ความรู้สึกหลังชม MV ได้(ด้าย)ไหม อีกครั้งกับการชูอัตลักษณ์ล้านนา ฑูตวัฒนธรรมภาคเหนือต้องมาแล้ว!

คงต้องบอกเลยว่าเพลงออริจิรัลซองของ CGM48 เนี่ย ทำออกมาดีทุกเพลงเลยครับ เริ่มจาก มะลิ ที่ทำให้ผู้คนรู้จักวงมากขึ้น การผสมผสานดนตรีไอดอลและดนตรีพื้นเมืองอย่างลงตัว ตามมาด้วย 2565 ที่ใช้เครื่องดนตรีของชาวชาติพันธ์ุพร้อมกับทำนองที่รู้สึกสบายใจเหมาะกับฤดูหนาวในช่วงนี้ และล่าสุดการมาของเพลง ได้(ด้าย)ไหม ก็ยังกังวลอยู่นิด ๆ ว่า CGM48 จะทำออกมาในแบบไหนที่ไม่ซ้ำจากของเดิม แต่เมื่อเพลงและ MV ถูกปล่อยออกมา มันทำให้ความกังวลที่ว่าหายไปเลย มันเป็นจุดเด่นจุดแข็งของวงจริง ๆ ครับกับการทำเพลงออริจินัลและชูเอกลักษณ์ของความเป็นเมืองเชียงใหม่ออกมาได้ทันสมัย

เพลง ได้(ด้าย)ไหม จะพูดถึงเนื้อหาของความฝัน ความตั้งใจ ซึ่งถูกเล่าเรื่องผ่านการถักทอผ้า (นำโดยนิชา) และฟ้อนรำ (น้องเพลิน) แต่มันก็คงเป็นอะไรที่เชยและไม่น่าสนใจแล้ว แต่อะไรที่จะทำให้สิ่งพวกนี้เข้าถึงง่ายล่ะ มันก็ต้องผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมและความสมัยใหม่เข้าด้วยกันถึงจะเวิร์ค ฉะนั้นเราจึงได้เห็นน้องเพลินออกไปหาแรงบันดาลใจจนไปเจอ ปลายฟ้า กับ สตางค์ปอนด์ เต้นติ๊กต๊อก จนได้ไอเดียบางอย่าง ขณะเดียวกัน นิชา ก็ไปเจอ รันม่า หงษ์หยก และ วาเลนไทน์ ใส่เสื้อผ้าลวดลายทันสมัย ทั้งสองคนเลยเอาไปปรับใช้จนสุดท้ายก็ได้ผลงานที่ผสมผสานความเป็นล้านนายุคใหม่ใน MV ครับ


ความผสมผสานแบบนี้มันก็สอดคล้องกับตัววง มันก็เป็นข้อความที่ตอกย้ำอีกครั้งว่า CGM48 เป็นวงเชียงใหม่ ไม่ใช่ BNK48 สาขาเชียงใหม่นะ 555 ดึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมความเชียงใหม่ออกมาเต็มที่ ทั้งคำเมือง สถานที่ เสื้อผ้า เรียกว่า Soft Power มาเต็ม เอาจริง ๆ นะ ถ้าต่อยอดร่วมมือกับราชการท้องถิ่นช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือร่วมกับแบรนด์เสื้อผ้าท้องถิ่น น่าจะไปได้ดีเลยครับ


ด้านเนื้อหาเพลงถึงแม้จะพูดถึงเรื่องความตั้งใจทำอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้พุ่งเป้าเรื่องของไอดอล แต่เนื้อเพลงมันก็ครอบคลุมทุกเรื่องเลยครับ ไม่ว่าเราจะเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ หางานใหม่ คิดโปรเจ็กต์ใหม่ หรือมีความฝัน เพลง ๆ นี้มันก็ช่วยให้กระตุ้นได้ดีเลยล่ะครับ ส่วนตัวชอบท่อนร้องที่ว่า "ไม่มีข้อแม้ ต้องได้เท่านั้น" มันดูหนักแน่นและจริงใจดีครับ

