัพสกิล ด้วย AI
ความท้าทายที่สำคัญของคุณหมอเพชรในการบริหารองค์กรครอบครัวที่มีมายาวนาน คือการจัดการกับ Generation GAP เนื่องจากพนักงานในองค์กรประกอบด้วยคนทุกวัย ตั้งแต่ Baby Boomer, Gen X, Gen Y ไปจนถึง Gen C
คุณหมอเพชร ให้ความสำคัญกับ "People" เป็นอันดับแรก เธอเชื่อว่า พนักงานเก่าแก่คือผู้สร้างความมั่นคงให้บริษัทในวันนี้ แต่ก็ตระหนักว่าโลกเปลี่ยนเร็ว จึงต้องลงทุนในการอัพสกิล (Upskill) พนักงานทุกคนอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายคือการทำให้พนักงานทุกคนเก่งขึ้น แม้ในส่วนของฝ่ายผลิต ซึ่งเป็นงานที่ใช้แรงงานรายวัน ก็จะต้องพยายามเรียนรู้การใช้เครื่องจักรและคอมพิวเตอร์ ปัจจุบัน องค์กรได้ริเริ่มโครงการ สอนการใช้ AI (Artificial Intelligence) ให้กับพนักงานแต่ละแผนก เพื่อใช้เป็นผู้ช่วยในการทำงาน ทำให้องค์กรไม่หยุดนิ่ง
นอกจากนี้ ในฐานะทายาทรุ่นใหม่ คุณหมอเพชร ต้องเผชิญความยากในการสวมบทบาทผู้นำ เธอต้องเรียนรู้ที่จะแยกเรื่องของครอบครัวออกจากเรื่องธุรกิจอย่างชัดเจน และต้องกล้าที่จะตักเตือนหรือตำหนิพนักงานที่มีอายุมากกว่า โดยอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและข้อมูลที่พร้อม (ซึ่งมาจากการหาความรู้เพิ่มเติม เช่น MBA และการลงไปสัมผัสหน้างานจริง)
บุกตลาด “ดูไบ” ด้วยจุดแข็งมาตรฐานและตำนาน 100 ปี
เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ซบเซาลง ขาวละออจึงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง โดยปัจจุบันมีการจำหน่ายสินค้าใน ลาว มาเลเซีย จีน และฮ่องกง
คุณหมอเพชร ได้เริ่มบุกตลาดตะวันออกกลาง โดยเลือก ดูไบ เป็นประตูสำคัญ (เพราะถ้าเข้าดูไบได้จะถือเป็นจุดอ้างอิงของประเทศอื่น ๆ) และสามารถขึ้นทะเบียนสินค้าได้แล้ว 5 ตัว การเดินหน้าสู่ตลาดโลกครั้งนี้ อาศัยจุดแข็งที่ปรึกษาแนะนำว่าคนอื่นไม่มี แต่ขาวละออมี คือ "ตำนาน" ซึ่งเป็นชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือที่สั่งสมมากว่าศตวรรษ
SME D Bank หนุนเงินทุนขยายโรงงานสีเขียว
ในการดำเนินงานตลอดมา ขาวละออได้รับความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจากพันธมิตรที่ดีอย่าง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ซึ่งได้เข้ามาช่วยให้คำแนะนำด้านการเงิน การลงทุน (เช่น การกู้เงินดอกเบี้ยพิเศษสำหรับการขยายโรงงานหรือซื้อเครื่องจักร) รวมถึงการให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ด้านต่าง ๆ เช่น สนับสนุนเข้าถึแหล่งทุนเพื่อธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการประหยัดภาษีนอกจากนี้ SME D Bank ยังเคยช่วยโปรโมทสินค้าผ่านการไลฟ์ขายของร่วมกับ อินฟลูเอนเซอร์ เพื่อเพิ่มการรับรู้ในตลาดด้วย
ขาวละออเภสัชในยุคที่ 4 จึงเป็นเหมือนการเดินทางที่ใช้ "ความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรแผนไทย" เป็นเข็มทิศ แต่ใช้ "วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่" เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อน เพื่อให้ตำนาน 100 ปีนี้ สามารถเดินต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
แผนไทย X วิทยาศาสตร์ ยุคใหม่ เจน 4 พลิกตำนาน ขาวละออเภสัช 100 ปี