ทำนองก็มาแนว Pop ผสมกับดนตรีพื้นเมืองซึ่งก็หยิบเอาทำนองเพลง ฮานี้บ่าเฮ้ย ของ จรัล มโนเพ็ชร มาใช้ด้วยครับ ตัวดนตรีสนุกเลย ถึงอาจจะฟังคำร้องไม่ออกเท่าไหร่ แต่ภาคดนตรีทำเอาโยกหัวได้เลย คำร้องก็มีคำเมืองแทรกมาเป็นซิกเนเจอร์ของวงอยู่ละ ใครที่อยากได้อะไรแบบนี้ก็ฟินแน่นอนครับ ส่วนทางด้านท่าเต้นนี่คือน่าจะยาก+เหนื่อยแน่ ๆ มีวิ่งไปมา มีแปรขบวนอีก ถ้าดูใน MV ก็จะมีมุมถ่ายจากด้านบนมันจะสวยมาก ๆ ครับ ดูแล้วพวกท่าเต้นก็ให้กลิ่นอายวง 46 อยู่บ้างนะ



เซ็นเตอร์สองสาว น้องเพลิน กับ นิชา ถึงจะตัวเล็กทั้งคู่แต่โดดเด่นเมื่อสองคนนี้เพอร์ฟอร์มครับ สมแล้วที่เป็นดับเบิ้ลเซ็นเตอร์ ไม่จมครับ


ชุดเซ็มก็ยังคงความเขียวมิ้นท์อีกแล้ว แต่ก็มีความแทรกสีขาวกับน้ำตาลอ่อนแบ่งเป็นชั้น ๆ เข้าไปด้วย พร้อมกับมีลวดลายพื้นเมืองและมีพวงกุญแจห้อยเอวแต่ละคนอีก มันมีความคล้ายชุด เชียงใหม่ 106 อยู่ครับ บวกกับชายกระโปรงนึกถึงชายกระโปรงของชุดเซ็ม Borderless ทางฝั่ง BNK ด้วย เป็นเวอร์ชั่นเขียว/ขาว/น้ำตาล แทน มวลรวมรู้สึกว่ากลาง ๆ อยู่นะ มันมีความแอบรกรุงรังนิดหน่อยตรงที่มีพวงกุญแจห้อย แต่ตัวลวดลายดีเทลอันนี้สวยอยู่ครับ พวกชุดเสื้อส่วนบนนึกถึงพวกชุดจอมยุทธ์หญิงในหนังกำลังภายใน 5555

เสียงร้องแอบไม่คุ้นตอนแรก ๆ หน่อยครับ ช่วงท่อนฮุคมาเสียงสูงเลยทีเดียว เหมือนตอนเพลง สิ้นสุดทางแพ้ ก็เสียงสูงเหมือนกัน แต่พอฟังนาน ๆ เข้ามันก็ชินเองครับ เราอาจจะไม่คุ้นเสียงน้องเพลินกับนิชาเท่าไหร่นะ

ภาพรวมของ MV ได้(ด้าย)ไหม ก็ยังทำได้ดีมาก ๆ เหมือนเดิมครับกับออริจินัลซอง CGM48 เป็นจุดแข็งของวงจริง ๆ งานภาพสวย โลเคชั่นงาม แอร์ไทม์กลืน ๆ กันทุกคนนะ แล้วก็ชอบมากที่เอาเมมเบอร์ที่ไม่ติดเซ็มมาร่วมแสดง MV ด้วย ส่วนตัวคิดว่าอนาคตทั้ง BNK และ CGM น่าจะใช้แนวทางนี้กันแล้วแหละ กับการเอาเมมเบอร์ที่ไม่ได้ติดเซ็มมามีส่วนร่วม


ก็ต้องขอบคุณทั้งเมมเบอร์และทีมงานเบื้องหลังที่สร้างผลงานดี ๆ แบบนี้ออกมาครับ ถ้าใครดู MV จบแล้วอยากมาเที่ยวเชียงใหม่ อยากมาอยู่เชียงใหม่ รวมถึงอยากมาสมัครเป็นเมมเบอร์ CGM48 มันก็ถือว่าเพลงนี้ได้ทำงานของมันแล้วล่ะครับ





รับชม MV เพลง ได้(ด้าย)ไหม ได้ทาง Youtube CGM48 ครับ

ภาพ: CGM48
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่